ผู้เชี่ยวชาญเผยสาเหตุ ทำไมคนขับรถ มักเหยียบคันเร่งผิด จนเกิดอุบัติเหตุ พร้อมแนวทางป้องกัน ต้องแก้ปัญหายังไงบ้าง
อุบัติเหตุบนท้องถนนจำนวนมาก มีสาเหตุมาจากการเหยียบคันเร่งที่ผิดพลาดของคนขับรถ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดพฤติกรรมเช่นนี้ เกิดขึ้นได้จากหลายกรณี ทั้งสาเหตุจากภายในตัวเองของผู้ขับ และปัจจัยแวดล้อมภายนอกที่คาดไม่ถึง ซึ่งไทยเกอร์ได้รวบรวมมาฝากกัน ดังนี้
1. ไม่ตื่นตัวหรือไม่มีสมาธิในการขับขี่
การเหยียบเบรกและคันเร่งผิดเท้า มักเกิดขึ้นเมื่อผู้ขับขี่อยู่ในภาวะขาดสติ หรือขาดสมาธิในการขับขี่ ตลอดจนตอนที่ควบคุมพวงมาลัยไปเล่นโทรศัพท์ไป หรือแม้แต่ตอนที่คุณสาว ๆ ทาลิปสติกระหว่างขับรถ ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้ทำให้ผู้ขับขี่เสียการควบคุมได้ง่าย และยิ่งตื่นตระหนกเมื่อเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดบนท้องถนน
2. พฤติกรรมการขับรถที่ไม่คุ้นชิน
การขับรถที่ไม่คุ้นเคยหรือเพิ่งเปลี่ยนจากเกียร์ธรรมดาเป็นเกียร์อัตโนมัติ สามารถทำให้ผู้ขับขี่สับสนระหว่างคันเร่งและแป้นเบรกได้ง่าย หากคุณใช้รถเกียร์ธรรมดา มักจะเป็นเรื่องยากที่รถจะเร่งความเร็วได้อย่างรวดเร็วเมื่อเหยียบแป้นเบรกผิด เนื่องจากในรถมีแป้นคลัตช์ด้วยนั่นเอง ผิดจากรถเกียร์ออโต้ที่สูญเสียการควบคุมได้ง่ายกว่ามาก
3. ลืมเปลี่ยนคันเกียร์
ขณะหยุดหรือจอดรถ หากผู้ขับขี่ลืมเปลี่ยนคันเกียร์และปล่อยให้อยู่ในโหมด D อาจเกิดอันตรายได้ เพราะเมื่อขยับตำแหน่งนั่งหรือถอนเท้าออกจากแป้นเบรก อาจนำไปสู่ข้อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด เช่น รถไหล หรือพุ่งออกไปด้านนอกนั่นเอง
4. อิริยาบถในการขับรถไม่ถูกต้อง
การนั่งในรถและเคลื่อนที่โดยไม่ปรับตำแหน่งเบาะนั่งคนขับให้เหมาะสมและสะดวกต่อการขับขี่ อาจส่งผลกระทบต่อความผิดพลาดในการขับขี่ ที่กระตุ้นให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย
5. สวมใส่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม
อันที่จริงแล้วไม่มีข้อบังคับเกี่ยวกับการแต่งกายของผู้ขับขี่รถยนต์ อย่างไรก็ตาม การเลือกเสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสม เช่น รองเท้าส้นสูงหรือเดรสยาวถึงส้นเท้า ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติที่ไม่คาดคิดได้เช่นกัน
วิธีแก้ปัญหาเหยียบคันเร่งผิด
1. ควรใช้เท้าขวาควบคุมทั้งแป้นเบรกและคันเร่ง
ระบบทำงานของคันเร่งและเบรกมีหน้าที่ตรงกันข้าม ซึ่งโดยปกติแล้วเราจะใช้งานเพียงระบบเดียวในแต่ละครั้ง ดังนั้นจึงควรใช้เท้าเพียงข้างเดียวในการควบคุมแป้นทั้งสอง เพื่อให้เหมาะกับพฤติกรรมการขับขี่และป้องกันอุบัติเหตุเหยียบผิด
2. ตั้งพักเท้าให้เหมาะสมกับเกียร์แต่ละประเภท
- สำหรับรถยนต์เกียร์ธรรมดา: เท้าซ้ายควบคุมคลัตช์ เท้าขวาควบคุมทั้งคันเร่งและเบรก
- สำหรับรถเกียร์อัตโนมัติ: เนื่องจากไม่มีคลัตช์ เท้าขวาจึงทำหน้าที่เหมือนรถเกียร์ธรรมดา ในขณะที่เท้าซ้ายไม่ทำอะไรเลย
3. มีสมาธิและสงบสติอารมณ์
สมาธิและความนิ่งสงบเป็นสิ่งสำคัญในการขับขี่ยานพาหนะ สำหรับรถยนต์ แม้ว่าจะจอดรถแล้ว คนขับก็ยังต้องมีสมาธิอยู่หลังพวงมาลัย ซึ่งจะช่วยให้เกิดความปลอดภัยมากขึ้นสำหรับทั้งตัวคุณเองและคนรอบข้าง
ทั้งนี้หากใครที่จะขับขี่รถยนต์หรือเดินทางระยะไกล อย่าลืมพักผ่อนให้เพียงพอและตื่นตัวอยู่เสมอ ตลอดจนสวมใส่เสื้อผ้าที่เคลื่อนไหวได้ง่าย และตรวจเช็กว่าไม่มีขวดน้ำหรือสิ่งแปลกปลอมกลิ้งไปมาบริเวณที่วางเท้าของคนขับ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- จะอ้วก กินผลไม้รสเปรี้ยว แก้เมารถได้จริงไหม แล้วต้องกินอะไรถึงจะดีที่สุด
- 10 วิธีแก้ง่วงเวลาทํางาน ให้ร่างกายกลับมาสดใส ลุยงานได้ตลอดทั้งวัน
- แอปเปิล ประกาศ เลิกผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ลุยพัฒนา ปัญญาประดิษฐ์แทน
