วิกฤตอุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง ‘ชามตราไก่’ ถูกท้าชนด้วยสินค้าราคาถูกจากจีน แล้วผู้ประกอบการจะสู้ยังไง
ชามตราไก่ อุตสาหกรรมเซรามิกลำปาง หนึ่งในหัตถอุตสาหกรรมที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤตครั้งใหญ่ เมื่อการแข่งขันขายออนไลน์ดุเดือน สินค้าราคาถูกจากจีนตีตลาดทะลักเข้าสู่ตลาดไทย ชิงข้อได้เปรียบด้านราคาต้นทุน แถมไม่ต้องเสียภาษี ส่งผลให้โรงงานกว่า 200 แห่งต้องปิดตัวลงในช่วงเวลาเพียงไม่กี่ปี
สื่อหลายสำนักอ้างอิงรายงานสัมภาษณ์ของ นายปรีชา ศรีมาลา นายกสมาคมเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า จำนวนโรงงานเซรามิกในจังหวัดลำปางได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จาก 328 แห่งก่อนการระบาดของโควิด-19 เหลือเพียง 89 แห่งในปัจจุบัน โดยสาเหตุหลักมาจากการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงจากสินค้านำเข้าจากจีน
“ชามตราไก่ ซึ่งเป็นสินค้า GI ของลำปาง มีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ประมาณ 20 บาทต่อใบ แต่สินค้าที่คล้ายกันจากจีนสามารถขายในราคาเพียง 5 บาท พร้อมบริการส่งถึงที่”
ปรากฏการณ์นี้เป็นผลมาจากการที่จีนไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดยุโรปได้ จึงหันมาทุ่มตลาดในภูมิภาคอาเซียน โดยเฉพาะประเทศไทย
ผู้ประกอบการท้องถิ่นหลายรายต้องเผชิญกับความท้าทายในการแข่งขันด้านราคา บางรายถึงขั้นต้องขายสินค้าในราคาทุนเพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาด ในขณะที่บางรายเลือกที่จะหยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อรอดูสถานการณ์ตลาด
อย่างไรก็ตาม วิกฤตนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียงแค่อุตสาหกรรมเซรามิกเท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อหัตถอุตสาหกรรมอื่นๆ ที่เป็นกิจการทำมาหากินของคนไทยด้วย หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมท้องถิ่น และควบคุมการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศอย่างเข้มงวด
ขณะที่นักวิเคราะห์ด้านเศรษฐกิจท้องถิ่นมองว่า วิกฤตนี้อาจเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการไทยปรับตัว โดยเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มผ่านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์และการตลาดที่เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะ แทนที่จะแข่งขันด้านราคาเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ ยังไม่มีความชัดเจนว่ารัฐบาลจะมีมาตรการอย่างไรในการแก้ไขปัญหานี้ แต่หลายฝ่ายหวังว่าจะมีการหารือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และตัวแทนจากอุตสาหกรรมท้องถิ่น เพื่อหาทางออกที่ยั่งยืนในการรักษาอุตสาหกรรมเซรามิกลำปางให้อยู่คู่กับจังหวัดต่อไป
อ่านข่าวอื่นๆ