นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่วันแรก ใช้บัตรประชาชนใบเดียว นำร่อง 4 จังหวัดในไทย เริ่มวันที่ 7 มกราคม 2567 เช็กสิทธิการรักษาด้วยบัตรทองในปัจจุบัน
ยกระดับคุณภาพชีวิตขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง สำหรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ โดยทางรัฐบาลได้ประกาศนำร่อง 4 จังหวัด ได้แก่ แพร่ เพชรบุรี ร้อยเอ็ด และนราธิวาส ใช้เพียงบัตรประชาชนใบเดียว ไม่ต้องใช้ใบส่งตัวใด ๆ ทั้งสิ้น เริ่มวันแรก วันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม 2567
ด้านเพจเฟซบุ๊ก พรรคเพื่อไทย ได้โพสต์ข้อความเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดร้อยเอ็ด ร่วมวินาทีประวัติศาสตร์ เปิด นโยบาย 30 บาท รักษาทุกที่ ในวันอาทิตย์ที่ 7 มกราคม เวลา 17:00 น. ณ ลานสาเกตนคร หน้าหอโหวด 101 จังหวัดร้อยเอ็ด
งานนี้ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และ สส. พรรคเพื่อไทยจังหวัดร้อยเอ็ด จะเข้าร่วมด้วย
สำหรับนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ ประชาชนจะได้รับสิทธิการรักษาพยาบาลต่าง ๆ เพียงแค่ใช้บัตรประชาชนเพียงใบเดียว โดยมีรายละเอียดดังนี้
- รับการส่งต่อการรักษา โดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว
- ฟรี ค่าเจาะเลือดห้องแล็บใกล้บ้านเชื่อมโยงข้อมูลหน่วยบริการทั้งหมด
- ฟรี รับยาทางไปรษณีย์
- ฟรี รับบริการที่คลินิกและร้านยาใกล้บ้าน
ประชาชนที่ไม่สะดวกเดินทางไปร่วมงาน การคิกออฟนโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่ จะมีการถ่ายทอดสดด้วย สามารถรับชมผ่านเฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทยได้เช่นกัน
สิทธิการรักษาด้วยบัตรทองในปัจจุบัน
สำหรับการรักษาพยาบาลโดยทั่วไปด้วยสิทธิบัตรทอง 30 บาท หรือ สิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติในปัจจุบัน สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลว่า ประชาชนที่มีสิทธิ สามารถเข้ารับบริการการตรวจ การวินิจฉัย และการรักษาตั้งแต่โรคทั่วไปอย่างโรคไข้หวัด จนถึงโรคเรื้อรังร้ายแรงอย่างโรคมะเร็งได้
นอกจากนี้ หญิงตั้งครรภ์สามารถรับบริการคลอดบุตรได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง ส่วนค่ายา ค่าเวชภัณฑ์ที่มีค่าใช้จ่ายสูง ค่าอาหาร ค่าห้องพักผู้ป่วย ร่วมถึงค่าบริการเพื่อส่งต่อการรักษาก็ครอบคลุมทั้งหมด
บริการทันตกรรมต่าง ๆ ทั้งอุดฟัน ถอนฟัน ขูดหินปูน การให้ฟลูออไรด์เสริมในกลุ่มเสี่ยงต่อโรคฟันผุ การรักษาโพรงประสาทฟันน้ำนม การเคลือบหลุมร่องฟัน การผ่าฟันคุด ใส่เพดานเทียมเด็กปากแหว่งเพดานโหว่ และการทำฟันปลอมฐานพลาสติก ประชาชนทุกท่านที่มีสิทธิ สามารถรับการรักษาได้ฟรี
นอกจากนี้ ยังครอบคลุมสิทธิการรักษาแบบการแพทย์แผนไทย ทั้งการใช้ยาสมุนไพร การนวดเพื่อรักษา รวมถึงบริการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์ของคนพิการและกลุ่มผู้สูงอายุก็สามารถใช้สิทธิได้ แต่เป็นไปตามเกณฑ์ที่ สปสช. กำหนด
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีบริการการรักษาพยาบาลที่ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่อนข้างครอบคลุม และช่วยลดภาระประชาชน แต่ยังคงต้องใช้ใบส่งตัวในการส่งต่อไปรักษาในโรงพยาบาลอื่น ๆ รวมถึงอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกไปรักษาที่คลินิกแทน ด้วยเหตุนี้ นโยบาย 30 บาทรักษาทุกที่อาจตอบโจทย์ประชาชนมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ต้องติดตามผลลัพธ์กันต่อไป