ยังไม่จบ เพจลัทธิเชื่อมจิต เปิดความหมายการซูม หลังแม่น้องไนซ์ โร่แจ้งความ พม.
ปมเคลื่อนไหว ลัทธิเชื่อมจิต เพจนิรมิตเทวาจุติ ลงโพสต์เปิดความหมายการซูม หลังจาก แม่น้องไนซ์ ควง ทนายธรรมราช ขึ้นโรงพักสุราษฎร์ แจ้งเอาผิดเจ้าหน้าที่ พม.
มีประเด็นสืบเนื่องไม่เว้นแต่ละวัน กรณีสังคมตั้งคำถามถึงกลุ่มลัทธิ เชื่อมจิต ซึ่งล่าสุด แม่นก นัฐพร ผู้ปกครอง ด.ช.ไนซ์ อายุ 8 ขวบ ออกมาแจ้งความดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุราษฎร์ธานี หลังจากมีการเดินทางไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับประเมินสุขภาพจิต เมื่อวันที่ 13 พ.ค.67 ที่ผ่านมา
น.ส.นัฐพร กล่าวว่า ตนได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีมาตรา 157 ต่อ นายอภิเชษฐ์ ปานจรัตน์ ผู้อำนวยการสถานพัฒนาและฟื้นฟูเด็กจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมพวก โดยอ้างหนังสือคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นไปตามมาตรา 30 (3) คือมีหนังสือเรียกผู้ปกครองหรือบุคคลอื่นมาให้ถ้อยคำ หรือข้อเท็จจริงเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ ความประพฤติสุขภาพ และความสัมพันธ์ในครอบครัวของเด็ก
แต่นางนกยืนกราน คณะที่เข้าไปทำผิดวัตถุประสงค์ของมาตราดังกล่าว รวมถึงพบว่ามีการข่มขู่น้องไนซ์ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนและทนายธรรมราช สระปัญญา ได้เข้าชี้แจงต่อพนักงานอัยการภาค 8 ว่า ทางครอบครัวไม่ได้ขัดขวางหรือไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตามที่เป็นข่าว
พร้อมนำหลักฐานคลิปต่าง ๆ เสนอข้อเท็จจริงต่อพนักงานอัยการ เตรียมยื่นศาลขอไต่สวนฉุกเฉินต่อศาลเพื่อคุ้มครองน้องไนซ์ ไม่ให้สื่อนำข้อมูลอันเป็นเท็จเสนอต่อสาธารณชน ด้วยเหตุคดีต่าง ๆ ยังอยู่ระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องแต่ละคดีที่ครอบครัวเป็นโจทก์ยื่นฟ้องต่อศาล
ขณะเดียวกัน รายการลุยชนข่าว ช่อง 8 ยังได้เปิดคลิปสัมภาษณ์ แม่ของน้องไนซ์ ที่ออกมาชี้แจงหลังเกิดประเด็น น้องไนซ์ ตอบคำถามเจ้าหน้าที่ว่า วิปัสสนา คือ การซูม โดยเรื่องนี้ แม่เด็กอธิบาย จริง ๆ แล้ว คำว่าซูมของน้อง คือ การน้อมจิตเข้าไปเพื่อพิจารณาในสิ่งต่าง ๆ คนที่สิปัสสนากรรมฐานฟังสิ่งที่น้องพูดต่างก็เข้าใจดีว่าน้องสื่อถึงอะไร การซูมก็คือการดูทุกอย่างรอบตัว หยิบมาพิจารณได้ ก่อนจะตำหนิสื่อบางเจ้าที่ตัดเฉพาะบางประเด็นไปออกอากาศ
ต่อมา เพจ นิรมิตเทวาจุติ ยังได้ลงโพสต์ถึงประเด็นนี้อีกครั้ง โดยระบุ ผู้ปฏิบัติในวิปัสสนากรรมฐานเท่านั้นจึงจะตระหนักในสัจธรรมแห่งคำว่า”ซูม” จิตที่สะอาดด้วยศีล สงบละเอียดดีแล้ว จะทรงพลังยิ่งกว่าเทคโนโลยีสมัยใหม่มากมายนัก ด้วยตาเนื้อและตากิเลสเราจะมองไม่เห็นดูไม่ออก ว่าแอปเปิ้ลสดฉ่ำ มันแฟบแห้งเหี่ยวไปได้อย่างไร
เราจะมองไม่ออกว่าการสังขารที่ดูทุกวันว่ายังหล่อสวยดูดี กำลังเปลี่ยนสภาพเหี่ยวลงทุกขณะได้อย่างไร เพราะดูแล้วก็ยังสวยหล่อเหมือนเดิม ประโคมเครื่องสำอางเข้าไปก็ยิ่งฉ่ำวาวกว่าเดิมด้วยซ้ำ แต่พลานุภาพแห่งจิตที่งามด้วยศีล แล้วเพียรปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานอย่างไม่ห้อถอย
จะทำให้เห็นอนิจจังของรูปกายสังขาร ไม่ว่าจะแอปเปิ้ล หรือกายหยาบของมนุษย์ จะปรากฎให้ประจักษ์ถึง่อนิจจังของสิ่งนั้นให้เห็นในชั่วพริบตา เห็นความประกอบกันและไม่มีอยู่จริงที่หลงพิศมัยแห่งรูปสังขารนั้นในชั่วพริบตา นั่นเองจึงเป็นความจริงของคำว่า”ซูม” ที่บรรดาผู้ไม่นำพาการปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จึงยังไม่ตาสว่างถึงสิ่งที่อาจารย์น้องโนซ์อุปมาสอนไว้แต่กลับพากันปรามาสให้เกิดกรรมแก่ตนเองอย่างน่าเสียดาย.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง