กลายเป็นกระแสเดือดทันที หลังปล่อย Untitled case เทปที่ 230 คดีในวัดวาอาราม ออกมาได้เพียง 1 วัน ผ่านช่อง Salmon Podcast หลังมีผู้ชมรายหนึ่ง ได้เข้ามาคอมเมนต์วิจารณ์การเล่าคดีของผู้ดำเนินรายการว่า
A: ถ้าจะท่องขนาดนี้ก็ไม่ต้องเล่าหรอก ไปเทรน AI มาอ่านก็ได้
ต่อมาทางแอคเคาต์ช่อง SalmonPodcast ก็ได้เข้ามาตอบกลับอย่างเผ็ดร้อนว่า “เทรน AI มาสอนมึงแทนแม่มึงก็ได้นะ ถ้ามีมารยาทแค่นี้”
ต่อมาในโลกออนไลน์ได้แชร์ภาพหน้าจอบทสนทนาสั้นๆ นี้แต่อิมแพคไปอย่างกว้างขวาง เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมที่ใช้คำพูดรุนแรงตอบโต้คนวิจารณ์
ล่าสุด เมื่อช่วงกลางคืนวันอาทิตย์ โจ้-นทธัญ แสงไชย Station Director จาก Salmon Podcast ได้ออกแถลงการณ์ต่อดราม่าที่เกิดขึ้นผ่านเฟซบุ๊กบริษัทว่า เป็นการตัดสินใจของตนเองเพียงคนเดียว ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของทีมงานหรือโฮสต์รายการ
ที่ทำไปเพื่อต้องการปกป้องความรู้สึกทีมงานและแขกรับเชิญจากคอมเมนต์ที่ไม่สร้างสรรค์ ไม่ก่อให้เกิดการพัฒนา
โจ้ยอมรับว่าการใช้คำพูดดังกล่าวไม่เหมาะสม และได้เก็บเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียนสำคัญในการโต้ตอบคอมเมนต์ในโอกาสต่อๆ ไป
“สืบเนื่องจากกรณีการตอบคอมเมนต์ ในรายการ Untitled Case EP.230 ที่ผ่านมา การโต้ตอบคอมเมนต์ดังกล่าว เกิดขึ้นจากการตัดสินใจของผม (ในฐานะ Station Director) เท่านั้น ไม่ได้เป็นการตัดสินใจของทีมงานหรือโฮสต์รายการท่านใดๆ และผลลัพธ์ใดที่เกิดจากการใช้คำพูดดังกล่าว ขอให้เป็นความรับผิดชอบของผมแต่เพียงผู้เดียว
ในฐานะคนที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง รวมถึงเป็นพิธีกรเบื้องหน้าของพอดแคสต์ในสถานี เรารู้ดีว่าการรับคอมเมนต์เชิงลบนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ และหลายฟีดแบ็กเราก็ detect พบในทีมกันเองก่อนหน้าคอมเมนต์ต่างๆ ในช่องทางออนไลน์เสียอีก แต่อย่างไรเสีย ในการทำงาน นอกจากความสนุกของคอนเทนต์ ความสมบูรณ์แบบของชิ้นงานแล้ว เรายังตระหนักถึงความสบายใจ และความเป็นตัวของตัวเองในการทำงานของทีม ซึ่งรวมถึงบุคคลเบื้องหน้าอย่างโฮสต์รายการด้วย หากการปรับแก้ ทำให้ฝืนความเป็นตัวเองของโฮสต์ เราก็เลือกที่จะเข้าใจมากกว่าปรับเปลี่ยนจนสูญเสียความเป็นธรรมชาติของแต่ละคน
แต่อย่างไรก็ตาม เรามีเหตุผลที่เลือกใช้คำพูดดังกล่าว เพราะเราไม่ต้องการให้คอมเมนต์จากผู้คนที่เป็นนิรนาม (anonymous) รวมถึงความเห็นที่ติเตียนรายการด้วยถ้อยคำถากถางอันไม่ได้ก่อให้เกิดการพัฒนา ซ้ำร้ายยังส่งผลต่อความรู้สึกและสุขภาพจิตของทีมงาน ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องหนึ่งที่คนทำงานอย่างเราควรให้ความสำคัญ และโต้ตอบเท่าที่จะทำได้ เพื่อปกป้องความรู้สึกของทุกคนที่เกี่ยวข้องในกระบวนการ ไม่ว่าจะโฮสต์ แขก หรือทีมงานเบื้องหลัง
การปรับตัวนี้จำเป็นต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจธรรมชาติที่เกิดขึ้นบน platform โดยลดการใช้อารมณ์ และพูดคุยกันด้วยเหตุผล สิ่งนี้ก็เป็นอีกสิ่งที่ทีมเราควรให้ความสำคัญให้มากขึ้นในครั้งต่อๆ ไป ซึ่งผมและทีมเห็นถึงผลตอบรับที่เกิดขึ้น และตระหนักรู้ดีว่าการใช้ถ้อยคำดังกล่าวได้ส่งทัศนคติที่ไม่เหมาะสม ในการโต้ตอบในฐานะองค์กร
และจากความคิดเห็นของหลายๆ ท่านที่แจ้งเข้ามาในเรื่องของความเหมาะสมด้านทัศนคติ ทางผมและทีมงานทุกคนขอเก็บเหตุการณ์นี้ไว้เป็นบทเรียนสำคัญของทีมในการโต้ตอบคอมเมนต์ในโอกาสต่อๆ ไปครับ
ผมและทีมงาน Salmon Podcast ขอขอบคุณทุกความคิดเห็น ทุกคำติชม ทุกกำลังใจ และทุกแรงฟังของผู้ฟังไม่ว่าจะติดตามกันมานานแค่ไหนครับ ขอบคุณจริงๆ
ด้วยความเคารพครับ
โจ้
Edited
ป.ล. ขอย้ำว่าผมรู้สึกเสียใจและขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้นะครับ ที่ออกมาชี้แจง ก็เพื่อให้เข้าใจบริบทมากขึ้น และเกิดจากความรู้สึกเสียใจจริงๆ ครับ”
อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับการชี้แจงดังกล่าว โดยมองว่าเป็นการปกป้องความรู้สึกทีมงานโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ขององค์กร ขณะที่เพื่อนร่วมวงการคอนเทนต์ครีเอเตอร์หลายคนก็ได้เข้ามาให้กำลัง เข้าใจถึงสถาการณ์คอมเมนต์ในโลกออนไลน์ที่เดี๋ยวนี้คนจะพิมพ์แย่ๆ ฝส่กันยังไงก็ได้
