ข่าวข่าวการเมือง

‘ยิ่งลักษณ์’ ปลุกใจพลังหญิง เผยมีเคสผู้หญิงถูกทำร้าย 30,000 ต่อปี

ยิ่งลักษณ์ โพสต์ปลุกใจพลังหญิง อย่าให้ใครมาลดทอนคุณค่าของเรา ทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่ากัน หลังมีเคสผู้หญิงถูกทำร้าย 30,000 ต่อปี

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล โดยระบุว่า “ดิฉันอ่านเจอข้อมูลตัวเลขของ UNODC และ สสส. ที่ระบุว่า จำนวนผู้หญิงไทยถูกคนในครอบครัวใช้ความรุนแรงทำร้ายร่างกาย จิตใจ และทางเพศ โดย 87.4% ไม่เคยขอความช่วยเหลือ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขรายงานจำนวนเคสผู้หญิงที่ถูกกระทำรุนแรง สูงถึง 30,000 เคสต่อปี นี่คือปัญหาที่ยังไม่หมด และต้องได้รับการแก้ไขค่ะ

สิทธิสตรี คือ สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน เราทุกคนมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์เท่าเทียมกัน ทุกคน คือคนเท่ากัน ดังนั้น ในฐานะผู้หญิงคนหนึ่ง ดิฉันรู้ถึงบทบาทหน้าที่ที่แตกต่างกันของผู้หญิง บางคนเป็นแม่ บางคนเป็นลูกสาว เป็นพี่สาว เป็นน้องสาว แต่ไม่ว่าจะอยู่ในบทบาทไหน ‘สิทธิ’ ที่ควรได้รับต้องแตกต่างกันค่ะ

เนื่องในวันสตรีสากล ดิฉันขอให้ผู้หญิงทุกคนเชื่อมั่นในคุณค่า และศักยภาพของตัวเราเอง และขอส่งกำลังใจให้ทุกคน กล้าลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อคืนศักดิ์ศรีให้ตัวเองในทุกกรณี และเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะช่วยเหลือให้ผู้หญิงที่กล้ายืนหยัดได้มีหนทางในการช่วยเหลือตัวเองต่อไปได้อย่างมีศักดิ์ศรี ซึ่งก่อนหน้านี้ภายใต้รัฐบาลของดิฉัน เคยมีการก่อตั้ง “OSCC” One Stop Crisis Center หรือศูนย์ช่วยเหลือสังคม เพื่อให้การช่วยเหลือเด็ก สตรี ผู้สูงอายุ และคนพิการขึ้นเพื่อรองรับตรงนี้ โดยทำงานบูรณาการการช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายที่ประสบปัญหาเพื่อสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันในสังคม ซึ่งอยู่ภายใต้กำกับของ กระทรวงสาธารณสุข วันนี้ดิฉันยังเห็นการทำงานของศูนย์ฯนี้ ดิฉันหวังว่า จะเป็นทางสายเล็กๆที่ขยายเป็นทางสายใหญ่ให้ผู้หญิงทุกคนเดินต่อไป เหมือนเช่นเดิมที่ได้ก่อตั้งไว้

สุดท้าย ดิฉันยังเชื่อเสมอว่า หากเรามองเห็นคุณค่าในตัวเอง เราจะไม่มีวันยอมให้ใครมาลดทอนคุณค่าของเรา Happy International Women’s Day ค่ะ”

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button