เจออะไรบ้าง หลัง DSI บุกค้นหลังบ้าน “ดิไอคอน” ย่านรามอินทรา-ธัญบุรี
ดีเอสไอ บุกค้นที่ทำการกลุ่มบริษัทดิไอคอนกรุ๊ป เป้าหมาย 2 จุด ย่านรามอินทรา แหล่งจัดเก็บข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อตรวจสอบหาเส้นทางการเงิน กิจกรรมสำคัญบริษัท พบบางจุดมีการเคลื่อนย้ายหลักฐานคาดสกัดข้อมูลสำคัญ
ก่อนหน้านี้ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เคยออกมาจี้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรีบติดตามจับกุมตัว “บอสแล็ป” จิระวัฒน์ แสงภักดี ที่ตอนนี้ถูกส่งตัวเข้าไปนินในรเือนจำร่วมกับ 16 ผู้ต้องหาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเป็นตัวการสคัญที่คอยดูแลระบบหลังบ้านให้กับดิไอคอน
ล่าสุด กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ไปเข้าทำการตรวจค้นอาคาร 2 แห่ง จุดแรก เป็นอาคารสูง 4-5 ชั้น ย่านรามอินทรา ซึ่งเป็นสถานที่ ที่บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด ใช้เก็บข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ หรือเรียกว่า “คลาวด์ดาตาเซนเตอร์” ซึ่งบอสพอล วรัตน์พล เช่าพื้นที่เก็บข้อมูลทางดิจิทัลและข้อมูลทางเว็บไซต์ของบริษัท โดยจนท.มีการยึดและนำไปตรวจสอบประกอบการสืบสวน สิ่งที่ต้องตรวจสอบอย่างเร่งด่วนเนื่องจากข้อมูลทางดิจิทัลสามารถลบ และเปลี่ยนแปลงได้รวดเร็ว
จุดที่ 2 เป็นอาคารพาณิชย์ 4 ชั้น อยู่ในซอยรังสิต-นครนายก 34 ต.ประชาธิปัตย์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เป็นบริษัทที่จัดเก็บข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ หรือ เซิร์ฟเวอร์ ที่ ดิไอคอน ใช้จัดเก็บข้อมูลเช่นกัน จากการตรวจสอบพบว่าอาคารแห่งนี้มี “บอสแล็ป” หรือนายจิระวัฒน์ หนึ่งใน 18 ผู้ต้องหาเป็นคนดูแล โดยบริเวณชั้น 2 เป็นห้องเก็บอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พบร่องรอยว่ามีการขนย้าย ทรัพย์สินออกไปจากอาคารก่อนหน้านี้บางส่วน
ด้าน พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผู้อำนวยการกองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า ขณะนี้ รมว.ยุติธรรม ได้มีข้อสั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ ทำหนังสือถึงสภาทนายความ ให้ฟ้องดำเนินคดีทางแพ่งแบบกลุ่ม ควบคู่ไปกับการฟ้องคดีอาญาของตำรวจ เพื่อเอาทรัพย์มาเยียวยาผู้เสียหายในทางแพ่ง ให้เป็นประโยชน์ต่อผู้เสียหาย และเป็นกลไก และบรรทัดฐานในอนาคต
ทั้งนี้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำตัว “บอสพอล” วรัตน์พล ส่งฝากขังที่ศาลอาญารัชดาแล้ว โดยทนายความเปิดเผยถึงสาเหตุที่ไม่สามารถนำตัวไปฝากขังพร้อมกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ วานนี้ได้ เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น และนายวรัตน์พล หรือบอสพอลประสงค์ให้ข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมเอกสารที่เกี่ยวข้อง.
อ่านข่าวเพิ่มเติม