คำสั่งด่วน ปราบแก๊งกู้นอกระบบ ทวงหนี้โหด หลังรัฐแจกเงิน 1 หมื่น
ตำรวจสั่งทุกหน่วยเร่งปราบแก๊งเงินกู้นอกระบบ ฉวยโอกาสข่มขู่ทวงหนี้เหยื่อ หลังได้รับเงินช่วยเหลือดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาทจากรัฐบาล บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร./รอง ผอ.ศปน.ตร. มีหนังสือคำสั่งวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่.0070(ศปน.ตร.)/238 ลงวันที่ 26 ก.ย. ถึง ผบช.น, ภ.1-9, ก., สอท., สตม. และ สยศ.ตร. ให้เร่งกวดขันจับกุมเจ้าหนี้นอกระบบที่ฉวยโอกาสข่มขู่ ทวงหนี้ด้วยความรุนแรงจากประชาชนกลุ่มเปราะบาง หลังจากรัฐบาลเริ่มจ่าย เงินช่วยเหลือ 10,000 บาท
เนื่องจากมีรายงานว่ากลุ่มเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบได้ใช้โอกาสนี้ไปข่มขู่ ทวงหนี้จากลูกหนี้ที่ได้รับเงิน ทำให้ประชาชนไม่สามารถนำเงินไปใช้ตามวัตถุประสงค์ของรัฐบาลได้
เพื่อป้องกันและลดความเดือดร้อนของประชาชน ตำรวจจึงได้รับคำสั่งให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติกรรมดังกล่าว โดยให้ประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อระบุกลุ่มเป้าหมายและดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพ
“มติ ครม. เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ โดยจะดำเนินการกับกลุ่มเปราะบาง ประกอบด้วยผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ และผู้พิการ จำนวน 14.55 ล้านคน ซึ่งจะได้รับเงินคนละ 10,000 บาท ทั้งนี้ กรมบัญชีกลางกำหนดจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ ในวันที่ 25-27 และ 30 ก.ย.2567 โดยมีการจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิ์ในวันที่ 25 ก.ย.2567 ไปแล้วเป็นวันแรก
เนื่องจากได้รับข้อมูลว่ามีกลุ่มเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบได้ฉวยโอกาสนี้ ไปข่มขู่ทวงหนี้จากลูกหนี้ที่เป็นประชาชนกลุ่มเปราะบางดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่ได้รับเงินไปแล้ว ไม่สามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยเพื่อเป็นการลดภาระการใช้จ่ายและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพได้
เพื่อเป็นการป้องกันและลดความเดือดร้อนให้กับประชาชน จึงกำชับให้ทุกหน่วยดำเนินการกวดขัน จับกุมและบังคับใช้กฎหมายกับเจ้าหนี้ที่มีพฤติกรรมข่มขู่ ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ ใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ ตาม พ.ร.บ.การทวงถามหนี้ฯ พ.ศ.2558 และความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง โดยให้ประสานข้อมูลกลุ่มเป้าหมายประชาชนกลุ่มเปราะบางกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และให้ รอง ผบช. ที่รับผิดชอบ กำกับดูแลการปฏิบัติอย่างใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติให้ประชาชนได้รับทราบโดยทั่วกัน จึงแจ้งมาเพื่อทราบและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง