เปิดพฤติการณ์ ‘เจ๊เก่ง’ รองผอ.โรงเรียนดัง ค้ายา มั่วเซ็กซ์คู่ขาเกย์ จนหมอหมดตัว
สรุปไทม์ไลน์ ยอนดูพฤติการณ์ฉาว มั่วสุมยา-เซ็กส์ของข้าราชาการระดับสูง “เจ๊เก่ง” รองผู้อำนวยการของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด อายุ 42 ปี ชาว จ.นนทบุรี พร้อมผู้ร่วมก่อเหตุ “เกย์ท็อป” อายุ 37 ปี ชาวบางเขน กรุงเทพมหานคร กรณีอ้างตนเองเป็นแพทย์ หรือ หมอตำรวจ อายุรกรรมโรคหัวใจ หลอกลวงสร้างความสัมพันธ์แบบชายรักชาย กับเหยื่อที่เป็นบุคลากรทางการแพทย์ให้เสพติดยาจนหมดตัว ก่อนที่สุดท้ายจะถูกเจ้าหน้าที่บุกจับกุมที่ห้องพักในคอนโดแห่งหนึ่งบน ถ.รัตนาธิเบศร์
เผยพฤติการณ์ “เจ๊เก่ง-เกย์ท็อป” เครือข่ายก๊วนเกย์มั่วสุม
จากการสืบสวนหาข้อมูลของเจ้าหน้าที่ตำรวจทำให้ทราบว่า เกย์ท็อป มีชื่อจริงว่า นาย กฤตฌาน์พัฒน์ เป็นบุคคลตามหมายจับ 2 หมาย ในคดีค้ายาเสพติด
ต่อมา พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ได้ส่งเจ้าหน้าที่แฝงตัวเป็นสาย เข้าไปเก็บข้อมูลในแวดวงกลุ่มรักร่วมเพศกระทั่งได้เบาะแสเพิ่มเติมว่า เกย์ท็อป เป็นหนึ่งในลูกน้องคนสำคัญของเอเย่นเครือข่ายหลอกลวงย่านปากเกร็ด ที่มักนัดรวมตัวบรรดาข้าราชการรักร่วมเพศ มาร่วมมั่วสุมเสพสมปาร์ตี้ยาเสพติด บริเวณคอนโดย่าน ถนน รัตนาธิเบศร์
จนมาทราบในภายหลังทราบว่า เอเย่นรายนี้ก็คือ นายเศรษฐยศ หรือเจ๊เก่ง ซึ่งเป็นข้าราชการครูระดับ รองผู้อำนวยการ (ผอ.) ของโรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด
ทางด้านของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังจากบุกจับสองก๊วนเกย์ เจ๊เก่ง-เกย์ท็อป ในคอนโดได้สำเร็จ ก็ได้ทำการตรวจสอบห้องที่เกิดเหตุเพิ่มเติม แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะไหวตัวทันจนทำลายหลักฐานไปแล้วบางส่วน แต่ชุดสืบสวนก็ได้ค้นห้องจนพบกับ ยาเสพติดหลายรายการ ที่กำลังจะเตรียมแบ่งขายไว้เป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ยังพบกับสมุดบันทึก อันเป็นหลักฐานสำคัญ ที่มีข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อ-ขาย ยาเสพติด และของกลางอื่น ๆ อีกมาก อาทิ ยากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ ถุงยางอนามัย เจลหล่อลื่น และภาพยนตร์สื่อลามกอนาจารแบบชายรักชายอีกนับไม่ถ้วน
เจ๊เก่ง-เกย์ท็อป จำนนต่อหลักฐาน
ทั้งนี้ เจ๊เก่ง ก็ยังคงให้การปฏิเสธ โดยอ้างว่าอุปกรณ์ต่าง ๆ มีไว้เพื่อสอนหนังสือในโรงเรียนก็เท่านั้น แต่ทางฝั่งตำรวจเองก็งัดข้อมูลมาขยายผลเพิ่มเติม จนพบว่า เจ๊เก่ง มีตำแหน่งเป็นถึงระดับ “หัวจ่าย” หรือก็คือ บุคคลที่คอยส่งยาเสพติดให้กับข้าราชการอีกหลายคนที่คาดว่าอาจมีข้าราชการระดับสูงเอี่ยวเรื่องนี้ด้วย
ในส่วนของเส้นทางการเงิน พบว่า เจ๊เก่ง มีเงินหมุนเวียนในช่วงเดือนที่ผ่านมามากถึง 1,300,000 บาท อย่างไรก็ตาม ทั้งสองมีสารเสพติดในร่างกาย ซึ่งทำให้ผู้ก่อเหตุต้องยอมจำนนและรับสารภาพกับเจ้าหน้าที่ในชุดจับกุม
คำสารภาพของ “เจ๊เก่ง”
เบื้องต้นในชั้นจับกุม เจ๊เก่ง ได้ให้การว่า ตนเองมีอาชีพเป็น ราชการครูตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านปากเกร็ด สอนวิชาการงานอาชีพให้แก่เด็กชั้นประถมศึกษา และเริ่มต้นเสพยาตั้งแต่กลางปี พ.ศ. 2566 จากนั้นจึงได้ทำการสั่งยามาจากเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) มาขายให้กับเพื่อนวัยรุ่น และข้าราชการ ย่านรัตนาธิเบศ ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2567
แม้ว่าปัจจุบันจะยังรับข้าราชการอยู่ แต่ก็ยังคงจำหน่ายยาเสพติดเสริมไปด้วย ระหว่างนี้ตนได้รู้จักกับ เกย์ท็อป เมื่อช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2566 ที่ผ่านมา จากนั้นจึงได้คบค้าสนิทใจกัน และนำยามาขายให้กับนายท็อป จนเป็นเครือข่ายเรื่อยมา
คำสารภาพของ “เกย์ท็อป”
นายกฤตฌาน์พัฒน์ หรือ เกย์ท็อป ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ในชั้นจับกุมว่า ตนเองเกิดและเติบโตที่ กรุงเทพมหานคร จากนั้นจึงได้ศึกษาในระดับชั้นอุดมศึกษาที่ มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านรังสิต คณะวิศวกรรมศาสตร์
กระทั่งจบการศึกษา ก็ได้ออกมาประกอบสัมมาอาชีพเป็น ออแกไนซ์ รับจัดงานอีเวนต์เป็นระยะเวลา 1 ปี ต่อมา ตัดสินใจเรียนต่อได้ระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านปทุมวันจนเรียนจบ และทำงานที่บริษัทประกันภัย
เกย์ท็อป เปิดเผยว่า ตนเข้าสู่เส้นทางอันดำมืดของยาเสพติดเรื่อยมาจนชีวิตย่ำแย่ ก่อนจะโดนโทษติดคุก 1 ปี 3 เดือน จากการ เสพยาอยู่กับกลุ่มเพื่อนในปี พ.ศ 2557
ภายหลังออกจากเรือนจำในปี พ.ศ. 2558 ตนไม่สามารถหางานเพื่อเลี้ยงชีพได้เลย เนื่องจากเคยมีประวัติติดคุกมาก่อนหน้านี้ สุดท้ายก็ต้องหันมาพึ่งพายาเสพติดเหมือนเดิมอีกครั้ง
ไม่นาน เกย์ท็อป ได้สานสัมพันธ์กับแฟนหนุ่มที่มีอาชีพเป็ฯแพทย์มาแล้ว 2 คน แต่ท้ายสุดก็เลิกรากันไป เจ้าตัวยืนยันว่าแพทย์ที่อ้างว่าตนทำให้สิ้นเนื้อประดาตัว แท้จริงแล้วหมอเหล่านั้นติดยาเสพติดที่ตนเอาไปให้ในห้อง
กระทั่งล่าสุด ตนมีโอกาสได้มารู้จักกับครูเก่ง หรือ เจ๊เก่ง ทำให้ติดต่อคบค้าสมาคม นำยาเสพติดไปจำหน่ายจ่ายแจกเรื่อยมา จนในที่สุดก็ถูกหมายจับแต่ศาลฯได้รับอนุญาตให้ประกันตัว จึงใช้โอกาสนี้หลบนี้มาเป็นระยะเวลา 2 ปี
รวมของกลาง จำนวน 10 รายการ
- ยาเสพไอซ์ ประมาณ 100 กรัม (ลักษณะใส่ถุงเตรียมแบ่งขาย)
- คีตามีน จำนวน 2 ถุง
- เงินสด 31,500 บาท
- สมุดบัญชีธนาคาร 5 เล่ม (พบเงินหมุนเวียน 1.3 ล้านบาทใน 3 เดือนที่ผ่านมา)
- ถุงยางอนามัย จำนวน 200 ชิ้น
- เจลหล่อลื่นบรรจุซอง จำนวน 100 ซอง
- ไวอากร้า จำนวน 50 ซอง
- เข็มฉีดยาพร้อมสายยางรัด จำนวน 100 เข็ม
- Eternal Drive จำนวน 6 อัน (บรรจุหนังลามกประเภทชายรักชายรวม 6 TB)
- อุปกรณ์การเสพยาเสพติดและเครื่องชั่งอีกหลายรายการ
สรุปขอหา “เกย์ท็อป”
1. พ.ศ.2557 ถูกดำเนินคดีข้อหา “ครอบครองยาเสพติด (ยาไอซ์) เพื่อจำหน่าย” พื้นที่ สน.สุทธิสาร
2. พ.ศ.2560 ถูกดำเนินคดีข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สน.สุทธิสาร
3. พ.ศ.2562 ถูกดำเนินคดีข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครอง” พื้นที่ สน.บางโพงพาง
4. พ.ศ.2564 ถูกดำเนินคดีข้อหา “มียาเสพติดประเภท 1 (แอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย” พื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ
ทั้งสองถูกแจ้งข้อหาว่า “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายอันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาไอซ์) โดยผิดกฎหมาย”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง