ข่าวข่าวการเมือง

‘หมออ๋อง-วิโรจน์’ โพสต์อาจเป็นอภิปรายครั้งสุดท้าย ลั่นไม่รู้สึกเสียใจ

หมออ๋อง และ วิโรจน์ ร่วมประสานเสียงโพสต์อาจเป็นอภิปรายครั้งสุดท้าย หลังศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องยุบพรรค ลั่นไม่รู้สึกเสียใจ

นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯ ได้โพสต์ภาพลงทวิตเตอร์เขียนข้อความภาษาอังกฤษ ระบุว่า “It might be the last day!!” หรือแปลว่า “มันอาจจะเป็นวันสุดท้าย” ภายหลังการอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังจากที่ ศาลรัฐธรรมนูญ รับคำร้อง จาก กกต. ที่ยื่นยุบพรรคก้าวไกล หลังถูกวินิจฉัยว่ามีพฤติการณ์ล้มล้างการปกครองตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้

ขณะที่ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ได้แชร์โพสต์ของนายปดิพัทธ์ พร้อมเขียนข้อความคล้ายคลึงกันว่า “ผมเองก็ใกล้แล้วเช่นกัน ดังนั้นพวกเราจงมาร่วมกันทำในสิ่งที่เราจะไม่รู้สึกเสียใจ เมื่อนึกย้อนกลับไป กันเถอะครับ”

ก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวความในใจว่า ตลอดเจ็ดเดือนที่ผ่านมา ไม่เสียใจที่ไม่ได้เป็นผู้บริหาร แม้ตนจะชนะการเลือกตั้งสามารถรวบรวมเสียงได้ 312 เสียง ไม่เคยเสียใจที่ต้องมาเป็นฝ่ายค้าน เพราะตนเชื่อว่าการเป็นฝ่ายค้านนั้นก็มีความสำคัญกับระบบประชาธิปไตย การเป็นฝ่ายค้านสามารถทำงานให้กับพี่น้องประชาชนได้ สุขภาพประชาธิปไตยไม่ได้วัดอยู่ที่ว่ารัฐบาลนั้นมีอำนาจเบ็ดเสร็จแค่ไหน แต่อยู่ที่ว่าฝ่ายค้านแอคทีฟแค่ไหน ทำงานให้กับประชาชนมากน้อยเพียงใด

แล้วก็ไม่เคยเสียใจว่าการอภิปรายในครั้งนี้ อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายในชีวิตการเมืองของตน ไม่ใช่เรื่องที่เป็นความลับอะไร ชีวิตทางการเมืองของตนแขวนอยู่บนเส้นด้าย แต่ตนพร้อมจะจากไปอย่างผู้ชนะ ไม่มีอะไรติดค้างใจต่อไป ยิ่งได้เห็นเพื่อนส.ส.รุ่นหนึ่ง รุ่นสองก็รู้สึกเบาใจ ไม่มีอะไรที่ต้องค้างคาอีกต่อไป และมั่นใจว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพรรคของตน ไม่ว่าจะเป็นการยุบพรรคหรือการทำลายพรรคก้าวไกล ก็ไม่ทำให้การเดินทางสู่การเปลี่ยนแปลงของประเทศหายไป

เผลอๆ ยิ่งยุบพรรคจะยิ่งทำให้เราถึงเส้นชัยได้เร็วขึ้นด้วยซ้ำไป ตนจึงไม่เสียใจ แต่ตนเสียดาย ยิ่งได้ฟังการชี้แจงของคณะรัฐมนตรีในช่วงสองวันที่ผ่านมา รู้สึกเสียดายโอกาสของประเทศไทย เสียดายเวลาประเทศไทยที่เสียไป เสียดายศรัทธาของพี่น้องประชาชน เสียดายส่วนตัวที่เคยให้คะแนนพรรคท่านตั้งแต่ปี 43 แต่วันนี้ความสะเปะสะปะความล่องลอย ฟังแล้วไม่รู้ว่าวาระของรัฐบาลชุดนี้คืออะไร ที่หาเสียงไว้ก็ไม่ทำ ที่ทำไว้ก็ไม่ได้หาเสียง ทำให้ตนรู้สึกว่ารัฐบาลชุดนี้ไร้วาระ รัฐบาลชุดนี้ไม่มีวาระเป็นของตัวเอง พอไร้วาระก็ไร้วิสัยทัศน์ พอไร้วิสัยทัศน์ก็ไร้ผลงาน นี่เป็นสิ่งที่ต่อเนื่องมาตลอดทำให้ตนเสียดายในช่วงเจ็ดเดือนที่ผ่านมา

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button