ข่าวดาราบันเทิง

เปิดชีวิต “วู้ดดี้ วุฒิธร” โดนบูลลี่ เพราะเป็น LGBTQ สู่วันที่สังคมยอมรับ

‘วู้ดดี้’ พิธีกรชื่อดัง เผยชีวิตวัยเด็ก ถูกบูลลี่เพราะเป็น LGBTQ เล่าเส้นทางล่าฝันอยากเป็นนักแสดง ถูกโหวตให้เป็นดีเจที่มีคนไม่ชอบมากที่สุด พร้อมความลับเกี่ยวกับไอดอลที่ไม่เคยมีใครรู้มาก่อน

วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง ได้ออกมาบอกเล่าเรื่องราวชีวิตตั้งแต่เด็กจนโต ผ่านรายการ “Level up EP.14” ที่เผยแพร่ผ่านยูทูบ THAIRATH Online Originals เมื่อวันที่ 19 ก.ย. 67 โดยเจ้าตัวได้เปิดใจตั้งแต่ปมถูกบูลลี่เรื่องเพศ ไปจนถึงความฝันการเป็นนักแสดง ตลอดจนการเผชิญหน้ากับโรคแพนิคอย่างกระทันหัน ซึ่งนำมาสู่การปล่อยวางในชีวิตโดยมีพระพุทธเจ้าเป็นแบบอย่าง แต่ละเรื่องจะดิ่งดาวน์ หรือชวนให้ใจฟูได้แค่ไหน The thaiger สรุปมาให้ฟังอย่างครบถ้วนในบทความนี้แล้ว

Advertisements
วู้ดดี้เล่าเรื่องถูกบูลลี่ในวัยเด็ก
ภาพจาก : Youtube THAIRATH Online Originals

ชีวิตวัยเด็กกับการถูกบูลลี่เรื่องเพศ

วู้ดดี้เล่าว่าสู้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กสมัยที่ยังอยู่ประเทศสิงคโปร์ เพราะคุณพ่อทำงานเป็นนักการทูต สังคมเต็มไปด้วยความท้าทาย มีการตั้งคำถามเชิงเหยียดว่าคนไทยขี่ช้างไปโรงเรียนหรือเปล่า และอีกหนึ่งความทรงจำคือสมัยเรียนไฮสคูล แล้วถูกบูลลี่เรื่องเพศ เนื่องจากตอนนั้นวู้ดดี้แสดงออกชัดเจนว่าเป็น LGBTQ คนที่ไม่เข้าใจก็ใช้วิธีชกต่อยลงไม้ลงมือ ซึ่งตอนแรกเจ้าตัวก็สงสัยว่าทำไมถึงโดนปฏิบัติแบบนี้ แต่สุดท้ายก็จบที่สาเหตุว่าพวกเขาแค่ไม่เข้าใจตัวตนของเรา

หลังจากถูกบูลลี่ วู้ดดี้ก็เปลี่ยนสิ่งเหล่านั้นเป็นความมั่นใจ เพราะไม่อยากติดอยู่กับวงวนที่มองว่าตัวเองเป็นเหยื่อซึ่งมีแต่จะทำให้จิตใจทุกข์มากขึ้น ซึ่งการคิดแบบนี้ทำให้เขาผ่านทุกอย่างไปได้ เมื่อไหร่ที่โดนปฏิเสธก็แค่ไปต่อ เหมือนครั้หนึ่งที่เคยอยากเล่นละครเวทีมาก แต่แคสติ้งไม่ผ่าน ก็แค่พยายามมากขึ้นเรื่อย ๆ จนมารู้ทีหลังว่าความฝันที่แท้จริงคือการเป็นนักแสดง

แต่แล้วฝันนั้นก็ถูกดับลงเมื่อพิธีกรชื่อดังบินกลับมาที่ประเทศไทย ด้วยความที่อยู้ต่างประเทศตั้งแต่เด็ก ทำให้พูดภาษาไทยไม่ค่อยชัด หนำซ้ำยังต้องปรับตัวกับสังคมใหม่ ที่มักตั้งคำว่าว่าเราเป็นหรือไม่เป็นเพศอะไร กระทั่งครั้งหนึ่งวู้ดดี้เคยคิดจะผันตัวเป็นผู้ชายที่ชื่นชอบผู้หญิง เพราะอยากให้สังคมยอมรับ แต่ในท้ายที่สุดก็พบว่าไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง จึงเลือกกลับมาใช้ชีวิตอย่างซื่อสัตย์

วู้ดดี้บอกว่าครอบครัวน่าจะรู้เรื่องรสนิยมของเขามาตั้งแต่เด็กแล้ว โดยเฉพาะคุณยายที่อยู่ด้วยกันจนน่าจะสังเกตได้ ซึ่งความอบอุ่นเหล่านี้เองที่ทำให้วู้ดดี้ค้นพบพื้นที่ปลอดภัย จนเกิดเป้นความมั่นใจทำให้เขากล้าที่จะเผชิญหน้ากับคนอื่นในสังคมได้

วู้ดดี้ โอ๊ต แต่งงาน
ภาพจาก : woodytalk

เส้นทางในวงการบันเทิงของวู้ดดี้

แม้จะมีฝันอยากเป็นนักแสดง แต่วู้ดดี้ก็คิดเสมอว่าตนเองไม่คู่ควรกับสิ่งนี้ ทั้งเหตุเรื่องหน้าตา ไหนจะปัญหาด้านการใช้ภาษา จนได้มีโอกาสไปเล่นเป็นตัวประกอบในเอ็มวีเพลงหนึ่ง ซึ่งได้ออกหน้ากล้องเพียง 2 วินาที และได้ค่าตอบแทน 500 บาท แต่นั่นเป็นความสุขเล็ก ๆ ที่ผู้ชายคนนี้ตั้งใจฝึกซ้อมอย่างหนัก วางแผนให้ผู้คนจับจ้องมาที่ตัวเองมากที่สุดในเวลาที่มีอยู่

Advertisements

จนวันหนึ่งวู้ดดี้มีโอกาสได้ก้าวเข้าสู่อาชีพดีเจ ซึ่งเจ้าตัวยอมรับว่าเป้นงานที่ตอบโจทย์ชีวิตของเขามาก เพระาสามารถเป็นตัวเองได้เต็มที่ แต่ก็มีคอมเมนต์ในโซเชียลที่หาว่าดัดจริตเกินไป ทวว่าสิ่งที่แย่กว่านั้นคือการจัดอันดับความนิยมในกลุ่มดีเจ ซึ่งมีผลสำรวจออกมาว่าเขาคืออันดับ 1 ที่มีคนไม่ชอบมากที่สุด

หลังจากได้รับรู้ว่ามีคนจำนวนมากไม่ชอบตัวเอง วู้ดดี้ก็ใช้ “ความมั่น” นำทางชีวิตมากกว่าเดิม ทำตัวแรงขึ้น ไม่สนว่าคนอื่นจะมองหรือคิดกับตนเองอย่างไร โดยเจ้าตัวได้ยอมรับว่าพอมองย้อนกลับไปก็รู้สึกว่าการกระทำในช่วงนั้นไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง แต่เป็นการแสดงให้คนอื่นเห็นว่าเราแข็งแกร่ง และอยู่กับการใช้ชีวิตแบบนั้นเป็นเวลา 7 – 8 ปี ในช่วงที่ทำรายการเกิดมาคุย

อย่างไรก็ตาม ถึงหลายคนจะมองว่าตัวตนของวู้ดดี้ในอดีตดูเป็นคนแรงมาก แต่ต้องยอมรับว่ากระแสรายการค่อนข้างดี จนถึงจุดที่รู้สึกว่าฝืนอยุ่ในคาแรกเตอร์แบบนั้นไม่ไหวแล้ว จึงยุติการทำรายการลง ผันมาทำงานเชิงสร้างสรรค์ พูดคุยเรื่องชีวิตที่ลึกซึ้งมากขึ้น แต่ต้องพบกับเรตติ้งที่ตกลงทุกวัน จนวู้ดดี้ถึงกับตัดพ้อว่า “ของดีคนไม่อยากดู คนอยากดูดราม่า”

วู้ดดี้ วุฒิธร เลือกตั้งล่วงหน้า
ภาพจาก : IG @woodytalk

รับมือโรคแพนิค รีแคปชีวิตในวัย 47 ปี

นอกจากเรื่องอาชีพและความฝันแล้ว วู้ดดี้ยังได้พูดถึงปัญหาสุขภาพที่เกิดขึ้นจนรับมือไม่ทันด้วย สืบเนื่องจาการใช้ชีวิตที่เน้นความเป๊ะในทุกเรื่อง ทำให้กลายเป็นคนคิดมาก คิดเยอะ ทั้งยังกังวลว่าคนจะชอบตัวเองไหม ทำให้มีอาการ “แพนิค” (Panic) เกิดขึ้น ซึ่งไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะป่วยเป็นโรคทางจิตเวชแบบนี้ แต่วู้ดดี้ก็ได้ยอมรับว่าทั้งหมดเกิดจากควาไม่ปล่อยวาง ทุกวันนี้จึงพยายามคุยกับตัวเองเวลาที่มีความกังวลเกิดขึ้น และมองให้เป็นเรื่องสนุก

สิ่งที่เซอร์ไพรซ์ไปกว่านั้นคือวู้ดดี้ได้เผยว่าไอดอลของเขาคือ ‘เจ้าชายสิทธัตถะ’ หรือพระพุทธเจ้า เพราะอยากปล่อยวางให้ได้แบบนั้น แต่ก็ไม่ใช่กับทุกเรื่อง อะไรที่เกี่ยวข้องกับคนอื่นก็ต้องจัดการวางแผนให้ดีด้วย ไม่ใช่ปล่อยปละละเลยจนไม่สนใจอย่างอื่น

ในช่วงท้ายของรายการ พิธีกรมากความสามารถเปิดใจที่ผ่านมาตลอด 40 กว่าปี เขาใช้ร่างกายเปลืองมากจนแทบไม่มีเวลาหยุดพัก ตอนนี้จึงหันกลับมาดูแลตัวเอง และรักตัวเองมากขึ้นทั้งภายในและภายนอก ทั้งยังเสริมว่ารู้สึกว่า ณ ปัจจุบันนี้ได้เป็นตัวเองเต็มที่แล้ว แต่ในอนาคตก็อาจมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ เพราะเป็นคนที่ไม่ยึดติด

อีกทั้งวู้ดดี้ยังได้ทิ้งท้ายไว้ว่า คนเราเกิดมาชาติเดียวแต่สามารถเป็นได้หลายอย่าง เหมือนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามทิศทางของลม เพียงแค่ใช้ชีวิตในตอนนี้ให้มีความสุข ได้ไล่ตามความฝัน ตื่นมาค้นพบว่าชีวิตยังมีความหมาย เพียงเท่านี้ก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดแล้ว

วู้ดดี้ วุฒิธร เลือกตั้งล่วงหน้า
ภาพจาก : IG @woodytalk
วู้ดดี้วุฒิธร เลือกตั้งล่วงหน้า66
ภาพจาก : IG @woodytalk
วู้ดดี้ โอ๊ต แต่งงาน
ภาพจาก : woodytalk
วู้ดดี้เกิดมาคุย
ภาพจาก : IG @woodytalk
วู้ดดี้เกิดมาคุย
ภาพจาก : IG @woodytalk

อ้างอิง : Youtube THAIRATH Online Originals

ภาพจาก : IG @woodytalk

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Woralada

นักเขียนเรื่องไลฟ์สไตล์ ข่าวบันเทิง และประเด็นการเมือง เวลาว่างชอบดูซีรีส์ อ่านวรรณกรรม และไปคอนเสิร์ตเพื่อต่อพลังงานชีวิต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button