ไลฟ์สไตล์

ประวัติวง “HYBS” ดูโอ้เพลงอินดี้ป๊อปชาวไทย กับความสำเร็จไกลเกินฝัน

ทำความรู้จัก HYBS วงดนตรีอินดี้ป๊อปสัญชาติไทย เจ้าของเพลง “Ride” ที่ไอดอลเกาหลียังต้องเปิดฟัง เผยแนวทางทำเพลง ตั้งแต่อัลบั้มแรก สู่ยอดวิวทะลุ 24 ล้าน

“ไฮบ์ส” (HYBS) วงที่เริ่มต้นจาก 2 เพื่อนซี้ผู้หลงใหลในการฟังเพลง อย่าง เจมส์-อลิน วี และ กานต์-กษิดิ์เดช หงส์ลดารมภ์ จับมือกันปล่อยซิงเกิลแรกอย่าง ‘Ride’ จุดเปลี่ยนของดูโอ้หน้าใหม่ไฟแรง ระเบิดชื่อเสียงให้โด่งดังต่อเนื่องมาเป็นเวลา 2 ปี จนถึงวันเลิกลา ยุบวงเพื่อเติบโตต่อในเส้นทางตัวเอง

ประวัติ HYBS เริ่มต้นจากเพื่อนที่หายหน้ากันไปนาน 8 ปี

อลิน และ กานต์ เคยเผยในบทสัมภาษณ์ของ GQ Thailand ว่า ทั้งคู่เริ่มออกเดินทางร่วมกันหลังจากเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน จึงตัดสินใจเข้าห้องอัดปล่อยเพลงฮิตติดหู อย่าง ‘Ride’ ออกมาให้แฟน ๆ ได้ลองฟัง

หลายคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “ดนตรีป๊อป ทำนองเรียบง่าย ฟังสบาย” คือ 3 วลีที่อธิบายความเป็น HYBS ได้อย่างชัดเจน ด้วยยุคสมัยที่เปิดกว้างมากขึ้น บวกกับชื่อชอบดนตรีหลายแนว ทำให้เอกลักษณ์ความเป็นอินดี้ป๊อปโด่นเด่นออกมา

ต่อจากเพลง “Ride” ที่มียอดเข้าชมสูงถึง 24 ล้านวิว และเป็นเพลงที่ RM แห่งวง BTS เคยแชร์ลงสตอรี่ไอจี HYBS จนเป็นที่ฮือฮาอยู่พักใหญ่ ก็ได้โอกาสปล่อยอีกหลายซิงเกิล ไม่ว่าจะเป็น “Dancing With My Phone”, “Ride, Go Higher” และ “Killer” คว้าอันดับฮิตติดชาร์ตทุกแพลตฟอร์มอีกครั้ง ไม่แปลกใจที่ภายใน 2 ปี ไฮบ์สจะเป็นที่รู้จักในวงการเพลงมากขึ้น ฝีมือสู้ศิลปินต่างชาติได้เลยทีเดียว

ประวัติวง HYBS ดูโอ้เพลงอินดี้ป๊อปชาวไทย กับความสำเร็จไกลเกินฝัน

ที่มาชื่อวง HYBS ตัวอักษรที่เรียงกันอย่างน่าสนใจ

HYBS เฉลยชื่อวงสุดงงที่ใครอ่านครั้งแรกก็ต้องเอ๊ะ มาจากตัวย่อของประโยค “Have you been shrimp?” มุกที่คนไทยเท่านั้นจะเข้าใจ แปลว่า “เคยเป็นกุ้งหรือเปล่า?” ไม่ได้แปลว่า “คุณเคยเป็นกุ้งหรือเปล่า” แต่จะเล่นกับคำว่า “เคย” (ที่เอามาทำกะปิ)

นาทีที่หยิบชื่อนี้มาตั้ง ทั้งอลินและกานต์บอกว่าเล่นมุกนี้กันขำมาก ซึ่งแน่นอนว่ามุกนี้ฝรั่งไม่เก็ท จึงได้เตรียมคำตอบที่หล่อกว่าเดิมไว้ว่า “เราคงไม่อธิบายแบบนี้ครับ แต่จะเตรียมคำตอบที่ดีกว่านี้ คงบอกว่าเป็น Vibes กับ Hype ผสมกัน”

HYBS ร้อยเรียงบทเพลงจากประสบการณ์ตรง

เป้าหมาย HYBS คือการทำเพลงด้วยความเชื่อที่ว่า ฟังแล้วทุกคนต้องอินกับมันจริง ๆ ไม่ว่าคุณจะฟังมันที่ไหน เมื่อไหร่ กับใคร เช่น พนักงานออฟฟิศเดินกลับบ้านฟังเพลง นั่งฟังเพลงบนรถเมล์ ตอนล้างจาน ขับรถ หรือแม้แต่ในงานปาร์ตี้ เพลงของ HYBS จะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของคนฟังในช่วงเวลาต่าง ๆ

นั่นเกิดจากการวางตัวเองว่าเป็นวงที่ผลิตดนตรีได้หลายแนว จากประสบการณ์ที่แต่ละคนไปผจญภัยมา ทำให้แต่ละเพลงของ HYBS รวมเอากลิ่นอายดนตรีแนว Neo Soul, City Pop, หรือบางคนก็เรียกว่า Bedroom Pop ไว้ด้วยกันอย่างน่าลงตัว

ตามที่สองดูโอ้พูดถึงขั้นตอนการทำเพลงว่า “เพราะพวกเราชอบฟังเพลงหลากหลายแนว อย่างที่บอกว่าช่วงไหนที่เราอินหรือมีโมเมนต์อยากทำเพลงแนวนั้นแนวนี้ เราก็จะทำเพลงแนวนั้นออกมา ซึ่งอัลบั้ม Making Steak เป็นอัลบั้มที่เหมือนกับการได้ทดลองอะไรหลายๆ อย่าง โดยที่พวกเราพยายามดูว่าแนวไหนคือตัวเราและเราชอบแบบไหน

บางเพลงเรามีคอนเซ็ปต์มาครอบ โดยมีเรื่องราวในชีวิตจริงบ้าง ผสมกับตัวตนของพวกเราลงไปบ้าง ซึ่งไม่ได้เป็น Scenario จริงทุกอย่างครับ เราชอบอะไรที่เชื่อมโยงกับความรู้สึกของคนจริง ๆ อยากให้คนฟังเพลงของ HYBS ตอนไหนก็ได้”

HYBS กับภาพที่เคยมองตัวเองไว้อีก 10 กว่าปีข้างหน้า

ย้อนกลับไป อลินและกานต์ เคยจินตนาการภาพของตัวเองไว้ว่า HYBS จะยังสำรวจเส้นทางเพลงด้วยแพชชันและความหลงใหลเช่นนี้ต่อไป แต่อาจจะมี Slow Life บ้าง หาบาลานซ์ให้กับชีวิต ตั้งใจจะสร้างสรรค์เพลงแยกที่เป็นของแต่ละคนจริง ๆ

หากมองไปถึง HYBS เวอร์ชั่นปี 2030 จะไม่ใช่ที่เป็นอยู่ตอนนี้ ส่วนเป้าหมายที่อยากสานต่อ เคยพูดไว้แบบเขิน ๆ ว่าอยากจะมีคอนเสิร์ต World Tour เป็นของตัวเอง รวมถึงการปรากฎตัวบนเวที Music Festival สุดยิ่งใหญ่อย่าง Glastonbury, Coachella หรือ Crossroads

หลังจากข่าวประกาศยุบวง วันที่ 10 มกราคม 2567 ด้วยเหตุผลที่ว่า ตอนนี้ประสบความสำเร็จกว่าที่คิดไว้มาก สอดคล้องกับบทสัมภาษณ์ที่เคยให้ไว้เมื่อปี 2565 ถือเป็นเรื่องน่าใจหาย แต่อย่างไรก็ดี HYBS ทิ้งท้ายว่าก่อนจะจากกัน ได้เตรียมของขวัญส่งท้ายไว้ให้แฟนคลับด้วย หวังว่าพวกเราจะได้เห็นคุณอลินและกานต์ที่ตั้งใจนะคะ

อ้างอิงข้อมูลจาก : GQ Thailand

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

Peangaor

นักเขียนประจำ Thaiger จบการศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ มศว เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อนำมาชี้แจงแตกประเด็นในรูปแบบย่อยง่ายเหมือนเพื่อนเล่าให้ฟัง รวมถึงเรื่อง Pop culture ซีรีส์ อาหาร และเทรนด์แฟชั่นที่กำลังอินเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ preme@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button