พริตตี้สาวไทยสุดช้ำ ถูกหนุ่มจีนหลอกแต่งงานให้ท้องแล้วทิ้ง หลังพบว่าได้ลูกสาว เชื่อเป็นกระบวนการตามล่าลูกชาย ชี้มีแม่สื่อในไทยคอยช่วย
วันนี้ (22 ธ.ค. 66) ได้มีการเปิดเผยว่า พริตตี้สาวชาวไทย วัย 36 ปี ได้เข้าไปขอความช่วยเหลือจากสายไหมต้องรอด หลังตนถูกว่าที่สามีชาวจีนหลอกว่าจะแต่งงานจนตั้งท้อง แต่กลับถูกทิ้งหลังจากได้ลูกสาว
พริตตี้สาวเผยว่า ตนรู้จักกับหนุ่มจีนคนดังกล่าว ผ่านแม่สื่อที่เป็นคนจีนในประเทศไทย โดยแม่สื่อเป็นเพื่อนบ้านตนในคอนโดเดียวกัน ทั้งยังประกอบอาชีพธุรกิจปล่อยเช่าคอนโดในไทยด้วย ทำให้มีความสนิทสนมกันพอสมควร
ต่อมาในช่วงเดือนเมษายน แม่สื่อก็ได้แนะนำให้พริตตี้สาวได้รู้จักกับนักธุรกิจชาวจีน วัย 42 ปี ทำให้เริ่มต้นความสัมพันธ์และพูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนเจอกันครั้งแรกช่วงเดือนมิถุนายน และคบหากันอย่างจริงจัง ซึ่งหนุ่มจีนได้พักอาศัยอยู่ที่ไทยราว 1 สัปดาห์ แล้วกลับไปทำงานต่อที่ประเทศจีน
ในระหว่างที่อยู่กันคนละประเทศ ทั้งสองยังคงพูดคุยกันปกติ ก่อนที่หนุ่มจีนจะตัดสินใจมาสู่ขอเธอที่ไทย พร้อมเผยว่าอยากมีลูก 2-3 คน ซึ่งต่อมาตนก็ตั้งท้องจริง ๆ ทำให้ทั้งคู่ตัดสินใจจะแต่งงานกันในวันที 9 กันยายน และเตรียมงานแต่งไปเกินครึ่งแล้ว โดยพริตตี้สาวช่วยจ่ายเงินค่าแต่งงานไป 1 แสนบาท ซึ่งผู้ชายอ้างจะนำมาคืนให้ในภายหลัง
ทว่าต่อมาเมื่อหนุ่มจีนกลับไปทำงานที่จีนและรู้ว่าลูกของตนเป็นผู้หญิง หนุ่มจีนก็มีท่าทีเปลี่ยนไป พร้อมขอเลื่อนงานแต่งงาน และเริ่มไม่ตอบแชท จนตนตัดสินใจไปหาที่จีน แต่ฝ่ายชายกลับไม่ยอมออกมาเจอและหายตัวไปโดยไร้การติดต่อ
เมื่อเธอสอบถามกับแม่สื่อที่เป็นเพื่อนบ้านกันในคอนโด แม่สื่ออ้างว่า ทุกคู่ที่ไปเป็นแม่สื่อให้ล้วนได้ลูกชาย ทำให้พริตตี้สาวไทยเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น และคาดว่านี่เป็นกระบวนการตามล่าลูกชายตามความเชื่อของคนจีนบางกลุ่ม ทำให้ตนรู้สึกสงสารเด็กในท้องที่ต้องโตมาโดยไม่มีพ่อ และอยากเป็นเคสอุทาหรณ์ให้สาวไทยคนอื่นระวังตัวมากขึ้นในอนาคต.
