การเงินเศรษฐกิจ

ธุรกิจขายตรง คืออะไร ต่างจากแชร์ลูกโซ่ ทำไมคนถึงอยากเข้ามาเป็นเครือข่าย

บริษัทขายตรง คืออะไร ต่างจากแชร์ลูกโซ่อย่างไร ทำไมคนถึงอยากเข้ามาเป็นเครือข่าย รูปแบบธุรกิจแนวใหม่ที่การันตีรายได้จากลูกข่าย

ธุรกิจขายตรง (Direct Selling) เป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่มีมายาวนาน แตกต่างจากการค้าขายแบบดั้งเดิมที่เน้นการกระจายสินค้าให้กับผู้บริโภคผ่านตัวกลาง เช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าโชว์ห่วย หรือร้านสะดวกซื้อ เซเว่น ลอว์สัน

Advertisements

ธุรกิจขายตรง มีตัวละครสำคัญคือ ผู้ขาย หรือที่เรียกว่า ตัวแทน เป็นผู้กระจายสินค้าโดยตรงให้กับผู้บริโภค โดยไม่ผ่านช่องทางการค้าปลีกปกติ โมเดลธุรกิจนี้มีการพัฒนาและเติบโตอย่างมากในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ความงาม หรือสินค้าอุปโภคบริโภค

ทำไมหลายกิจการถึงเลือกธุรกิจขายตรง?

รูปแบบของธุรกิจขายตรง มีจุดแข็งคือเจ้าของผลิตภัณฑ์รายใหญ่สุด การันตียอดขายได้แน่นอน เพราะผู้ซื้อก็คือ ผู้ขายหรือตัวแทนจำหน่ายรองลงมา ที่จะเปิดบิล ทำการสื่อสารและนำเสนอผลิตภัณฑ์โดยตรงให้กับผู้บริโภค

วิธีการนี้ช่วยให้บริษัทสามารถลดต้นทุนการกระจายสินค้าและสามารถสร้างความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากขึ้น ธุรกิจขายตรงมักจะใช้โมเดลการสร้าง “เครือข่ายผู้ขาย” โดยเฉพาะในกรณีของธุรกิจขายตรงแบบหลายชั้นหรือ MLM (Multi-Level Marketing) ที่เปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายสามารถรับรายได้จากการแนะนำและสร้างทีมขายของตนเอง

ประวัติความเป็นมาของธุรกิจขายตรง

ธุรกิจขายตรงมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 19 ในอเมริกา โดยหนึ่งในบริษัทขายตรงที่มีชื่อเสียงคือ Avon ซึ่งก่อตั้งในปี 1886 ต่อมาโมเดลธุรกิจนี้ได้พัฒนาตัวเองและขยายไปทั่วโลก อีกตัวอย่างหนึ่งของบริษัทขายตรงที่ประสบความสำเร็จอย่างมากคือ Amway ที่ก่อตั้งในปี 1959 เป็นผู้นำในตลาดขายตรงระดับโลกมาจนถึงปัจจุบัน

ประเภทของธุรกิจขายตรง

ธุรกิจขายตรงมีรูปแบบการทำงานที่แตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโครงสร้างของแต่ละบริษัท ต่อไปนี้คือประเภทหลักๆ ของธุรกิจขายตรง

Advertisements

1. Single-Level Marketing (SLM)

Single-Level Marketing คือโมเดลการขายที่ตัวแทนขายทำการขายผลิตภัณฑ์โดยตรงให้กับลูกค้าโดยไม่สร้างทีมขาย โมเดลนี้มักพบในธุรกิจขนาดเล็กหรือผู้ที่ต้องการทำงานอิสระ ตัวแทนขายจะได้รับค่าตอบแทนจากยอดขายของตัวเองเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีการสร้างรายได้จากการแนะนำหรือการขยายทีม

2. Multi-Level Marketing (MLM)

Multi-Level Marketing หรือ MLM เป็นรูปแบบธุรกิจขายตรงที่เปิดโอกาสให้ตัวแทนขายสามารถสร้างทีมขายของตนเองได้ ตัวแทนสามารถรับรายได้จากการขายสินค้าของตนเองและรับค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายของทีมที่ตัวแทนสร้างขึ้น MLM เป็นโมเดลที่พบได้มากในธุรกิจขายตรงขนาดใหญ่ เช่น Amway และ Herbalife อย่างไรก็ตาม MLM มีความซับซ้อนในเรื่องโครงสร้างรายได้และการสร้างทีม ซึ่งอาจนำไปสู่ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับลักษณะการทำงานได้

3. Affiliate Marketing

Affiliate Marketing คือการที่ตัวแทนขายหรือบุคคลภายนอกทำการโปรโมตสินค้าและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการแนะนำลูกค้าให้มาซื้อสินค้า โดยไม่มีการสร้างทีมขาย Affiliate Marketing มักจะพบในธุรกิจที่ต้องการกระจายสินค้าแบบออนไลน์ เช่น แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่ให้ค่าตอบแทนแก่บล็อกเกอร์หรือนักการตลาดดิจิทัลที่ช่วยโปรโมตสินค้า

โมเดลการทำงานในธุรกิจขายตรง

1. นำเสนอสินค้าโดยตรง

หนึ่งในลักษณะเด่นของธุรกิจขายตรงคือการนำเสนอสินค้าผ่านการติดต่อโดยตรงระหว่างผู้ขายและผู้ซื้อ ตัวแทนขายมักใช้วิธีการสาธิตผลิตภัณฑ์หรือการจัดกิจกรรม เช่น งานแสดงสินค้าเล็กๆ ที่บ้านลูกค้าหรือสถานที่จัดงาน (Product Parties) การสาธิตนี้ช่วยให้ลูกค้าสามารถเห็นถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ก่อนตัดสินใจซื้อ

2. ระบบคอมมิชชั่น

ธุรกิจขายตรงส่วนใหญ่ใช้ระบบการจ่ายผลตอบแทนเป็นค่าคอมมิชชั่นจากยอดขาย โดยในโมเดล MLM ตัวแทนจะได้รับรายได้จากสองแหล่งคือ ค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายของตนเอง และค่าคอมมิชชั่นจากยอดขายของทีมที่ตนสร้างขึ้น แต่ในกรณีของ Single-Level Marketing ตัวแทนจะได้รับเพียงค่าคอมมิชชั่นจากการขายของตนเองเท่านั้น

3. การสร้างเครือข่ายผู้ขาย

ใน MLM การสร้างเครือข่ายผู้ขายเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่ง ตัวแทนที่มีศักยภาพสามารถสร้างทีมของตนเองโดยแนะนำผู้อื่นให้เข้ามาเป็นตัวแทนขาย และได้รับค่าตอบแทนจากยอดขายของทีม งานหลักของตัวแทนขายใน MLM จึงไม่เพียงแต่ขายสินค้าเท่านั้น แต่ยังต้องฝึกอบรมและสนับสนุนทีมงานของตนเองให้ประสบความสำเร็จในการขายด้วย

ข้อดีและข้อเสียของธุรกิจขายตรง

ข้อดี

  • ใช้เงินลงทุนต่ำ: การเริ่มต้นธุรกิจขายตรงมักใช้เงินลงทุนต่ำกว่าการทำธุรกิจแบบดั้งเดิม ตัวแทนขายไม่จำเป็นต้องซื้อสินค้ามาสต็อกหรือเปิดร้านค้าจริง ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจโดยไม่ต้องใช้เงินมาก
  • โอกาสการเติบโต: สำหรับตัวแทนที่สามารถสร้างทีมขายได้สำเร็จ พวกเขาสามารถรับรายได้แบบต่อเนื่องจากยอดขายของทีม แม้ตัวเองจะไม่ได้ทำงานขายโดยตรง ทำให้สามารถสร้างรายได้แบบ Passive Income ได้
  • ความยืดหยุ่น: ตัวแทนขายสามารถทำงานตามเวลาที่ตนเองสะดวกได้ ไม่ว่าจะเป็นการทำเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม

ข้อเสีย

  • โครงสร้างที่ซับซ้อน: สำหรับ MLM ตัวแทนต้องทำความเข้าใจโครงสร้างรายได้ที่ซับซ้อน และบางครั้งอาจมีการเข้าใจผิดเกี่ยวกับรายได้ที่สามารถทำได้จริง
  • ภาพลักษณ์ในสังคม: ธุรกิจขายตรงมักจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นแชร์ลูกโซ่หรือธุรกิจที่ไม่โปร่งใส ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่มมีความไม่ไว้วางใจ
  • การแข่งขันสูง: การหาลูกค้าหรือตัวแทนขายเพิ่มเติมอาจเป็นเรื่องยากในตลาดที่มีตัวแทนขายจำนวนมากอยู่แล้ว

ความแตกต่างระหว่างธุรกิจขายตรงกับแชร์ลูกโซ่

ธุรกิจขายตรงแบบ MLM และแชร์ลูกโซ่ (Pyramid Scheme) มีลักษณะที่คล้ายกันในเรื่องของการสร้างเครือข่าย แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน แชร์ลูกโซ่ ผู้เข้าร่วมจะต้องจ่ายเงินเพื่อเข้าร่วม รายได้หลักมาจากการหาสมาชิกใหม่ แต่ไม่มีการขายสินค้าหรือบริการที่แท้จริง ในขณะที่ธุรกิจขายตรงจะเน้นการขายสินค้าหรือบริการจริง โดยรายได้จะมาจากยอดขายไม่ใช่การหาสมาชิกใหม่

กลยุทธ์การประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรง

การสร้างตัวตนในฐานะผู้เชี่ยวชาญหรือผู้ที่มีความรู้ในสินค้าหรือบริการที่ขาย จะช่วยให้ตัวแทนขายมีความน่าเชื่อถือและสร้างฐานลูกค้าที่แข็งแกร่ง

การนำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำธุรกิจขายตรงเป็นสิ่งที่สำคัญในยุคปัจจุบัน การใช้โซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram หรือ Line แม้กระทั่ง Tiktok เพื่อโปรโมตสินค้าและสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วขึ้น

ใน MLM การฝึกอบรมทีมงานเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ตัวแทนขายที่มีทักษะในการอบรมและสนับสนุนทีมจะสามารถสร้างทีมขายที่แข็งแกร่งได้ ทีมงานที่มีความรู้และทักษะที่ดีจะช่วยเพิ่มยอดขายและขยายเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ การพัฒนาทักษะการขายและการสร้างแรงบันดาลใจให้ทีมงานถือเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จในธุรกิจขายตรง

แนวโน้มของธุรกิจขายตรงในอนาคต

ธุรกิจขายตรงในปัจจุบันต้องปรับตัวเข้าสู่โลกดิจิทัล เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว การซื้อขายออนไลน์และการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการขยายฐานลูกค้า โดยเฉพาะการใช้แพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Facebook, Instagram หรือ Tiktok ในการสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อดึงดูดลูกค้าใหม่และสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่า

การใช้เทคโนโลยี AI (Artificial Intelligence) และ Big Data จะมีบทบาทสำคัญในอนาคตของธุรกิจขายตรง ระบบ AI สามารถช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า สร้างประสบการณ์การซื้อขายที่เป็นส่วนตัว และช่วยในการทำการตลาดอัตโนมัติ Big Data ยังช่วยให้บริษัทขายตรงสามารถเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้าและปรับปรุงกลยุทธ์การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ธุรกิจขายตรงยังคงมีศักยภาพในการขยายตัวไปยังตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในประเทศแถบเอเชียและแอฟริกา ที่การเข้าถึงสินค้ายังไม่ครอบคลุมเท่าที่ควร การขยายตัวนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มยอดขาย แต่ยังช่วยให้บริษัทขายตรงสามารถสร้างเครือข่ายตัวแทนขายที่แข็งแกร่งในตลาดเกิดใหม่

ตัวอย่างธุรกิจขายตรงที่ประสบความสำเร็จ

Amway

เป็นบริษัทขายตรงระดับโลก ก่อตั้งขึ้นในปี 1959 ความสำเร็จของ Amway เกิดจากปัจจัยสำคัญหลายประการ เช่น การมีผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง ครอบคลุมหลากหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น Nutrilite, Artistry และ Amway Home ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และผ่านการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ทำให้ผู้บริโภคมั่นใจในคุณภาพ

นอกจากนี้ Amway ยังใช้ระบบการกระจายรายได้แบบหลายระดับ (MLM) ที่ช่วยให้ตัวแทนจำหน่ายสร้างรายได้จากยอดขาย และค่าคอมมิชชั่น พร้อมทั้งมีระบบสนับสนุน และการฝึกอบรม เพื่อพัฒนาศักยภาพของตัวแทน ให้ประสบความสำเร็จในธุรกิจ

Amway ให้ความสำคัญกับนวัตกรรม และการวิจัย เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ เช่น การใช้พืชออร์แกนิกใน Nutrilite และการวิจัยด้านการบำรุงผิวจากธรรมชาติใน Artistry รวมถึงมุ่งมั่นในการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม เช่น โครงการ Nutrilite Power of 5 ที่ช่วยเหลือเด็กขาดโอกาสทั่วโลก

ด้วยเครือข่ายระดับโลก Amway สามารถขยายตลาดไปกว่า 100 ประเทศ และปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรม และความต้องการของผู้บริโภคในแต่ละประเทศ ทำให้ Amway เติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นต้นแบบของธุรกิจเครือข่ายทั่วโลก

Herbalife

Herbalife Nutrition คือบริษัทขายตรงระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1980 โดย Mark Hughes เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและโภชนาการ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อควบคุมน้ำหนักและบำรุงสุขภาพ ปัจจุบันมีตัวแทนจำหน่ายในกว่า 90 ประเทศ

ความสำเร็จของ Herbalife เกิดจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ เช่น Formula 1 Nutritional Shake และ Herbalife24 โดยมีการวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและตรงตามความต้องการของผู้บริโภค

Herbalife ใช้ระบบ MLM ที่เปิดโอกาสให้ตัวแทนจำหน่ายสร้างรายได้ ทั้งจากการขาย และการสร้างทีม โดยเน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างตัวแทนและลูกค้า เสมือนเป็นที่ปรึกษาด้านสุขภาพ พร้อมทั้งมีระบบฝึกอบรม และกิจกรรม เพื่อพัฒนาทักษะการขาย

จุดเด่นอีกอย่างคือการสร้างชุมชนคนรักสุขภาพ เช่น Nutrition Clubs ที่ให้ลูกค้ามาร่วมกิจกรรม และรับคำแนะนำด้านโภชนาการ นอกจากนี้ Herbalife ยังสนับสนุนวงการกีฬา เช่น การเป็นสปอนเซอร์ให้กับทีมฟุตบอล และนักกีฬาชื่อดัง เพื่อเสริมสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์

Herbalife มุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ และมีมาตรฐานการผลิตระดับโลก รวมถึงให้ความสำคัญกับความยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคม เช่น โครงการ Herbalife Nutrition Foundation (HNF) ที่ช่วยเหลือเด็กขาดแคลนทั่วโลก

ธุรกิจขายตรงเป็นธุรกิจที่มีความหลากหลายและศักยภาพสูง ในยุคดิจิทัลนี้ การปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ และการสร้างเครือข่ายผู้ขายที่แข็งแกร่งเป็นกุญแจสำคัญในการประสบความสำเร็จ แม้ว่าจะมีข้อเสียบางประการ เช่น การแข่งขันสูงและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับรูปแบบการทำงานของ MLM แต่ธุรกิจขายตรงยังคงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นธุรกิจโดยใช้เงินลงทุนต่ำและมีโอกาสสร้างรายได้แบบต่อเนื่อง

ผู้ที่สนใจเข้าสู่ธุรกิจขายตรงควรศึกษาและทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโครงสร้างรายได้ของบริษัทให้ละเอียด เพื่อให้การตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนี้เป็นไปอย่างมีข้อมูลและมั่นใจว่าตนเองจะสามารถเติบโตและประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button