ผู้คุมเรือนจำ หลงรักนักโทษหล่อ ยอมเป็นทาสรัก ลักลอบขนยา-มือถือ แถมยังสักชื่อย่อผู้อีก

Aindravudhเผยแพร่: 20 มิ.ย. 2567 17:33 น.| อัปเดต: 20 มิ.ย. 2567 17:33 น.

509 1 minute read

2 พนักงานเรือนจำหญิงอังกฤษหน้ามืดตามัว ยอมเป็นทาสรักนักโทษ ลักลอบขนยา-มือถือ แถมยังสักชื่อย่อผู้อีก

สำนักข่าวเดลี่สตาร์ รายงานข่าวฉาว เอมี่ พอร์ตวูด และเอเดรียน จูนิเปอร์ ผู้คุมเรือนจำสาวจากเมืองลีห์ หลงรักนักโทษคดีปล้นชาวแมนเชสเตอร์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น ทั้งคู่ลักลอบนำของต้องห้ามเข้าเรือนจำที่ทำงาน และยังส่งข้อความหวานซึ้งและภาพถ่ายวาบหวิวหากันผ่านทางโทรศัพท์มือถืออีกด้วย

ศาลลิเวอร์พูลคราวน์เปิดเผยว่า ไพเธียน นักโทษหนุ่มหล่อคนแรก กำลังรับโทษ 6 ปีในข้อหาปล้นทรัพย์และพกพาอาวุธมีคม ส่วนแมคแอนดรูว์ นักโทษหนุ่มหล่อคนที่สอง กำลังรับโทษ 12 ปีในข้อหาปล้นทรัพย์และปล้นรถยนต์โดยใช้กำลัง

พอร์ตวูด และจูนิเปอร์ ทำงานเป็นผู้ดูแลผู้ต้องขัง ได้แอบสานสัมพันธ์กับนักโทษทั้งสอง โทรศัพท์ของพอร์ตวูดถูกนำมาใช้โทรหาไพเธียนมากกว่า 1,100 ครั้ง และส่งข้อความหากันมากกว่า 294 ข้อความภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือนเท่านั้น

ทั้งคู่ยังส่งข้อความผ่าน WhatsApp อีกกว่า 1,000 ข้อความ ซึ่งมีทั้งข้อความที่ส่อไปในทางเพศ และข้อความที่พูดถึงโทรศัพท์มือถือขนาดเล็กและยาเสพติด

จูนิเปอร์ และแมคแอนดรูว์ ก็ไม่น้อยหน้า โทรหากัน 60 ครั้ง และส่งข้อความถึง 1,598 ข้อความ บางข้อความก็มีเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเพศ รวมถึงภาพถ่ายเปลือยท่อนบนของแมคแอนดรูว์ที่ส่งให้จูนิเปอร์

ในวันที่ 7 มกราคม 2022 สุนัขดมกลิ่นได้แสดงความสนใจจูนิเปอร์อย่างมาก แต่เธอปฏิเสธว่าเป็นเพราะน้ำหอมที่เธอใช้ ทำให้เธอสามารถเนียนเข้าไปในเรือนจำได้ตามปกติ จากนั้นจูนิเปอร์ และพอร์ตวูดได้ไปที่ห้องขังของเคลลี่ ซึ่งไพเธียนและแมคแอนดรูว์กำลังอยู่แถวนั้นพอดี

ต่อมาเจ้าหน้าที่พบห่อต้องสงสัย 5 ห่อถูกเย็บติดอยู่กับเสื้อผ้าของจูนิเปอร์ ภายในบรรจุยาสูบ โทรศัพท์มือถือ แฟลชไดร์ฟ 2 อัน กัญชา โคเคน เฮโรอีน และยาเสพติดอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง

เมื่อตำรวจบุกค้นบ้านของจูนิเปอร์ ก็พบเงินสดจำนวนมาก และยังพบเงินสดจำนวนหนึ่งในห้องนอนของพอร์ตวูดอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น พอร์ตวูดยังมีรอยสักรูปตัวอักษร “P” ที่แขน ซึ่งเป็นชื่อย่อของไพเธียน ขณะที่จูนิเปอร์ก็มีรอยสักรูปตัวอักษร “D” ที่นิ้ว ซึ่งเป็นชื่อย่อของแมคแอนดรูว์

ท้ายที่สุด พอร์ตวูดยอมรับสารภาพว่าลักลอบนำของต้องห้ามเข้าเรือนจำจริง โดยเธออ้างว่าทำไปเพราะความรัก เธอถูกตัดสินจำคุก 22 เดือน ส่วนจูนิเปอร์ถูกพิพากษาจำคุก 22 เดือน แต่ให้รอลงอาญา พร้อมกับต้องทำงานบริการสังคม 160 ชั่วโมง และเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดฟื้นฟู 30 วัน

ส่วนนักโทษชายทั้งสองคนถูกเพิ่มโทษจำคุกอีก 3 ปี 9 เดือน