‘ศรีสุวรรณ’ พร้อมชาวบ้าน ร่วมยื่นฟ้อง ‘ชัชชาติ’ สั่งตัดต้นไม้ 100 ปี
ศรีสุวรรณ จรรยา พร้อมด้วยชาวบ้าน เดินทางมาศาลปกครองกลาง เพื่อร่วมยื่นฟ้อง ชัชชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัดต้นไม้ 100 ปี
นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน พร้อมกับชาวบ้านในซอยงามวงศ์วาน 59 เขตจตุจักร กทม. ร่วมกันเดินทางมามาศาลปกครองกลาง ถ.แจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นฟ้อง นาย ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร รวมไปถึง ผอ.เขตจตุจักร อธิบดีกรมธนารักษ์ และ ผอ.สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ฐานใช้อำนาจหรือดุลยพินิจโดยมิชอบและละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติ กรณีตัดโค่นต้นไม้ใน ซ.59 อายุ 50-100 ปีจนหมดสิ้น รวมทั้งทำลายถนนในซอย เพื่อนำไปก่อสร้างบ้านมั่นคง
โดยการฟ้องร้องครั้งนี้สืบเนื่องจากที่ กทม.ร่วมกับสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน(พอช.) ได้ไล่รื้อชาวบ้านที่ปลูกบ้านในคลองเปรมประชากรประมาณ 13 หลังและชาวบ้านในชุมชนข้างวัดเทวสุนทรอีก 40 กว่าหลัง ให้ขึ้นมาสร้างบ้านมั่นคง เพื่อที่ กทม.จะได้สร้างเขื่อนริมคลองป้องกันการบุกรุกอีก แต่ทว่ากลับมีจำนวนคนที่จะเอาบ้านมั่นคงเพิ่มขึ้นเกือบ 100 หลัง ทำให้ต้องย้ายสถานที่ก่อสร้างบ้านมั่นคงจากพื้นที่ชุมชนเดิมใกล้วัดเทวสุนทรขยายมาจับจองเอาบริเวณพื้นที่ปากซอยงามวงศ์วาน 59 ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียว เป็นสวนสาธารณะมีต้นไม้ขนาดใหญ่อายุ 50-100 กว่าปีขึ้นอยู่มากหมายหนาแน่น พร้อมกับทบถนนเดิมทิ้ง แล้วไปก่อสร้างแนวถนนขึ้นมาใหม่ ห่างจากจุดเดิมกว่า 10 เมตร โดยอ้างว่าขอเช่าจากกรมธนารักษ์แล้ว
สวนสาธารณะและถนนเดิมดังกล่าวเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันมานานกว่า 100 ปี จะเป็นที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ได้อย่างไร และก่อนหน้านี้ กทม.นำงบประมาณแผ่นดินจากภาษีของประชาชนไปปรับปรุงปูแอสฟัสต์ได้อย่างไร ถ้าไม่ใช่ที่สาธารณะที่พลเมืองใช้ประโยชน์ร่วมกัน
นอกจากนั้น ยังมีการตัดโค่นต้นไม้ไปกว่า 100 ต้นนั้น เป็นการขัดแย้งต่อนโยบายผู้ว่าฯชัชชาติโดยตรงที่มีนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมไว้มากมาย อาทิ นโยบายพัฒนาพื้นที่ปลอดฝุ่น (BKK Clean Air Area) ด้วยต้นไม้สำหรับพื้นที่เปิด ด้วยเครื่องฟอกอากาศสำหรับพื้นที่ปิด นโยบายปลูกต้นไม้ล้านต้น สร้างพื้นที่สีเขียวและกำแพงกรองฝุ่นทั่วกรุง นโยบายสวน 15 นาที ทั่วกรุง นโยบายสนับสนุนการแปลงที่ของประชาชนและเอกชนให้เป็นพื้นที่สีเขียว นโยบายเพิ่มเวลา เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวก เพิ่มการเข้าถึงสวนและพื้นที่สาธารณะ นโยบายดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่ปล่อยมลพิษ นโยบายจัดทีม’นักสืบฝุ่น’ ศึกษาต้นตอ PM2.5 นโยบายพื้นที่สาธารณะเอนกประสงค์ทั่วกรุง ฯลฯ
การกลืนน้ำลายตนเอง โดยการตัดต้นไม้ในซอยดังกล่าวออกทั้งหมด เพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับสหกรณ์เคหสถานที่จะมาสร้างบ้านมั่นคง และสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน เป็นเรื่องที่ชาวบ้านในซอยงามวงศ์วาน 59 ดั่งเดิมยอมรับไม่ได้ จึงได้ร้องขอให้สมาคมต่อต้านโลกร้อนมาช่วยฟ้องคดีต่อศาลปกครองให้ เพื่อระงับการกระทำดังกล่าวและให้ศาลสั่งให้ กทม.เอาต้นไม้ใหญ่ชนิดเดิมกลับมาปลูกเหมือนเดิมต่อไป นายศรีสุวรรณ กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง