อย่า “โชว์นม” ให้เพศเดียวกันดู งานวิจัยใหม่ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Sexes พบว่าลักษณะทางกายภาพ โดยเฉพาะขนาดหน้าอก สามารถส่งผลต่อพฤติกรรมการแข่งขันในหมู่ผู้หญิง การศึกษาพบว่าผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะใช้กลวิธีการแข่งขันทางลบ เช่น การพูดจาดูถูก หรือการนินทาลับหลังกับผู้หญิงคนอื่นที่มีหน้าอกใหญ่กว่า
การแข่งขันระหว่างเพศ เป็นแนวคิดที่อิงกับทฤษฎีวิวัฒนาการ หมายถึงการแข่งขันระหว่างบุคคลเพศเดียวกันเพื่อดึงดูดและรักษาคู่จากเพศตรงข้าม รูปแบบการแข่งขันนี้ขับเคลื่อนด้วยความต้องการที่จะเพิ่มความสำเร็จในการสืบพันธุ์และส่งต่อยีนไปยังรุ่นต่อไป
ในมนุษย์ การแข่งขันระหว่างเพศแสดงออกในพฤติกรรมและกลยุทธ์ต่างๆ ที่มุ่งเพิ่มความน่าดึงดูดใจของตนเองต่อคู่ครองที่มีศักยภาพ ในขณะเดียวกันก็ลดความน่าดึงดูดใจของคู่แข่ง
นักวิจัยที่อยู่เบื้องหลังการศึกษาใหม่นี้สนใจเป็นพิเศษในสัณฐานวิทยาของเต้านม โดยเฉพาะขนาดและความเต่งตึงของเต้านม เนื่องจากมีความสำคัญในการเลือกคู่ของผู้ชายเนื่องจากมีความสัมพันธ์กับความอุดมสมบูรณ์และคุณค่าในการสืบพันธุ์
นักวิจัยทำการศึกษาโดยสุ่มตัวอย่างผู้หญิง 114 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวฮิสแปนิกจากมหาวิทยาลัย Texas A&M International ทั้งหมดระบุว่าตนเองเป็นผู้หญิงรักต่างเพศ อายุเฉลี่ยของผู้เข้าร่วมคือ 24 ปี และกลุ่มตัวอย่างประกอบด้วยทั้งผู้หญิงโสดและผู้หญิงที่มีคู่
ผู้เข้าร่วมจะได้เห็นภาพชุด 12 ภาพที่แสดงถึงความแตกต่างของขนาดหน้าอก ตั้งแต่คัพ A, B, C และ D ระดับของการหย่อนคล้อย ไม่หย่อน, หย่อนเล็กน้อย และหย่อนมาก ภาพเหล่านี้ซึ่งแสดงเฉพาะส่วนล่างของคอถึงลำตัวส่วนบน ได้รับการปรับแต่งเพื่อรักษาระยะห่างระหว่างเต้านมให้สอดคล้องกัน (ช่องว่างระหว่างเต้านม) เพื่อมุ่งเน้นเฉพาะความแตกต่างของขนาดและความหย่อนคล้อย
ผู้เข้าร่วมแต่ละคนถูกขอให้ประเมินความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะมีส่วนร่วมในการใช้คำพูดเชิงลบและการแสดงออกทางอ้อมต่อผู้หญิงที่แสดงในภาพ การใช้คำพูดเชิงลบรวมถึงการกระทำต่างๆ เช่น การตะโกนหรือการเรียกชื่อ ในขณะที่การแสดงออกทางอ้อมเกี่ยวข้องกับการนินทาหรือการ menyebarkan rumor
นอกเหนือจากการให้คะแนนภาพแล้ว ผู้เข้าร่วมยังกรอกแบบสอบถาม Intrasexual Competition Scale ซึ่งใช้วัดแนวโน้มทั่วไปของแต่ละบุคคลที่จะแข่งขันกับผู้อื่นที่มีเพศเดียวกัน
ผลการวิจัยพบว่า ผู้หญิงมีแนวโน้มที่จะดูถูกคู่แข่งมากที่สุด — ทั้งการใช้คำพูดเชิงลบและการแสดงออกทางอ้อม — ต่อผู้หญิงที่มีหน้าอกคัพ D รองลงมาคือผู้หญิงที่มีหน้าอกคัพ C ในทางตรงกันข้าม ผู้หญิงที่มีหน้าอกคัพ A และ B มีโอกาสน้อยที่จะตกเป็นเป้าหมายของพฤติกรรมการแข่งขันดังกล่าว
นี่แสดงให้เห็นว่าขนาดหน้าอกที่ใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะคัพ C และ D ถูกมองว่าเป็นภัยคุกคามที่มากกว่าในบริบทของการแข่งขันเพื่อคู่ครอง
ที่น่าสนใจ นักวิจัยพบว่าระดับของการหย่อนคล้อยไม่มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อโอกาสที่จะเกิดการใช้คำพูดเชิงลบหรือการแสดงออกทางอ้อม นี่แสดงให้เห็นว่าในขณะที่ขนาดหน้าอกเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนพฤติกรรมการแข่งขัน ความเต่งตึงหรือความหย่อนคล้อยของหน้าอกนั้นมีผลกระทบต่อเรื่องนี้น้อยกว่า
น่าแปลกที่นักวิจัยไม่พบความสัมพันธ์ที่มีนัยสำคัญระหว่างระดับการแข่งขันระหว่างเพศของผู้เข้าร่วมและโอกาสที่จะมีส่วนร่วมในกลวิธีการดูถูก นี่อาจแนะนำว่าแนวโน้มของผู้หญิงที่จะแข่งขันกับผู้หญิงคนอื่นอาจถูกกระตุ้นโดยลักษณะทางกายภาพบางอย่างมากกว่าที่จะได้รับอิทธิพลอย่างมากจากความแตกต่างในการแข่งขัน
ผลการศึกษาสอดคล้องกับทฤษฎีวิวัฒนาการที่ชี้ให้เห็นว่าคุณลักษณะทางกายภาพที่เชื่อมโยงกับความอุดมสมบูรณ์และคุณค่าในการสืบพันธุ์เป็นปัจจัยสำคัญของการแข่งขันเพื่อคู่ครอง ผู้หญิงอาจมองว่าผู้หญิงที่มีหน้าอกใหญ่กว่านั้นน่าดึงดูดใจผู้ชายมากกว่า ดังนั้นจึงเป็นภัยคุกคามมากกว่าในฐานะคู่แข่ง
อย่างไรก็ตาม ตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นชาวฮิสแปนิก มาจากประชากรในมหาวิทยาลัย ซึ่งอาจจำกัดการนำผลการวิจัยไปใช้กับกลุ่มวัฒนธรรมหรือกลุ่มอายุอื่น แล้วการศึกษายังอาศัยชุดภาพที่ปรับแต่งค่อนข้างน้อยโดยเน้นเฉพาะขนาดหน้าอกและการหย่อนคล้อย โดยละเว้นปัจจัยอื่นๆ ที่อาจมีอิทธิพล เช่น การเปิดเผยร่องอกหรือเสื้อผ้า
นักวิจัยแนะนำว่า “การศึกษาในอนาคตสามารถขยายผลการวิจัยเหล่านี้ได้โดยใช้กลุ่มตัวอย่างที่หลากหลายมากขึ้นหรือดำเนินการเปรียบเทียบข้ามวัฒนธรรม” และยังตั้งข้อสังเกตอีกว่า “มีความแตกต่างข้ามวัฒนธรรมในการรับรู้หน้าอกของผู้หญิง การศึกษาในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่กลุ่มตัวอย่างผู้หญิงชาวฮิสแปนิกเป็นหลัก ซึ่งการศึกษาครั้งก่อนแสดงให้เห็นว่าหน้าอกที่ใหญ่กว่านั้นถือว่าเป็นภัยคุกคามและเกี่ยวข้องกับพฤติกรรมการแข่งขันระหว่างเพศที่เพิ่มขึ้น แต่หน้าอกที่ใหญ่กว่านั้นไม่ได้ถูกมองว่าน่าดึงดูดทางเพศเสมอไป สิ่งนี้ warrant การสำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับพลวัตทางวัฒนธรรมของการแข่งขันระหว่างเพศและสัณฐานวิทยาของเต้านมของผู้หญิง”
