‘เพื่อไทย’ ปฏิเสธ ‘ต้นอ้อ’ เกี่ยวข้องพรรค เชื่อความจริงปรากฎ เมื่อเรื่องถึงศาล
อนุสรณ์ สส.เพื่อไทย ปฏิเสธ ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง มีความเกี่ยวข้องกับพรรค เชื่อความจริงปรากฎ เมื่อเรื่องถึงศาล ว่าพรรคไหนหรือคนไหนเกี่ยวข้อง
นาย อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีมีผู้แอบอ้างทำบัตรเข้าออกทำเนียบรัฐบาล โดยอ้างชื่อนายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีว่า การที่ นายสมคิด ไปแจ้งความ เพื่อใช้เป็นช่องทางแสวงหาข้อเท็จจริง ส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องในการหลอกลวงที่อ้างบุคคลอื่น เมื่อนายสมคิด ไปแจ้งความแล้ว คดีคงจะเดินหน้า รวมถึงกรณีผู้เสียหายหรือคิดว่าตัวเองเสียหาย ก็สามารถเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพื่อพิจารณาไต่สวนได้
ในส่วนของสภาผู้แทนราษฎร ที่มีข่าวการแต่งตั้งบุคคลภายนอกและเรียกรับผลประโยชน์ ตนคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเข้าใจผิด ระหว่างผู้ที่อ้างว่าเป็นผู้ซื้อและอ้างว่าเป็นผู้ขาย รวมถึงผู้ที่อ้างว่าเป็นตัวกลางหรือเป็นนายหน้า
ข้อเท็จจริงคือตำแหน่ง เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการ (กมธ.) เจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญคือตั้งมาเพื่อทำงานในกมธ. ฉะนั้น ตั้งแล้วต้องมาทำงาน และตั้งคนที่มีความรู้ความสามารถในเรื่องนั้นๆ ซึ่งเปิดช่องทางให้ตั้งบุคคลภายนอกได้ ส่วนการแสวงหาประโยชน์หรือการไปเรียกรับผลประโยชน์หรือไม่ ตนเชื่อว่าเมื่อเรื่องเป็นคดีความแล้ว จะนำเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาล ข้อเท็จจริงจะปรากฏว่าใครกันแน่ที่เป็นคนแอบอ้าง หรือกระบวนการดังกล่าวมีใครบ้าง
ส่วนประเด็นที่มีการตั้งคำถามว่า ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง หรือ น.ส.ชลิดา พะละมาตย์ เกี่ยวข้องกับพรรคเพื่อไทยมาก่อนหรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ เท่าที่ติดตามสิ่งที่นายสมคิด ให้สัมภาษณ์ไปนั้น คือบุคคลที่ถูกกล่าวหาก่อนหน้านี้มาในรูปแบบของคนที่ทำงานภาคประชาชน อาจให้ความเห็นในเรื่องสังคม เศรษฐกิจ การเมือง แล้วจึงไปจัดรายการทางโซเชียล จึงทำให้คนที่เดือดร้อนหรือผู้ที่ต้องการช่วยเหลือ เข้าหาผู้ที่ถูกกล่าวหานี้ ขอเรียนว่าพรรคเพื่อไทยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ส่วนจะเกี่ยวข้องกับพรรคใด หรือคนไหน ตนคิดว่าเมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาในชั้นศาลแล้ว ความจริงจะปรากฏต่อไป
เมื่อถามย้ำว่าที่ผ่านมามีการแอบอ้างพรรคเพื่อไทยแบบนี้หรือไม่ นายอนุสรณ์ กล่าวว่า เท่าที่ตนอยู่ในพรรคมา ไม่เคยได้ยินกรณีแบบนี้ อย่างที่ตนเรียนแล้วว่าคนที่ไปแอบอ้างว่ามีตำแหน่งนี้พร้อมจะขาย และคนบอกว่าจะไปซื้อหรือคนที่แอบอ้างว่าเป็นนายหน้าล้วนเกิดจากความไม่เข้าใจ ฉะนั้น เมื่อไม่เข้าใจจะใช้คำว่าหลอกลวงหรือเข้าใจผิดต่อกันก็เป็นสิทธิ์ที่จะใช้ได้
ขอย้ำว่าเจตนารมณ์หลักๆของการตั้งเลขานุการคณะกรรมาธิการคือ เพื่อมาช่วยทำงาน ช่วยประธานและกมธ. ในการทำงานร่วมกัน และเชื่อว่าเรื่องนี้ในวิกฤตเป็นโอกาสที่ะเป็นช่องทางหาข้อเท็จจริงต่อไป ว่าที่กล่าวหากันไปมา ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องซื้อขายวุฒิการศึกษานั้น ทางสถาบันการศึกษาที่ถูกพาดพิงได้ออกมาชี้แจงแล้ว และถ้าเป็นคดี ตนคิดว่าเรื่องเหล่านี้ สามารถแสวงหาข้อเท็จจริงได้ไม่ยาก และวันนี้สังคมเปิดกว้างให้ทุกฝ่ายได้ชี้แจงผ่านโซเชียลได้อยู่แล้ว โดยหลักการการขายวุฒิการศึกษาไม่น่าจะเกิดขึ้นได้จริง และหากมีการแฉหรือมีแชทหลุดอีก คนที่เกี่ยวข้องก็สามารถชี้แจงได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง