ใครผิด สาวสั่งพิซซ่าผ่านแอป ได้กล่องพิซซ่าอีกเจ้า ทิ้งขยะทันที-ขอเงินคืน ชาวเน็ตถก ไม่หาข้อมูล

Best Writerเผยแพร่: 22 เม.ย. 2567 13:15 น.| อัปเดต: 22 เม.ย. 2567 14:04 น.

196 1 minute read

สาวสั่งพิซซ่าผ่านแอป ได้กล่องพิซซ่าอีกเจ้า ทิ้งขยะทันที

ลูกค้าสาววีนฉ่ำ สั่งพิซซ่าเจ้าดัง ดันสลับใส่กล่องของร้านอื่นมาแทน ไม่พอใจโยนทิ้งขยะทันที ทักไปขอคืนเงิน แต่ร้านยืนยัน การสั่งถูกต้อง ชาวเน็ตแนะ แบบนี้ไม่สามารถขอเงินคืนได้

เกิดเป็นประเด็นดราม่าบนโลกออนไลน์ เมื่อหญิงสาวรายหนึ่ง แชร์ประสบการณ์สั่งพิซซ่าในแอปพลิเคชันเดลิเวอรี่ในกลุ่มเฟซบุ๊ก พวกเราคือผู้บริโภค ตนสั่งพิซซ่าร้านหนึ่งมา แต่เมื่ออาหารมาส่งกลับถูกบรรจุในกล่องของร้านพิซซ่าอีกร้านหนึ่ง จึงนำกล่องอาหารทิ้งถังขยะ พร้อมติดต่อขอคืนเงิน ชาวเน็ตชี้ร้าน 2 เจ้านี้คือเครือเดียวกัน หากทิ้งเองไม่สามารถขอเงินคืนได้

ด้านข้อความของโพสต์ต้นทาง ระบุว่า “สอบถามความเห็นค่ะ ผิดที่เราไม่ตรวจสอบเองไหมค่ะว่าเขาคือร้านเดียวกัน!!! ยอดรวม 1,006 บาท เสียดายตังค์มาก เราต้องการสั่งพิซซ่าที่ไม่ใช่ของ The Pizza Company จึงสั่งผ่าน Grab คิดว่าคงมีร้านแถวปากช่องทำพิซซ่า ไปเปิดเจอชื่อร้าน Urban Pizza เลยสั่งไปจ้า แต่เมื่อของมาถึงกลับเป็น The Pizza Company!! ถ้ารู้ก็คงไม่สั่ง สุดท้ายลงถังขยะไปค่ะ

สั่ง Urban Pizza ผ่านแอปพลิเคชั่น Grab — ภาพจาก : FB Group พวกเราคือผู้บริโภค

ร้องเรียนทาง Grab Food ไปค่ะ Grab แจ้งว่าทั้งสองเจ้าเป็นเครือเดียวกัน และวันนั้นไม่มีกล่องพิซซ่าของ Urban pizza เลยใส่กล่อง The Pizza Company มาให้ แต่ไม่มีการโทรบอกเราก่อนค่ะ เราก็พยายามสำรวจว่า เราอ่านไม่ครบหรือไม่ดูสัญลักษณ์โลโก้ร้านรึป่าว ก็พบว่าไม่มีสัญลักษณ์ของ The Pizza Company เลย แบบนี้ผิดที่เราใช่ไหมคะที่ไม่ Search Google ว่า 2 เจ้านี้เขาคือเครือเดียวกัน แค่ต้องการสั่งพิซซ่ากิน ต้องมีหน้าที่ในฐานะผู้บริโภคขนาดไหนคะ สรุปตอนนี้ไม่ได้เงินคืนนะคะ”

หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ก็เกิดเป็นประเด็นถกเถียงบนโลกอินเทอร์เน็ตอย่างกว้างขวาง มีผู้เข้ามากดไลค์กว่า 3 พันครั้ง พร้อมทั้งสมาชิกกลุ่มที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นกันอย่างหลากหลาย โดยท็อปคอมเมนต์ได้ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวว่า “บริษัทมีสองยี่ห้อครับ คือเดอะ พิซซ่า กับ เออร์เบิน เออร์เบินจะเน้นขายลูกค้าต่างชาติ แป้งคนละตัวกับเดอะพิซซ่า เป็นแป้งนิวยอร์ก คือจะบอกว่าแบรนด์ปิดบังก็ไม่ถูกซะทีเดียวอะครับ เพราะเจ้าของคือ ไมเนอร์กรุ๊ป ถือสิทธิ์หลายยี่ห้อมาก ในเคสแบบนี้จะคืนเงินก็คงไม่ได้ เพราะร้านไม่ได้ผิดเงื่อนไขอะไรเลย”

พร้อมกับคอมเมนต์อื่น ๆ ที่แนะนำให้เจ้าตัวต้องตรวจสอบให้ดีก่อนสั่ง เพราะเคสนี้คนผิดคือเจ้าของโพสต์ที่ไม่ตรวจสอบรายละเอียดแบรนด์ก่อนสั่ง อาทิ “จริง ๆ ถ้าจะไม่ชอบแบรนด์เขา มันเป็นหน้าที่เรานะครับ ที่ต้องตรวจสอบว่าสินค้าชนิดไหนอยู่ในเครือของเค้า” “สรุปต่อให้เขาเครือเดียวกันแล้วเค้าผิดอะไรอะค่ะ สงสัย เขาทำของไม่ดีให้คุณทานเหรอ คุณไม่ทานแล้วเลือกเททิ้งเอง จะงอแงอะไรอะ ไม่มีใครเขารู้แบบคุณว่าจะกินเจ้าไหนนะ มันต้องเป็นคุณที่ตรวจสอบเอง คุณอะผิดเต็ม ๆ เลย”

อีกทั้งประเด็นขอเงินคืน ชาวเน็ตก็เห็นตรงกันว่าไม่สามารถขอเงินคืนได้ เนื่องจากเจ้าของโพสต์เป็นคนทิ้งพิซซ่าลงขยะด้วยตนเอง ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ชอบแบรนด์ดังกล่าวเป็นการส่วนตัว อาทิ “เอาของทิ้งเอง ทั้ง ๆ อาหารไม่ได้มีอะไรเสีย ยังกล้าขอคืนเงิน ตลกดี” “ก็ทิ้งเอง จะไปขอเงินคืนทำไม พิซซ่าก็คนละสูตร มันก็แค่กล่องของ Company เยอะเกิ๊น”