ข่าวการเมือง

ประวัติ พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร อดีต ผบ.ทบ สู่สมาชิกวุฒสภา

เปิดประวัติ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิกวุฒิสภา เป็นบุคคลสำคัญในวงการทหารและการเมืองของไทย ด้วยประสบการณ์ทางทหารที่ยาวนานและความรู้ความสามารถที่โดดเด่น ทำให้ท่านได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสำคัญต่าง ๆ รวมถึงผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิกวุฒิสภา

อย่างไรก็ตาม ท่านเป็นที่รู้จักในวงกว้างจากการแสดงความคิดเห็นไม่เห็นด้วยกับขั้นตอนการแก้กฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยให้เหตุผลว่าเป็นการบ่อนทำลายสถาบันครอบครัวและกดเพศชายและหญิงให้เท่ากับ LGBTQ ซึ่งทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคม

Advertisements

ประวัติ “พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร”

พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2498 ในกองพลทหารปืนใหญ่ ต่อสู้อากาศยาน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ เป็นบุตรของ พันโท เหรียญ และ นางประไพ สง่าเนตร สมรสกับ นางวิชชุดา สง่าเนตร (สกุลเดิม ชีรานนท์) มีบุตรและธิดา 2 คน คือ นายกิตติธัช สง่าเนตร และนางสาวกัลย์สุดา สง่าเนตร

ภายหลังสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา จากโรงเรียนโยธินบูรณะ ด้วยจิตใจที่รักชีวิตทหาร และต้องการเจริญตามรอยเท้าพ่อ และพี่ชาย ทั้งสอง พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร จึงสมัครสอบเข้า โรงเรียนเตรียมทหาร ใน พ.ศ. 2512 เป็นนักเรียน เตรียมทหาร รุ่นที่ 12

จากนั้นจึงเข้ารับการศึกษาต่อใน โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เป็นนักเรียน นายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ ๒๓ ระหว่างการเป็น นักเรียนนายร้อยนั้น ได้รับรางวัลเหรียญทอง และ จารึกนามบนโล่การศึกษาดี ในปีการศึกษา ๒๕๑๗ และ ๒๕๑๘ รวมทั้งยังเป็นหัวหน้าตอนอีกด้วย

ประวัติการศึกษา

เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ได้เข้ารับการศึกษาหลักสูตรทหารตามแนวทางรับราชการของเหล่าทหารปืนใหญ่ตามลำดับ จนเมื่อสำเร็จหลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารปืนใหญ่ รุ่นที่ 25 ในปี 2526 ก็ได้รับทุนเข้าเรียนหลักสูตรชั้นนายพันเหล่าทหารปืนใหญ่ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

จากนั้นในปี 2529 ได้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจำ ชุดที่ 64 ต่อมาในปี 2531 ได้เข้าศึกษาในโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ณ สหราชอาณาจักร และในปี 2537ได้เข้าศึกษา ในหลักสูตรรัฐศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถัดมาในปี 2538 เข้ารับการศึกษาหลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (การทหาร) ของโรงเรียนเสนาธิการทหารบก จากนั้นได้ทุนไปศึกษาต่างประเทศอีกครั้ง

Advertisements

ในปี 2538 ได้เข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (Royal College of Defence Studies Course : RCDS) ณ สหราชอาณาจักร ต่อมา ในปี 2544 ได้เข้าศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยการทัพบก ชุดที่ 46 และในปี 2550 เข้ารับการศึกษาหลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร ภาครัฐร่วมเอกชน รุ่นที่ 20 ณ วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร

ทุกหลักสูตรที่ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร เข้ารับการศึกษานั้น จะมีผลการศึกษาที่ดีเยี่ยมมาโดยตลอด แสดงให้เห็นถึงสติปัญญาความสามารถทางการศึกษาที่โดดเด่นมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนนายร้อยจนถึงการรับราชการเป็นนายทหารแห่งกองทัพไทย

เส้นทางอาชีพข้าราชการทหาร

ภายหลังจบการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า เมื่อ พ.ศ. 2519 แล้วนั้น พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ได้เข้ารับราชการในตำแหน่งประจำศูนย์การทหารปืนใหญ่ ซึ่งในปีต่อมา พ.ศ. 2520 ได้ย้ายมาเป็นผู้บังคับหมวดในกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 และปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ และขยันขันแข็ง มีความเจริญก้าวหน้ามาเป็นลำดับ ในระหว่างนั้นได้มีโอกาสถวายงานรับใช้ใต้เบื้องพระยุคลบาทในตำแหน่งนายทหารถวายความปลอดภัย หน่วยแยกรักษา

ความปลอดภัยบุคคลสำคัญประจำกรมราชองครักษ์ เป็นเวลา 4 ปี และในปี 2522 ได้เป็นผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 ซึ่งต่อมาได้ย้ายไปรับราชการในหน่วยต่าง ๆ ได้แก่ กองพันทหารปืนใหญ่ ต่อสู้อากาศยานที่ 5 โรงเรียนทหารปืนใหญ่ ศูนย์การทหารปืนใหญ่

จนเมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ในปี 2529 แล้วจึงได้กลับเข้ามารับราชการในกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3 อีกครั้ง ในตำแหน่งรองผู้บังคับกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่ 3

ชีวิตรับราชการของ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตรได้ย้ายจากหน่วยรบมาเป็นอาจารย์ผู้ให้ความรู้หลังจากสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ณ สหราชอาณาจักร โดยในปี 2532 ได้รับการบรรจุให้เป็นอาจารย์สอนวิชาเสนาธิการกิจและความรู้ทั่วไป ประจำโรงเรียนเสนาธิการทหารบกและเจริญก้าวหน้าตามลำดับ โดยในปี 2538 ได้ดำรงตำแหน่งอาจารย์หัวหน้ากอง โรงเรียนเสนาธิการทหารบก

บทบาทหน้าที่ทางการทหารของ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ได้เปลี่ยนแปรหันเหอีกครั้ง จากการเป็นอาจารย์ที่มีลูกศิษย์เคารพนับถือมากมายมาสู่บทบาทของฝ่ายเสนาธิการ อีกทั้งยังปรับย้ายจากกองทัพบกมาสู่กองบัญชาการกองทัพไทย (ในขณะนั้นคือกองบัญชาการทหารสูงสุด) เมื่อสำเร็จการศึกษาหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรจากสหราชอาณาจักร

ในปี 2538 จึงได้ขอปรับย้ายมาเป็นหัวหน้าฝ่ายการเศรษฐกิจ สถาบันวิจัยทางยุทธศาสตร์ สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่สำคัญยิ่งและนับเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญในชีวิตการเป็นทหาร อันเป็นรากฐานในการสร้างเสริมความรู้ ประสบการณ์ ในการบริหารงานหน่วยทหารขนาดใหญ่ให้แก่ พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ในสายงานฝ่ายเสนาธิการของกองทัพไทย

โดยเริ่มจากในปี 2539 เป็นผู้อำนวยการกองยุทธการ กรมยุทธการทหาร จากนั้นเจริญเติบโตมาในสายงานยุทธการตามลำดับ โดยในปี 2542 ได้เป็นรองผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหาร ต่อมาในปี 2546 เป็นผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กรมยุทธการทหาร

ถัดจากนั้นมาในปี 2548 ได้ขึ้นเป็นรองเจ้ากรมยุทธการทหาร และในปี 2549 ได้ดำรงตำแหน่งเป็นเจ้ากรมยุทธการทหาร จากนั้นได้เจริญก้าวหน้ามาตามลำดับ โดยในปี 2551 เป็นรองเสนาธิการทหาร

ต่อมาในปี 2554 ได้ดำรงตำแหน่งสูงขึ้นเป็นเสนาธิการทหาร ในปีถัดมาคือ ปี 2555 เป็นรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และเมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2557 ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด

Biography of Gen. Woraphong Sanganet, former Army commander and member of the Wuttha Council

บทบาทด้านการเมือง “สมรสเท่าเทียม”

พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในปี พ.ศ. 2562 โดยได้รับการแต่งตั้งจาก คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งก่อนหน้านี้ท่านเคยดำรงตำแหน่งสำคัญทางทหาร เช่น ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.)

ในประเด็นกฎหมายสมรสเท่าเทียม พลเอก วรพงษ์ สง่าเนตร ได้แสดงความคิดเห็นในที่ประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 (สมัยวิสามัญ) เมื่อวันอังคารที่ 18 มิถุนายน 2567 แสดงความคิดเห็น ไม่เห็นด้วยกับขั้นตอนการแก้กฎหมายสมรสเท่าเทียม

กรณีคำว่า สามี-ภรรยา หายไปจากระบบ โดยให้เหตุผลว่าการแก้แบบนี้เป็นการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันครอบครัว และยังเป็นการกดเพศชายและหญิงให้ลงไปเท่ากับ LGBTQ

จากประเด็นในที่ประชุมดังกล่าว ส่งผลให้สังคมเกิดกระแสวิพากย์วิจารณ์เกี่ยวกับการแก้กฎหมายสมรสเท่าเทียม และในกระบวนการนี้จะสามารถผ่านร่างกฎหมายนำมาประกาศใช้จริงได้หรือไม่ต้องรอติดตามความคืบหน้ากันต่อไป.

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : มูลนิธิศิษย์เก่าโรงเรียนเตรียมทหาร

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button