พระฉุนเพื่อน ใช้ช้อนสั้นแทงดับ อ้างรำคาญ ขอข้าวกินไม่หยุด
เกิดเหตุชาวบ้านพบศพลอยน้ำ ตำรวจเข้าสอบสวนสำนักสงฆ์รอบข้าง ภายหลังพบพระในสำนัก รับสารภาพก่อเหตุเป็นคนทำเอง โดยใช้ช้อนสั้นแทง อ้างทำไปเพราะฉุน เพื่อนขออาหารไม่หยุด
วันที่ 18 มิ.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสอบสวนพระหัด ภูษา อายุ 66 ปี และพระสุนย์ทร ภูษา อายุ 42 ปี หลังเกิดเหตุชาวบ้านพบศพ นายศุภพงศ์ กงแก้ว 64 ปี ลอยอยู่สระน้ำหน้าสวนปาล์ม ในพื้นที่ ต.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ที่อยู่เยื้องกับสำนักสงฆ์ของพระดังกล่าวเพียง 200 เมตร
ภายหลัง พระสุนย์ทร รับสารภาพเป็นคนก่อเหตุลงมือฆ่านายศุภพงศ์ โดยใช้ช้อนสั้นเป็นอาวุธแทง พร้อมอ้างว่าทำไปเพราะโมโห เนื่องจากตนพึ่งกลับมาจากบิณฑบาตแล้วผู้ตายขออาหารไม่หยุด จึงทะเลาะกันจนเกิดเหตุดังกล่าวตามมา แต่ไม่ทราบว่าศพไปอยู่ในสระน้ำได้อย่างไร
จากการสอบสวน นางอรปรียา กงแก้ว ภรรยาของผู้เสียชีวิต ได้ข้อมูลว่า สามีหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 14 มิ.ย. 67 ซึ่งตัวเองออกตามหาตลอดทั้งวันในทุกพื้นที่ที่สามีชอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานสำนักสงฆ์ถ้ำเขาปีบ อ.ทุ่งตะโก ที่มีพระหัด และพระสุนย์ทร จำพรรษาอยู่ โดยทั้งสองอ้างว่าไม่พบนายศุภพงศ์มาหาแต่อย่างใด
จนกระทั่งในเช้าวันที่ 15 มิ.ย. 67 มีชาวบ้านพบศพลอยน้ำหน้าสวนปาล์ม สภาพศพถูกทำร้ายด้วยเหล็กแทงเข้าที่ใบหน้า และบนศีรษะหลายแผล ทำให้ในวันที่ 18 มิ.ย. เจ้าหน้าที่จึงเริ่มสืบหาข้อเท็จจริง โดยเริ่มสืบสวนจากสำนักสงฆ์ที่ตั้งอยู่ข้างสถานที่พบศพ
ทั้งนี้ การสอบสวนเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะจากหลักฐานกล้องวงจรผิดและการให้ปากคำของพระสองพ่อลูกไม่ตรงกัน โดยพระทั้ง 2 รูปอ้างว่า ในทุกเช้าจะเริ่มออกเดินบิณฑบาตตั้งแต่เวลา 05.30 น. และจะกลับในเวลาประมาณ 08.30 น. ทว่าในช่วงเช้าวันเกิดเหตุ พบพระหัด เดินนำหน้า และพระสุนย์ทรเดินตามหลังจริง แต่ขากลับ พระสุนย์ทร เดินกลับเพียงลำพัง โดยพระหัด ผู้เป็นพ่อ เดินตามมาทีหลังนานนับชั่วโมง
ทางเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์พระสุนย์ทรมาสอบปากคำอีกครั้งที่ สภ.ทุ่งตะโก โดยใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง อีกทั้งยังพบรอยขีดข่วนแนวยาวบริเวณไหล่ขวา ที่อ้างว่ายุงกัด สุดท้ายพระสุนย์ทรรับสารภาพว่าตนเป็นผู้ก่อเหตุจริง เนื่องจากนายศุภพงศ์มีพฤติกรรมชอบมาดักขออาหารจากตนทุกวัน ซึ่งหลายครั้งจะเอาไปจนหมด หรือหากให้น้อยไปก็จะต่อว่า โดยในวันเกิดเหตุทั้งคู่มีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง ตนจึงคว้าช้อนสั้นแทงจนอีกฝ่ายล้ม แต่เห็นว่านายศุภพงศ์ยังลุกขึ้นมาได้ จึงไม่ได้ทำอะไรต่อ และปล่อยไป
ด้านพระหัดผู้เป็นพ่อกล่าวว่าพระลูกชายเคยผ่าตัดสมองแต่เด็กด้วยสาเหตุจากอุบัติเหตุ โดยเชื่อว่าพระลูกคงคุมอารมณ์ไม่ได้ เนื่องจากอาการอ่อนไหวและโมโหร้าย บางครั้งจะนิ่งเงียบ พร้อมบอก ไม่คิดว่าพระลูกจะก่อเหตุ ถ้าวันนั้นตนกลับมาสำนักสงฆ์พร้อมกันคงไม่เกิดเรื่องขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เจ้าอาวาส โต้ภาพพระเขย่าน้ำเต้าปูปลา แท้จริงช่วยทลายวงพนันญาติโยม ถูกตัดต่อ
- ฉาวผ้าเหลือง สามเณร 8 รูป มั่วสุมเสพยาบ้า ตำรวจบุกจับคากุฏิ
- สายใยรัก 5 ปี เณรน้อยโผกอดแม่ กลับจากไต้หวัน รักบริสุทธ์ไม่ผิดวินัย