สาวจีนประหลาดใจ แหวนทองซีดลง คิดว่าทองปลอม เผยความจริง ทองคำช่วยชีวิต

สาวงง แหวนทองสีซีดลง คิดว่าเป็นทองปลอม ให้ร้านตรวจสอบเป็นของแท้ ซื้อใหม่ก็มีจุดขาว มารู้สาเหตุทีหลัง แหวนทองช่วยชีวิต
แหวนทองคำไม่ได้มีไว้ประดับร่างกาย หรือไว้ขายเพื่อเก็งกำไรเท่านั้น แต่ยังสามารถส่งสัญญาณถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้ วันอังคารที่ 23 มกราคม 2567 เว็บไซต์ข่าวต่างประเทศ Sin Chew Daily รายงานเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่ง จากมณฑลซานตง ประเทศจีน เธอสังเกตเห็นว่า แหวนทองคำสีซีดลง เธอจึงนำไปให้ร้านทองตรวจสอบ เพราะคิดว่าเป็นทองปลอม
ตามรายงานระบุว่า หญิงสาวรายนี้เห็นว่าแหวนทองและต่างหูของเธอมีสีซีดลง และค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาว แต่เมื่อนำไปตรวจสอบกับร้านทอง ทางร้านก็ยืนยันว่าเป็นของแท้ หลังจากนั้น เธอจึงซื้อแหวนทองคู่ใหม่ แต่หลังจากสวมใส่ได้ไม่กี่วัน แหวนใหม่ก็มีจุดเล็ก ๆ สีขาวเกิดขึ้น และสีก็ค่อย ๆ จางลงเหมือนกับวงเก่าไม่มีผิด
จุดนี้เองที่ทำให้เธอเริ่มสงสัยว่า เกิดจากสาเหตุใดกันแน่ มีความผิดปกติอะไรที่เธอมองข้ามไปหรือเปล่า เธอจึงค้นดูของใช้ส่วนตัว ในที่สุดเธอก็ทราบต้นตอที่ทำให้แหวนทองมีจุดสีขาว เพราะมีปรอทแข็งตัวเป็นเม็ด ๆ ตกอยู่ในกระเป๋าเครื่องสำอางโดยที่เธอไม่รู้ตัวเลยสักนิด

เธอจำได้ว่าเคยใส่เทอร์โมมิเตอร์แบบปรอทแท่งแก้วไว้ในกระเป๋าเครื่องสำอาง แต่ไม่รู้ว่าแท่งปรอทหักไปเมื่อไร เม็ดปรอทอาจสัมผัสกับแหวนทองจนเกิดปฏิกิริยากลายเป็นโลหะผสมที่เรียกว่า อะมัลกัม (Amalgam) ทำให้เครื่องประดับมีสีเงิน ด้วยเหตุนี้ แหวนทองจึงสีซีดลงและมีจุดขาว ๆ นั่นเอง
หลังเรื่องราวนี้ถูกแชร์บนโลกอินเทอร์เน็ต ชาวเน็ตต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย โดยส่วนหนึ่งยกคุณงามความดีให้แหวนทอง เพราะเป็นทองคำที่ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ได้
นอกจากนี้ ชาวเน็ตบางส่วนเตือนให้หญิงสาวระมัดระวังเรื่องการเก็บเทอร์โมมิเตอร์ เธอควรเก็บใส่บรรจุภัณฑ์ที่มีฝาปิด ไม่ควรใส่ในถุงเปล่า ๆ หรือกระเป๋าเครื่องสำอาง เนื่องจากปรอทเป็นโลหะหนักที่เป็นของเหลว ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น ระเหยเป็นไอได้ ทั้งยังเป็นพิษสูง หากสูดดมเข้าไปอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจได้
อ้างอิง : Sin Chew Daily