เร่งตามหา นุ่น สาวหายตัวปริศนา หลังทะเลาะแฟนแล้วลงจากรถ ลูกเขยบอกให้แม่ทำใจ พิรุธ GPS โผล่ 5 จังหวัด เพื่อนเล่าผู้สูญหายเคยถูกลูกเขยเอาเท้าเหยียบหน้า
กลายเป็นประเด็นในสื่อสังคมออนไลน์ หลังจากที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Athiporn Insook ได้โพสต์ข้อความตามหาเพื่อน หรือ นุ่นหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 18 ก.พ. เวลาตี 3 และผ่านมาเกิน 24 ชั่วโมงยังไม่พบตัว โดยเพื่อนผู้สูญหายระบุว่า “ขออนุญาตใช้พื้นที่สื่อโซเชียลในการตามหาเพื่อนค่ะ ตอนนี้ติดต่อเพื่อนไม่ได้มากกว่า 24 ชั่วโมงแล้ว เนื่องวันเสาร์ที่ 17 กุมภาได้มีการนัดกินเลี้ยงวันเกิดสามีเพื่อนกันที่ร้านWaterside ถนนเลียบด่วนรามอินทรา หลังจากร้านปิด 01.00 ก็แยกย้ายกันกลับบ้าน ซึ่งสามีของเพื่อนเล่าว่าเพื่อนกับสามีจะต้องขับรถกลับบ้านที่นนทบุรี และระหว่างขับรถกลับบ้านก็มีเรื่องทะเลาะกันแล้วเพื่อนก็ได้ลงจากรถซึ่งเป็นซอยที่ใกล้จะถึงบ้าน ตั้งแต่วันที่อาทิตย์ที่ 18 กุมภา ช่วงเวลาประมาณ 03.00 กังวลว่าจะเกิดอันตรายกับเพื่อนเพราะเวลาก็ค่อนข้างดึก และเป็นกลางคืน ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีใครสามารถติดต่อได้เลย โดยปกติแล้วเพื่อนจะออนไลน์อยู่ในโซเชียลตลอด หากมีใครพบเห็น ช่วยแจ้งมาหน่อยนะคะ ทุกคนเป็นห่วงมาก
ตอนนี้ทางสามีของเพื่อนได้แจ้งความไปแล้วค่ะ
**ชุดวันที่ลงจากรถก็เป็นชุดในรูปเลยค่ะ
**โดยปกติแล้วทุกครั้งที่เพื่อนทะเลาะกับสามี เพื่อนจะพาลูกออกมาด้วยทุกครั้ง และส่วนมากจะพาลูกมาอยู่กับมายกับกวาง หรือกับเพื่อนๆ แต่ครั้งนี้ไม่เลย
**นุ่นคนที่หายตัวไปไม่ได้เมานะคะ”
ในเวลาต่อมา นางสาวเพ็ญ แม่ผู้สูญหาย เดินทางเพื่อมาให้การเพิ่มเติมหลังจากที่นายศิริชัยอายุ 33 ปี ลูกเขย เข้ามาแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแม่ผู้สูญหาย เผยว่า ตนได้ถามทางลูกเขยว่าเรื่องเป็นมายังไง เขาก็เล่าให้ฟังว่าทะเลาะกันแล้ว นุ่น ได้ลงจากรถไปขึ้นแท็กซี่ก็ไม่เจอเลย ทางลูกเขยจึงกลับมารอที่บ้านเพื่อรอนุ่นกลับมา แต่ก็ไม่กลับมา ตนเลยคิดว่าทำไม ณ เวลานั้นไม่ลงไปตาม หรือขับรถตามแท็กซี่คันนั้นไป เพราะตัวเองก็มีรถมันสะดวกกว่า
ตนมั่นใจว่าลูกสาวของตนหายแต่ตนไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง เมื่อคืนคุยกับลูกเขยแล้วเขาก็บอกว่าให้แม่ทำใจเพราะไม่รู้ว่านุ่นยังไง 50/50 เพราะว่าเขาจับ GPS ครั้งสุดท้ายได้ที่ แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ลูกเขยบอกกับตนว่าจะไปตามหานุ่นอีกที เรื่อง GPS ตนก็ไม่ค่อยมั่นใจ แต่เขาใช้โทรศัพท์มันสามารถจับ GPS หากันได้ แล้วนุ่นหายไประหว่างนั้น ทำไมลูกเขยไม่ติดต่อญาติพี่น้องเพื่อนที่สนิทของนุ่นให้รับรู้ พอแม่มารู้อีกทีก็ 4 ทุ่มเมื่อคืนนี้
ตนเลยสงสัย อีกทั้งใน 1 ปีที่ผ่านมาลูกสาวและลูกเขยมีเรื่องทะเลาะกันไหม แต่เคยมีเพื่อนสนิทของนุ่นบอกว่า นุ่นกับลูกเขย เคยมีเรื่องทะเลาะกันถึงขนาดบีบคอ เอาเท้าเหยียบหน้านุ่นเป็น 10 ครั้ง ตนคิดว่าเขามีอารมณ์รุนแรง เพราะตอนที่ทำ เพื่อนบอกว่าลูกเขยไม่ได้เมาเพราะเพื่อนสนิทอยู่ในเหตุการณ์ และการกระทำในครั้งนี้ของลูกเขย ทำให้ตนไม่ไว้ใจอีกแล้ว
ในเวลาต่อมา นายศิริชัย อายุ 33 ปี สามีของนุ่น อายุ 27 ปี ได้อุ้มลูกเดินทางมาเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมแม่ของภรรยาและครอบครัว โดยทางฝ่ายแม่น้องนุ่นต้องการให้ลูกเขยไปชี้จุดที่รถวิ่ง และจุดที่น้องนุ่นหนีลงรถไปขึ้นแท็กซี่ ก่อนจะหายตัวไป เพราะแม่มีความสงสัยเกี่ยวกับคำบอกเล่าของลูกเขยหลายจุด จากการสอบปากคำนายศิริชัย ให้การว่า ภรรยาเคยไปทำงานที่ปอยเปตและจุดสุดท้ายของ GPS คือ จ.ฉะเชิงเทรา เป็นชายแดนปอยเปต จึงได้ประสานเช็กไปทาง ตม. แถวปอยเปต มีภาพออกไปปอยเปตเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ที่ผ่านมา
แม่ของน้องนุ่น กล่าวว่า ลูกไม่ได้เป็นคนขี้น้อยใจ แต่เป็นคนมีเหตุมีผล มีอะไรจะพูดกับแม่ตลอด เพราะตนเคยบอกลูกไว้ว่า มีอะไรให้บอกตนได้เลย อย่าคิดว่าแม่เป็นคนอื่น ตอนนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงลูกมาก และตั้งแต่ลูกมีครอบครัว ตนก็ไม่เข้าไปยุ่ง ตนเห็นลูกโพสต์ข้อความ รูปภาพต่างๆ เห็นว่าเขามีความสุขแล้ว แต่ตนก็ไม่คิดว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นกับลูกของตน ตนอยากบอกน้องนุ่นว่า ติดต่อแม่มาหน่อยว่าอยู่ที่ไหน
ด้านนายศิริชัย สามีน้องนุ่น กล่าวว่า อยากให้น้องนุ่นกลับมา ทุกครั้งเวลาทะเลาะกันก็จะออกจากบ้านไปแบบนี้เสมอ แต่ครั้งนี้หนีไป เพราะว่าตนพูดประชดและไม่รู้ว่าจะติดต่อยังไง ซึ่งตนจะเป็นฝ่ายง้อน้องนุ่นตลอดตั้งแต่มีลูก เวลาทะเลาะกันน้องนุ่นก็มีจิกหัวตนบ้าง มีตีคืนบ้างแต่ตนก็ยอมมาตลอด ซึ่งเคยมีทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือกันเลือดตกยางออก แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอีกเลย เคยแจ้งความไว้นานแล้ว จนเป็นคดีติดตัวของตนในคดีทำร้ายร่างกาย
