ไฟไหม้วัดพระธาตุบังพวน อุโบสถหลังใหม่วอดทั้งหลัง ช็อกคืนก่อนสงกรานต์
วันนี้ 12 เมษายน 2567 เมื่อช่วงกลางดึก มีรายงานเหตุ ไฟไหม้วัดพระธาตุบังพวน ที่อยู่ 172 หมู่ 3 ตำบลพระธาตุบังพวน อำเภอเมืองหนองคาย จังหวัดหนองคาย
เพจเฟซบุ๊ก สถานีพระธาตุบังพวน ได้โพสต์คลิปขณะที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดน้ำดับเพลิง ต่อสู้กับเปลวไฟกำลังโหมลุกไหม้อุโบสถหลังใหม่ ตอนนี้ยังประเมินความเสียหายไม่ได้
ล่าสุด รถดับเพลิงจากหลายๆ ตำบลสนธิกำลังร่วมกันดับเพลิง ใช้เวลานานกว่า 40 นาที เพลิงจึงสงบ
ตรวจสอบที่เกิดเหตุเบื้องต้น สีของโบสถ์ลอก พระประธานและพระพุทธรูปในอุโบสถถูกความร้อนได้รับความเสียหาย อุปกรณ์สิ่งของในโบสถ์ไฟไหม้เสียหายหมด
พระลูกวัดพระธาตุบังพวน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงชาวบ้านตะโกนบอกไฟไหม้โบสถ์จึงรีบวิ่งมาดู พบกลุ่มควันจำนวนมากพวยพุ่งออกมาจากโบสถ์ พระสงฆ์ชาวบ้านช่วยกันเอาถังดับเพลิงพยายามดับไฟแต่ไม่สำเร็จจึงรีบแจ้งทางการให้มาช่วยเหลือ
ในวันพรุ่งนี้ 13 เมษายน 2567 วัดกำหนดการจัดงาน พิธีอัญเชิญหลวงปู่องค์ดำ และพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เวลา 9.00 น. แห่รอบตำบลพระธาตุบังพวนทั้ง 14 หมู่บ้าน ต้องรอความคืบหน้าจากทางวัดว่าจะยังมีจัดงานอยู่หรือไม่
อุโบสถหลังใหม่ของวัดพระธาตุบังพวน เป็นโบสถ์สองชั้น สร้างแบบสถาปัตยกรรมไทยร่วมสมัย เริ่มสร้างมาตั้งแต่ พ.ศ. 2547 แล้วเสร็จ พ.ศ. 2559 ตั้งอยู่ด้านหลังวัด แยกจากด้านหน้าซึ่งเป็นโซนโบราณสถาน ซึ่งกรมศิลปากรอนุรักษ์ไว้
วัดพระธาตุบังพวน เป็นพระธาตุคู่บ้านคู่เมืองหนองคาย มีอายุยาวนานกว่า 2,000 ปี หนึ่งในวัดสำคัญประจำจังหวัด โด่งดังด้วยเจดีย์ทรงเรือนปราสาทสี่เหลี่ยมที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็นที่เดียวในโลกที่ยังหลงเหลือโบราณสถานอันเป็นสัตตมหาสถานจากอดีตครบทั้ง 7 สิ่ง
ตามตำนานเล่าว่า วัดพระธาตุบังพวนสร้างขึ้นเมื่อสมัยอุรังคธาตุ พ.ศ. 19 โดยพระอรหันต์ผู้มาเผยแพร่พระพุทธศาสนาได้นำพระบรมธาตุของพระพุทธเจ้าส่วนที่เป็นหัวเหน่ามาด้วย พระยาจันทรบุรีประสิทธิ์ สักกเทวะ กษัตริย์แห่งเมืองเวียงจันทน์ ทราบเรื่องจึงเสด็จมาสักการะและสร้างเจดีย์บรรจุพระธาตุ เรียกว่า “พระธาตุบังพวน”