ปภ. ออกประกาศ รัฐบาลเตรียมมอบเงินช่วยเหลือ-เยียวยาผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 67 อนุมัติวงเงิน 3 พันล้านบาท เช็กหลักเกณฑ์ผู้ได้เงิน เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงิน ที่นี่
จากสถานการณ์วิกฤตอุทกภัยในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ ทั้งจากเหตุท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง น้ำท่วมขัง และฝนต่อเนื่อง รวมถึงการได้รับอิทธิพลของพายุที่เกิดขึ้นในแถบประเทศเพื่อนบ้าน ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิต ทรัพย์สิน และวิถีการดำรงชีวิต
ล่าสุด (18 กันยายน 2567) เพจเฟซบุ๊ก กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย DDPM รายงานว่า คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 พร้อมอนุมัติกรอบวงเงิน 3,045.52 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยเบื้องต้นในพื้นที่ 57 จังหวัด รวม 338,391 ครัวเรือน
ขณะนี้ ปภ. เตรียมหารือจังหวัดที่ประสบวางแนวทางการขอรับเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดเพื่อให้มีความชัดเจน และสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนได้โดยเร็วที่สุด
เมื่อวานนี้ (17 กันยายน 2567) คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ เงื่อนไข วิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 พร้อมทั้งได้อนุมัติกรอบวงเงิน 3,045.52 ล้านบาท ภายใต้งบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย โดยเป็นค่าดำรงชีพเบื้องต้นแก่ครอบครัวผู้ประสบภัยเป็นกรณีพิเศษ
นายไชยวัฒน์ กล่าวว่า สำหรับหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 ได้กำหนดหลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยากรณีอุทกภัยที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อที่อยู่อาศัยในช่วงฤดูฝน ซึ่งเกิดสถานการณ์ขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นมา
อุทกภัยทั้งในกรณีน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง รวมถึงผลกระทบจากการระบายน้ำจนส่งผลกระทบให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้ และจังหวัดได้ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและ /หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน จากการสำรวจข้อมูลครัวเรือนเบื้องต้นขณะนี้มีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย 57 จังหวัด จำนวน 338,391 ครัวเรือน
หลักเกณฑ์การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย 2567
การจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในช่วงฤดูฝน ปี 2567 จะแบ่งเป็น 3 กรณี ดังนี้
1. กรณีบ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังตั้งแต่ 1 วัน (24 ชั่วโมง) แต่ไม่เกิน 7 วัน และทรัพย์สินเสียหาย รวมถึงกรณีน้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 7 วัน แต่ไม่เกิน 30 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 5,000 บาท
2. กรณีบ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 60 วัน ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 7,000 บาท
3. กรณีบ้านที่อยู่อาศัยประจำอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขังติดต่อกันเกิน 60 วันขึ้นไป ให้ความช่วยเหลือครัวเรือนละ 9,000 บาท
เงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม 2567
ในส่วนของการพิจารณาเงื่อนไขการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยนั้น ได้กำหนดเงื่อนไขการขอรับเงินเยียวยาเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. ต้องเป็นบ้านที่อยู่อาศัยประจำในพื้นที่ที่ได้มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยและ/หรือประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน โดยต้องมีหนังสือรับรองผู้ประสบภัยที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นออกให้ (ตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 มาตรา 30)
และต้องผ่านการประชาคมหมู่บ้านของแต่ละพื้นที่ประสบสาธารณภัย รวมถึงจะต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติอำเภอ (ก.ช.ภ.อ.) และคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัด (ก.ช.ภ.จ.) สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครต้องผ่านการตรวจสอบและยืนยันข้อมูลจากสำนักงานเขตและกรุงเทพมหานคร
2. กรณีที่ประสบภัยหลายครั้ง จะได้รับความช่วยเหลือเพียงครั้งเดียว
ช่องทางการจ่ายเงินเยียวยา “น้ำท่วม 2567”
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จะเป็นหน่วยรับงบประมาณและดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือแก่ผู้ประสบภัย ซึ่ง ธนาคารออมสินจะจ่ายเงินให้แก่ผู้ประสบภัยที่มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือโดยตรง โดยการโอนเงินเข้าบัญชีผ่านระบบพร้อมเพย์ (PromptPay)
ขณะนี้ ปภ. ได้จัดทำแนวทางปฏิบัติและเตรียมหารือร่วมกับจังหวัดที่ประสบอุทกภัยเพื่อกำหนดแนวทางการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดให้มีความชัดเจน และสามารถจ่ายเงินช่วยเหลือประชาชนได้ตามกรอบระยะเวลา 90 วัน นับแต่วันที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณ และจะได้เร่งทำข้อมูลชี้แจงสร้างความเข้าใจหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องให้พี่น้องประชาชนผู้ประสบภัยได้รับทราบโดยเร็ว เพื่อจะได้เตรียมในการยื่นขอรับเงินช่วยเหลือต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง