ข่าวข่าวการเมือง

‘สนธิญา’ บุกยื่น กกต. สั่ง 44 สส.ก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว

สนธิญา บุกยื่น กกต. สั่ง 44 สส.ก้าวไกล หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จนกว่าจะวินิจฉัยเสร็จ ยกปม บิ๊กตู่ เทียบว่าตอนนั้นก็หยุดทำหน้าที่เหมือนกัน

นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เดินทางมายังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้พรรคก้าวไกล ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด กรณีกกต.ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล กรณีใช้การแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เป็นนโยบายหาเสียง

โดยนายสนธิญา กล่าวว่า วันนี้ตนมาเรียกร้องให้กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้พรรคก้าวไกลหยุดการปฏิบัติหน้าที่ จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานเดียวกันกับกรณี สส.พรรคก้าวไกล ยื่นขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น พร้อมพ่วงขอให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย

โดยสส. 44 คน ที่ร่วมลงชื่อแก้ไขมาตรา 112 ก็มีส่วนร่วมส่งคำร้องกรณีพล.อ.ประยุทธ์ เช่นกัน ซึ่งศาลก็มีคำสั่งให้พล.อ.ประยุทธ์ ยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ดังนั้น เมื่อกกต.จะยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ ยุบพรรคก้าวไกล ก็ขอให้เสนอเรื่องให้พรรคก้าวไกล ยุติการดำเนินการใดๆ จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยถึงที่สุด

“ที่มายื่น เพราะผมอยากให้ความเป็นธรรมเกิดขึ้น ในเมื่อคุณยื่นเรื่องกรณีพล.อ.ประยุทธ์ ครบวาระ 8 ปีหรือไม่ ท่านก็บอกศาลว่าให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ วันนี้เมื่อกกต.ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยการกระทำของพรรคก้าวไกล ล้มล้างการปกครอง ยุบพรรค รวมถึงตัดสิทธิทางการเมือง ก็สมควรส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งพรรคก้าวไกลหยุดการกระทำการใดๆ ไปจนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด” นายสนธิญา กล่าว

เมื่อถามว่ามีกระแสจากพรรคก้าวไกล ระบุว่าการยุบพรรค ใช้กระบวนการรวดเร็วกว่าการพิจารณายุบภูมิใจไทย กรณีรับเงินบริจาค นายสนธิญา กล่าวว่า กรณียุบพรรคก้าวไกล ที่กกต.ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น เห็นว่าศาลเคยมีคำวินิจฉัยกรณีการชุมนุมเรียกร้อง 10 ข้อของกลุ่มนักศึกษา ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เมื่อปี 2564 โดยศาลวินิจฉัยสั่งให้ยุติการกระทำใดๆ อันเป็นการล้มล้างการปกครองฯ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ศาลวินิจฉัย

และกรณีนี้ กกต.ส่งเรื่องให้ศาลวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล ส่วนหนึ่งได้อ้างอิงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 31 ม.ค.67 ด้วย อีกทั้งพรรคก้าวไกลไม่ได้แสดงเจตนาในขณะนี้เลยว่าพร้อมที่จะไม่กระทำการใดๆ อันขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 211 ซึ่งมีผลผูกพันทุกองค์กร

ตนจึงเชื่อมั่นว่าหากพรรคก้าวไกล แสดงพฤติกรรมหรือท่าทียอมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และพร้อมที่จะแก้ไขลดเพดานการแก้ไขมาตรา 112 เชื่อว่าจะไม่มีการยุบพรรคก้าวไกล ซึ่งข้อเท็จจริงในประเด็นนี้มีความชัดเจนในทุกอณูของคำวินิจฉัย โดยอาศัยคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถึง 2 ครั้ง และรวมถึงหลักฐานการกระทำต่างๆ ที่เกิดขึ้นของพรรคก้าวไกล

ส่วนที่นักวิชาการมองว่าการยุบพรรคก้าวไกลก็จะไม่จบ เนื่องจากมีการเคลื่อนไหวทำงานการเมืองอย่างต่อเนื่อง นายสนธิญา กล่าวว่า การที่พรรคก้าวไกลถูกยุบเป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย รวมถึง คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นไปตามระบอบการปกครองประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ไม่มีใครกลั่นแกล้ง

หากพรรคก้าวไกลไม่ดำเนินการ ก็จะไม่มีผู้มาร้องและผู้ที่มาร้องก็มีหลักฐานและเหตุผลประกอบให้กกต.พิจารณา อีกทั้งการร้องยุบพรรคไม่ได้ร้องเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ขอเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับกกต.และศาลรัฐธรรมนูญ ให้เข้าใจว่ากระบวนการเหล่านั้นเป็นไปตามกฎหมาย ตราบใดที่พรรคก้าวไกลยังดำเนินการขัดกฎหมายหรือรัฐธรรมนูญ ก็จะถูกยุบหรือถูกตัดสิทธิทางการเมืองไปเรื่อยๆ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button