ประวัติ ไดกิ ฮาชิโมโตะ ราชานักยิมนาสติก ความหวังใหม่ของญี่ปุ่น

sorrawitเผยแพร่: 30 ก.ค. 2567 14:53 น.| อัปเดต: 30 ก.ค. 2567 15:45 น.

63 1 minute read

ประวัติ ไดกิ ฮาชิโมโตะ (Daiki Hashimoto) อดีตราชานักยิมนาสติก ความหวังใหม่ของญี่ปุ่น กับภารกิจทวงบัลลังก์เบอร์ 1 ของโลกอีกครั้ง

กีฬายิมนาสติก เป็นอีกหนึ่งกีฬาที่ไม่ค่อยมีใครพูดถึงซักเท่าไหร่ รวมไปถึงประเทศญี่ปุ่น ที่ในอดีตที่เคยครองความยิ่งใหญ่เป็นเบอร์ 1 ของโลก อย่างไรก็ตามในปัจจุบันกลับไม่เป็นแบบนั้นอีกแล้ว

อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้ประเทศญี่ปุ่นเหมือนจะเห็นแสงสว่างอีกครั้ง หลังพวกเขาได้พบกับชายหนุ่มที่เป็นความหวังของประเทศได้อีกครั้ง ซึ่งหนุ่มคนนั้นมีชื่อว่า ไดกิ ฮาชิโมโตะ

ไดกิ ฮาชิโมโตะ ในชุดนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่น — Credit IG : hasshii_807

ประวัติ ไดกิ ฮาชิโมโตะ

ไดกิ ฮาชิโมโตะ (Daiki Hashimoto) เกิดวันที่ 7 สิงหาคม 2001 ปัจจุบันอายุ 22 ปี เกิดที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น ส่วนสูง 167 เซนติเมตร

คงปฏิเสธไม่ได้ว่านักยิมนาสติกชายที่โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเกินอายุและเป็นที่ถูกจับตามองจากสื่อ คงหนีไม่พ้น ไดกิ ฮาชิโมโตะ เนื่องจาก หน้าตาอันหล่อเหลาบวกกับทักษะด้านยิมนาสติกแบบหาตัวจับยาก ทำให้เจ้าตัวกลายเป็นที่จดจำของคนญี่ปุ่นและทั่วโลกในเวลาอันรวดเร็ว

ไดกิ เริ่มสร้างผลงานตั้งแต่รายการ ยิมนาติกสากลชิงแชมป์โลก 2019 ที่เมือง ชตุทท์การ์ท ประเทศเยอรมนี เจ้าตัวได้อันดับที่ 9 รายการอุปกรณ์ม้าหู และยังได้อันดับที่ 4 ในอุปกรณ์บาเดี่ยวอีกด้วย

จนกระทั่งการแข่งขัน โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น คือจุดเปลี่ยนชีวิตของเขาอย่างชัดเจน เนื่องจากไดกิสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างสุดยอดและคว้า 2 เหรียญทอง จากประเภทรวมอุปกรณ์บุคคลชาย บาร์เดี่ยว และ 1 เหรียญเงิน จากประเภททีมชาย รวมไปถึงเจ้าตัวยังคว้าเหรียญเงิน ในระเภทรวมอุปกรณ์บุคคลชายและบาร์เดี่ยวในรายการยิมนาสติกชิงแชมป์โลก 2020 อีกด้วย

ในปี 2021 เจ้าตัวยังคว้ารางวัลส่วนตัวได้อีกต่อเนื่อง โดยการคว้าเหรียญทองในประเภทรวมอุปกรณ์บุคคลชายในรายการยิมนาสติกชิงแชมป์โลก ที่เมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษ รวมไปถึงปี 2022 เขายังคว้าไปอีก 1 เหรียญทอง จากประเภทรวมอุปกรณ์บุคคลชาย กับ 3 เหรียญเงินจากประเภททีมชาย ฟลอร์ เอ็กเซอร์ไซส์ และบาร์เดี่ยวในรายการยิมนาสติกชิงแชมป์โลก

ผ่านมาจนถึงปี 2023 เขามีอาการบาดเจ็บบริเวณหลังและหัวไหล่ขวา ก่อนที่จะต้องรักษาตัวและกลับมาลงแข่งขันยิมนาสติกชิงแชมป์โลก 2023 ที่กรุงอันเวิร์ป ประเทศ เบลเยี่ยม และผงาดคว้า 3 เหรียญทอง จากประเภทรวมอุปกรณ์บุคคลชาย, ทีม และบาร์เดี่ยว ซึ่งทำให้เขาสามารถคว้าแชมป์ ประเภทอุปกรณ์รวมชายสองสมัยติดต่อกันได้สำเร็จ

พร้อมทั้งยังทำให้เจ้าตัวกลายเป็นนักยิมนาสติกคนแรก ที่สามารถป้องกันแชมป์ได้สำเร็จ นับตั้งแต่ โคเฮ อูชิมูระ อดีตแชมป์ โอลิมปิก สองสมัย และ แชมป์โลก 6 สมัย ชาว ญี่ปุ่น ที่ทำได้ ในปี 2014 และ 2015