ข่าว

ความแตกต่าง ‘เอลนีโญ’ กับ ‘ลานีญา’ ร้อนแล้ง-ฝนถล่ม ส่งผลต่อไทยอย่างไร

เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ กับ ‘ลานีญา’ ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยอย่างไร ใช่สาเหตุของสภาพอากาศร้อนระอุขณะนี้หรือไม่?

จากข่าวคราวภัยธรรมชาติที่ถูกนำเสนออยู่บนจอโทรทัศน์และตามหน้าหนังสือพิมพ์ ไม่ว่าจะเป็นสถานการณ์พายุฝนฟ้าคะนองในบางพื้นที่ รวมถึงสภาพอากาศร้อนเข้าขั้นวิกฤต ล้วนเป็นผลมาจากภาวะโลกร้อน แต่ในขณะเดียวกันสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงเหล่านี้ก็เป็นผลสือเนื่องมาจากปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’ และ ‘ลานีญา’ ที่กำลังเกิดขึ้นกับโลกของเราอยู่ในขณะนี้ แต่จะส่งผลอย่างไร และทำไมถึงสร้างผลกระทบได้มหาศาลเพียงนี้ ร่วมหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

ปรากฏการณ์ ‘เอลนีโญ’

เอลนีโญ (El Niño) หรือที่แปลว่า เด็กชาย ในภาษาสเปน เป็นปรากฏการณ์ที่ “ลมสินค้า” (trade winds) กำลังอ่อนพัดเปลี่ยนทิศทางกระแสน้ำอุ่นจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรไหล หรือทิศตะวันออก ไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิก ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลไปย้อนกลับไปทางทวีปอมริกาใต้ ส่งผลให้อุณหภูมิผิวน้ำทะเลอุ่นขึ้นประมาณ 0.5 องศาเซลเซียส สภาพอากาศแปรปรวน ในบริเวณอเมริกาใต้ตอนเหนือ ออสเตรเลีย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยจะมีฝนน้อย อากาศร้อน แห้งแล้ง หรือเกิดภัยแล้งในฤดูฝน ในขณะที่บริเวณอเมริกาใต้ตอนใต้ จะมีฝนตกชุก และเกิดน้ำท่วม

สำหรับปรากฏการณ์นี้ โดนเฉลี่ยแล้วจะเกิดขึ้นในทุก ๆ 2-7 ปี และจะดำเนินอยู่ราว ๆ 9 – 12 เดือน แต่ในระหว่างนี้ก็อาจเกิดปรากฎการณ์เกี่ยวกับสภาพอากาศต่าง ๆ ขึ้นร่วมด้วยได้เช่นกัน อาทิ พายุไซโคลนเขตร้อน

แห้งแล้ง

‘ลานีญา’

ลานีญา (La Niña) ที่แปลว่า เด็กหญิง ในภาษาสเปน เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นและส่งผลตรงข้ามกับเอลนีโญ เพราะเกิดขึ้นจากการที่กระแสลมพัดจากด้านตะวันออกของมหาสมุทรแปชิฟิกมายังด้านตะวันตกของมหาสมุทรแปชฟิก แต่จะต่างที่กระแสลมจะรุนแรงมากกว่าปกติ ทำให้กระแสน้ำอุ่นไหลมายังภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น สภาพอากาศบริเวณภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และออสเตรเลียเกิดการผันผวน มีระดับน้ำทะเลสูงขึ้น ฝนตกชุก น้ำท่วม มีปริมาณฝนตกหนักมากกว่าปกติ ในขณะเดียวกันพื้นที่บริเวณอเมริกาใต้ตอนใต้ มีฝนน้อย อากาศร้อน แห้งแล้ง

ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในทุก ๆ 2-3 ปี และจะคงอยู่ยาวนานประมาณ 9 – 12 เดือน หรืออาจเกิดขึ้นนานถึง 2 ปี

ฝนตกหนัก

ความแตกต่างของผลกระทบจาก ‘เอลนีโญ-ลานีญา’ ต่อประเทศไทย

เอลนีโญ และ ลานีญา สองปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก แต่จะแตกต่างกันตรงที่ความแรงของกระแสลม ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางการไหลของกระแสน้ำอุ่น และด้วยเหตุนี้จึงทำให้สภาพอากาศในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วโลก รวมไปถึงประเทศไทย เกิดภาวะผันผวน ในบางพื้นที่เกิดภัยแล้ง และอีกพื้นที่เกิดฝนตกชุก

สำหรับผลกระทบจากปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย ด้าน ‘เอลนีโญ’ จะทำให้ประเทศไทยมีฝนน้อย อากาศร้อน แห้งแล้ง ส่งผลต่อภาคเกษตรกรรม ประชาชนขาดแคลนน้ำ เกิดปัญหาไฟป่า ฝุ่นควัน และในส่วนของ ‘ลานีญา’ ประเทศไทยมีฝนตกชุก น้ำท่วม ดินถล่ม ส่งผลต่อภาคเกษตรกรรม ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม

ประเทศไทย ร้อนจัด แห้งแล้ง

แนวทางการรับมือ ‘เอลนีโญ-ลานีญา’

  • หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกรมอุตุนิยมวิทยา หรือกรมชลประทาน ควรติดตามสภาวะอากาศอย่างใกล้ชิด และแจ้งเตือนประชาชนให้ทราบ
  • เกษตรกรควรปรับเปลี่ยนแผนการเพาะปลูก เลือกพืชที่เหมาะสมกับสภาพอากาศ
  • ประชาชนควรเตรียมพร้อมรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวน เก็บกักน้ำไว้ใช้ยามจำเป็น ดูแลรักษาบ้านเรือนให้มั่นคงแข็งแรง

อย่างไรก็ดี ปัญหาสภาพอากาศที่ร้อนระอุอยู่ในขณะนี้เป็นผลกระทบของปรากฏการณ์เอลนีโญที่กำลังเกิดขึ้น ซึ่งหากอ้างอิงจากข้อมูลที่ทาง อ.ธรณ์ ธํารงนาวาสวัสดิ์ รองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ อาจารย์ด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล ได้พยากรณ์อุณหภูมิของประเทศไทย ปี 2567 จะพบว่า “ปีนี้เอลนีโญอาจทำให้เมืองไทยร้อนเป็นประวัติการณ์” เอลนีโญจะจบลงช่วงเดือนมิถุนายน แต่ช่วงครึ่งปีแรกโลกจะร้อนเดือดไปทุกหนแห่ง หลายประเทศอาจร้อนจนทะลุสถิติเดิมในปีก่อน

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Danita S.

นักเขียนบทความไลฟ์สไตล์ บันเทิง ประจำ Thaiger ติดตามทุกกระแส K-Pop และเท่าทันทุกเรื่องราวความบันเทิง ด้วยประสบการณ์มากกว่า 3 ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ ช่องทางติดต่อ bell@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button