ชายอินเดีย เกือบตาย ติดอยู่ในลิฟต์นาน 42 ชั่วโมง ไม่มีข้าว-น้ำ
ชายอินเดีย เกือบตาย ติดอยู่ในลิฟต์นาน 42 ชั่วโมง ไม่มีข้าว ไม่มีน้ำ ต้องขับถ่ายในลิฟท์ ไม่มีสัญญาณมือถือ รอคอยอย่างไม่รู้ชะตากรรม
เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานถึงเหตุระทึก หลังจากที่นาย ราวินดรัน นายเออร์ ชายชาวอินเดียวัย 59 ปี เดินเข้าลิฟต์เพื่อไปพบกับแพทย์ โดยเขาไม่รู้เลยว่าเขากำลังจะติดอยู่ในลิฟต์โรงพยาบาลรัฐเกรละนานถึง 42 ชั่วโมง โดยเขาไม่มีอาหารและน้ำดื่ม
ผู้ประสบเหตุเล่าว่า เจามาหาหมอเพื่อดูอาการปวดหลังจากที่เขาล้มในห้องน้ำ โดยวันเกิดเหตุเขาเพิ่งสแกน X-Ray เสร็จ และหมอจะขอดูผลเลือด แต่สามีเพิ่งนึกได้ว่าลืมไว้ที่บ้าน ทางภรรยาต้องเขางาน ทำให้ทางสามีกลับไปเอาผลตรวจเลือดคนเดียว จังหวะที่เขาลงลิฟต์นั้น เขาก็ไม่ได้คิดอะไร ก่อนที่เขาลิฟต์จะกระชาก ส่งเสียงดัง ทำให้เขาติดอยู่ระหว่างชั้น 1 และ 2
นาย นายเออร์ เล่าว่าตอนที่เขาติดอยู่ในลิฟต์ เขาพยายามกดเบอร์ฉุกเฉินในลิฟต์ แต่ไม่มีใครตอบ เขาเริ่มโทรหาภรรยาที่ทำงานที่โรงพยาบาลแห่งนี้ แต่ไม่มีสัญญาณมือถือ ก่อนที่เขาจะโทรหาใครก็ตามที่เขานึกออก เพื่อขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่เป็นผล
เขาเริ่มหวาดกลัว และตะโกนกรีดร้องขอความช่วยเหลือ พยายามเปิดประตูลิฟต์ด้วยมือ แต่ไม่เป็นผล ซึ่งจังหวะนั้นมือถือของเขาตกกระแทกพื้น ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ ภายในลิฟต์ไฟปิดมืดสนิท แต่โชคดีว่ายังมีอากาศให้เขาหายใจ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือเดินไปเดินมา กดปุ่มขอความช่วยเหลือซ้ำแล้วซ้ำเล่า เผื่อที่ใครจะได้ยิน
“ผมไม่รู้เลยว่ามันผ่านไปกี่ชั่วโมงแล้ว ทุกอย่างมันมืดมาก ผมหมดแรงและไปนอนที่มุม และผมต้องปัสสาวะและอุจจาระภายในลิฟต์” นาย นายเออร์ กล่าว
เขายอมรับว่า ณ จุดหนึ่งเขาคิดด้วยว่า เขาจะตายในลิฟต์ไหม เขาเป็นห่วงภรรยาเป็นห่วงลูก คิดถึงพ่อแม่เขาที่จากไปแล้ว แต่เขาก็ยังเข้มแข็ง ซึ่งเขาบอกว่าสิ่งนึงที่ช่วยให้เขาสบายใจคือท่องกลอนที่ภรรยาเขาเคยแต่งให้ เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาจะติดอยู่ในนี้นานกี่ชั่วโมงและหวังเพียงแค่ว่าพนักงานซ่อมลิฟต์จะมาช่วยเขา
ในช่วงเวลาเดียวกัน ทางครอบครัวคิดว่าเขาอยู่ที่ทำงาน แต่เมื่อขาดการติดต่อไปนานๆ พวกเขาก็ได้แจ้งความ โดยไม่รู้เลยว่าชายคนนี้อยู่ที่ไหน
และแล้วความช่วยเหลือก็มาถึง เมื่อเวลา 6.00 น. ของวันจันทร์ที่ 15 ก.ค. ตามเวลาท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ได้เปิดประตูลิฟต์ และนำเขาออกมา โดยขณะนี้เขานอนพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล
ขณะที่ทางโรงพยาบาลได้ขอโทษนาย นายเออร์ พร้อมสั่งพักงานเจ้าหน้าที่ 3 คน และทำการตรวจสอบเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง