‘จตุพร’ ฝากถึง ‘คำผกา’ ต่อสู้อะไรมาบ้าง นอกจากสถาปนาตัวเป็นนางแบก

Pacharaเผยแพร่: 05 ก.พ. 2567 11:50 น.| อัปเดต: 05 ก.พ. 2567 12:02 น.

386 1 minute read

จตุพร พรหมพันธุ์ ฝากถึง แขก คำผกา หลังเจอพาดพิงพูดเอาใจด้อมส้ม ร่ายยาวคดีการเมืองก่อนถามกลับ อีกฝ่ายมีประวัติต่อสู้ตรงไหนบ้าง นอกจากปากจัดจ้าน บางวันลามกจกเปรต เป็นกระบอกเสียของรัฐบาลที่ทรงคุณค่า

เมื่อวันที่ 3 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา จตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำคณะหลอมรวมประชาชน ได้มีการไลฟ์สดแสดงความคิดห็นและมุมมองการเมืองไทย ผ่านรายการ ประเทศไทยต้องมาก่อน ในชื่อตอน ” หนัก !! ” โดยช่วงหนึ่งได้มีการกล่าวถึง ลักขณา ปันวิชัย หรือ คำ ผกา ผู้ดำเนินรายการหญิง ของช่อง Voice TV ที่ก่อนหน้าได้เขียนข้อความพาดพิงนายจุตพรผ่านบัญชีทวิตเตอร์ ว่า

ไม่มีใครให้ราคาจตุพรนอกจาก ‘ส้ม‘ ค่ะ และที่ส้มราคาเขาก็ไม่ใช่เพราะจุดยืนหรืออุดมการณ์อะไร เพราะเขาพูดในสิ่งที่คุณอยากฟัง จตุพร เป็นผู้นำขบวนการเรียกร้องปชต. ปี 2535 เป็นแกนนำม็อบ นปช. ที่กล้าหาญแหลมคม จนต้องติดคุกหลายรอบ รอบละนาน ๆ ตั้งพรรคเพื่อชาติ

กลับไป reconcile กับแกนนำพันธมิตรที่เคยร่วมม็อบ พฤษภา 35 มาด้วยกัน เคลื่อนไหวทางการเมืองอีกครั้ง ออกมาโจมตีทักษิณ พรรคเพื่อไทย ตั้งแต่เลือกตั้ง กลายเป็นที่พึ่งทางใจของส้มและ ’สื่อ’ ที่กินส้มเพราะเชื้อทักษิณโฟเบียเดิม C’est la vie

ข่าวการเมืองจุตพรคำผกา

“ผมจึงขออธิบายความให้กับ คำ ผกา เนี่ย ซึ่งเป็นกระบอก.. จัดว่าเป็นกระบอกเสียงก็ไม่ได้ ให้กับรัฐบาล เป็นกระบอกเสีย เสียมากกว่า ไม่ใช่กระบอกเสียง เพราะว่าสถาปนาตัวเองเป็นนางแบก” ประโยคช่วงเริ่มรายการที่ นายจตุพร ขออนุญาตกล่าวถึง น.ส. ลักขณา หรือ “แขก คำผกา” คู่กรณีล่าสุดที่ออกมาโต้ตอบกันผ่านสื่อ ก่อนจะร่ายยาวเนื้อหาถึงอีกฝ่ายด้วยปการปรารภว่า “ที่แบก ๆ ล้วนแต่มีปัญหาทั้งสิ้น เพราะคนดี ๆ คงไม่ต้องมีคนไปแบก”

นายจตุพร ยกตัวอย่างกรณีที่ แขก คำผกา ออกมาวิจารณ์โฆษกพรรคการเมืองบ้างหรืออะไรต่อมิอะไรบ้าง เพราะคงสำคัญตนเองว่าเป็นบุคคลสำคัญ ซึ่งนายจตุพรกล่าวก็ย้ำว่า น่าจะสำคัญจริง ๆ เนื่องจากบางวันก็ตามหลังนายกฯ แล้วก็มีบทบาทที่สำคัญ แต่ตนอยากจะบอกไปยังคำผกา คุณอาจะเป็นคนที่มีราคา แต่ไม่รู้ว่านับราคาจากอะไร ประวัติการต่อสู้ก็ไม่เคยปรากฏ เวลายึดอำนาจก็ขี้ขลาด หนีออกนอกประเทศ

อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. อายุ 58 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา มีกระบวนการที่ไปปล่อยข่าว สร้างความเข้าใจผิด แล้วปล่อยข้อมูลไปในหมู่คนเสื้อแดงช่วงที่ตนติดคุก 1 ปี กับ 15 วัน กล่าวหาว่าตนมีการรับดีลแล้วก็เปลี่ยนจุดยืน เช่นว่า ให้มาสลายกระบวนการคนเสื้อแดง แล้วก็มาเปลี่ยนจุดยืน ตนอยากถามกลับไปว่า ถ้าเป็นเช่นนั้นทำไมตนเองถึงต้องติดคุกต่ออีกหนึ่งปีเต็ม โดยไม่รับการอภัยโทษแม้แต่เพียงวันเดียว ไม่ได้รับการพักโทษใด ๆ ทั้งสิ้น หลังออกมาก็ต้องกลับไปคุกอีกรอบ ทั้งที่ว่าในคดีเดิมศาลสั่งปล่อยตัวตนแล้ว มิหนำซ้ำคดีปิดล้อมหน้าบ้านสี่เสาเทเวศร์ก็มีโทษคาอยู่ขณะนี้

นายจตุพร ยังกล่าวถึงคดีเอกสารลับกระทรวงต่างประเทศ ที่ปรากฏสุดท้ายอัยการสั่งฟ้องตนคนเดียว ถ้าตนจะไปดีลเพื่อแลกคดี ทำไมตนถึงโดนคนเดียว หลังพ้นโทษก็ยังต้องกลับไปติดคุกอีกรอบ ถ้าตนไปสมคบและสยบยอม แต่การที่ตนไม่พอใจในช่วงที่ผ่านมา ก็เพราะกระบวนการที่เต้าข่าวขึ้นมา

นายจตุพร กล่าวว่า ที่ยกตัวอย่างมาข้างต้นนั้น สาเหตุที่ต้องอ้างถึงเนื่องจากตนเองชักจะทนไม่ได้กับการถูกเอารัดเปรียบ ยิ่งเทียบกับตนที่เจอมากกว่า 40 คดี กับอีกฝ่ายที่ไม่ได้ผ่านเรื่องราวต่าง ๆ เช่นที่ตนเจอมา ทำให้จึงอยากยกเรื่องนี้เพื่อประกอบว่า ที่ตนแสดงความคิดเห็นมุมมองการเมืองในระยะหลัง ไม่ใช่การพูดเพื่อเอาใจด้อมส้มทั้งหลาย

ก่อนที่ นายจุตพร จะกลับมามาดประเด็นที่ฝากถึง แขก คำผกา ตนคงไปสู้อุดมการณ์แบบบคำผกาไม่ได้ อุมดมการณ์แบบคำผกาเชิญหาความสำราญกันตามสบาย ตนไม่รู้ว่าคำผกามีประวัติการต่อสู้ตรงไหน ? ปากจัดจ้านบางวันก็ลามกจกเปรต เป็นกระบอกเสียของรัฐบาลที่ทรงคุณค่า เป็นคนที่พูดน่าขยะแขยงน่ารำคาญมากที่สุด น่ารังเกียจ หยาบคาย

แขก คำผกา

บางเรื่องคนทำงานการเมืองไปพูดจาลามกจกเปรต เป็นกระบอกเสียงรัฐบาล แล้วลีลาท่าทางอย่างนั้นคนที่เป็นเจ้าของช่องไม่รู้สึกรู้สาอะไรบ้างเลยหรือ เพราะฉะนั้นคือ “ความโสมม” ทางการเมือง

ช่วงหนึ่งในรายการ นายจตุพรได้กล่าวย้ำว่า ตนพยายามจะไม่พูดถึงผู้หญิงคนนี้ แต่เนื่องจากชักจะเกิดความรำคาญ ยืนยันตนไม่จำเป็นต้องไปแสวงหาชื่อเสียงอะไร และที่สำคัญที่สุดวันนี้ตัวเองก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองใด ๆ ทั้งสิ้น และก็ไม่เคยคิดจะไปสมัครสมาชิกพรรคการเมืองไหน เพราะก็ยังทำไม่ได้

ตนไม่เคยคิด พูดว่าอะไรถูกอย่างไร ผิดอย่างไร แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด กระบวนการแวดล้อมใส่ร้าย จนกระทั่งวันหนึ่งตนไม่ให้ความสนใจกับเรื่องพวกนี้ ใครจะเชื่อก็เชื่อ ไม่เชื่อก็อย่าเชื่อ ทั้งขบวนการ เวลาโจมตีตน กล้าโจมตีต่อหน้าสักรายหรือไม่

“ที่สำคัญที่สุด คนตลบตะแลงทางการเมืองทั้งหลายก็มาปั้นอย่างกับเป็นฮีโร่กันไปเสียแล้ว เป็นความเลวทรามต่ำช้าที่สุดของแวดวงการเมืองของไทย” จตุพร ระบุ.