เปรียบเทียบ เติมเงินมือถือรายวัน กับรายเดือน ข้อดีข้อเสีย อันไหนคุ้มกว่ากัน
รู้ก่อนเติม จ่ายค่าแพ็กเกจโทรศัพท์แบบรายวันหรือรายเดือน อันไหนคุ้มสุด เหมาะกับผู้ใช้งานแบบไหน ทั้ง 2 ระบบมีราคา เงื่อนไข สิทธิพิเศษต่างกันอย่างไร
ปัญหาที่คิดไม่ตกของใครหลายคน เมื่อไม่รู้ว่าควรเลือกใช้งานซิมโทรศัพท์ไหนดีกว่า อีกอันก็ราคาถูก อีกอันก็ดูคุ้มค่า ก่อนอื่นควรยึดการใช้งานของเราเป็นหลัก แล้วค่อยไปดูกว่าเงื่อนไขอื่น ๆ ตรงกับเราไหม ซึ่งความต่างของซิมรายวันกับซิมรายเดือนมีดังนี้
มือถือเติมเงินรายวัน เป็นการจ่ายก่อนใช้ทีหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่มีการใช้งานอินเทอร์เน็ตหรือโทรออกไม่มากนัก เช่น ใช้งานเฉพาะบางช่วงเวลาหรือนาน ๆ ที มีค่าบริการเริ่มต้นที่ 10 บาทต่อวันหรือมากขึ้นตามแพ็กเกจ ทั้งนี้อาจมีการควบคุมปริมาณอินเทอร์เน็ต การโทรออก และส่งข้อความ ถ้าใช้เกินที่กำหนดอาจต้องเสียค่าบริการเพิ่ม
มือถือเติมเงินรายเดือน เป็นการใช้ก่อนจ่ายทีหลัง เหมาะสำหรับผู้ที่ใช้อินเทอร์เน็ตหรือติดต่อสื่อสารเป็นประจำทุกวัน ค่าบริการเริ่มต้นที่ 299 บาทต่อเดือน ซึ่งความสบายใจในการเหมาจ่ายรายเดือนคือการที่เราจะได้ใช้งานโทรศัพท์อย่างเนื่อง บวกกับได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามเครือข่ายและแพ็กเกจที่เลือก พาไปเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของโทรศัพท์เติมเงินรายวันรายเดือนแบบชัด ๆ กันเลย
ข้อดีมือถือเติมเงินรายวัน
- เหมาะกับคนที่ใช้งานเน็ตไม่เยอะ โทรบ้างนาน ๆ ที
- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นไม่สูง สามารถเติมเงินได้ทุกวันตามความต้องการ
- เติมแล้วใช้ได้ทันที ไม่ต้องรอสมัครสมาชิก
- ไม่ผูกมัดกับเครือข่ายโทรศัพท์
- ควบคุมค่าใช้จ่ายด้วยตัวเองได้ เงินหมดเมื่อไหร่ค่อยเติม
ข้อเสียมือถือเติมเงินรายวัน
- หากใช้งานไม่หมดภายในวันนั้น อินเทอร์เน็ตและนาทีการโทรจะหมดอายุทันที และไม่สามารถโอนไปใช้วันอื่นได้
- หากใช้งานมากเกินปริมาณที่กำหนด อาจต้องเติมเงินเพิ่ม
- หากเติมไม่ทันในเวลาที่กำหนด เครือข่ายสามารถยกเลิกการให้บริการได้ทันที
- ไม่ได้มีสิทธิพิเศษ ส่วนลด โปรโมชัน หรือของแถมจากการเติมเงินมือถือระบบนี้
ข้อดีมือถือเติมเงินรายเดือน
- เป็นการเหมาจ่าย ใช้งานอินเทอร์เน็ตและโทรแบบ Unlimited ตลอดเดือน
- ไม่ต้องกังวลเรื่องค่าโทรหมด หรือพะวงเรื่องเติมเงินเข้าไปใหม่
- ใช้บริการอินเทอร์เน็ตอย่างยืดหยุ่นและสบายใจหากมีเรื่องฉุกเฉิน
- ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ตามแพ็กเกจที่เลือก เช่น ส่วนลดร้านอาหาร ลดราคาสินค้า แลกของ หรือแถมตามโปรฯ เครือข่าย
- หากใช้อินเทอร์เน็ตหรือโทรศัพท์เป็นประจำจะถูกกว่าเติมเงินรายวัน
- ถ้าจ่ายรายเดือนเท่ากันกับเติมเงิน รายเดือนจะให้เน็ตเยอะกว่าเติมเงิน บวกกับแถมค่าโทรให้ด้วย
ข้อเสียมือถือเติมเงินรายเดือน
- ค่าใช้จ่าย “เริ่มต้น” สูงกว่ามือถือเติมเงินรายวัน
- ไม่สามารถปรับเปลี่ยนปริมาณสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้
- หากใช้งานไม่หมดภายในเดือนไม่สามารถทบไปใช้เดือนถัดไปได้
- การยกเลิกแพ็กเกจไม่สามารถยุติการใช้งานได้ทันที ต้องไปที่ศูนย์บริการ
- หากเลือกแพ็กเกจไม่เหมาะกับพฤติกรรมการใช้งานตั้งแต่แรก อาจรู้สึกว่าไม่คุ้มค่า
วิธีดูว่าคุณเหมาะกับแพ็กเกจเติมเงินรายวันหรือรายเดือนมากกว่า
ลองสังเกตว่าเรามีพฤติกรรมการใช้งานมือถือแบบไหน ใช้อินเทอร์เน็ตทั้งวันไหม? มีคนให้โทรหามากน้อยแค่ไหนในแต่ละเดือน? ต้องอัปเดตข่าว สื่อสาร หรือทำงานตลอดเวลาหรือไม่? และแต่ละเดือนเสียค่าบริการไปเท่าไหร่หากคุณเป็นสายติดต่อผู้คนตลอดเวลาคุณน่าจะเหมาะกับเติมเงินรายเดือน
แต่หากคุณเป็นคนไม่ได้ใช้งานโทรศัพท์มือถือสม่ำเสมอ หยิบมาเช็กบ้างนาน ๆ ที หรือรู้ว่าวันไหนต้องมีเน็ต วันไหนไม่ต้องมีก็ได้จะเลือกเติมเงินแบบรายวันก็ไม่เสียหาย
แนะนำให้ลองคำนวณแล้วให้มองหาแพ็กเกจที่มีปริมาณอินเทอร์เน็ตและบริการโทรออกที่ใกล้เคียงการใช้งานมากที่สุด ทั้งนี้ให้ลองหาข้อมูลจากผู้ให้บริการ สำหรับโปรฯ ที่ราคาถูกลงแต่คุ้มค่ากว่าเดิม เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ
สรุปว่า มือถือเติมเงินรายวันและมือถือเติมเงินรายเดือน ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกแบบใดจึงขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของแต่ละบุคคล หากมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือไม่มากนักหรือใช้งานโทรศัพท์มือถือแบบไม่สม่ำเสมอ มือถือเติมเงินรายวันจะคุ้มค่ากว่า แต่หากมีการใช้งานโทรศัพท์มือถือเป็นประจำหรือใช้งานโทรศัพท์มือถืออย่างสม่ำเสมอ มือถือเติมเงินรายเดือนจะคุ้มค่ากว่า
ขอบคุณข้อมูลจาก : wpnmobile, AIS, true, dtac
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
- 5 มือถือตกรุ่นน่าใช้ เดือนธันวาคม 2566 สเปคแจ่ม ราคาหลักพัน ใช้งานคุ้ม
- รวมโปรโมชั่น iPhone 15 ทุกรุ่น ค่ายมือถือ-บัตรเครดิต แบบไหนคุ้มสุด
- อ.เจษฎา โวยค่ายมือถือดัง ส่ง sms ดูดเงิน ยัดเยียดสมัครผ่านการกดโฆษณา
- รุ่นมือถือ Samsung ที่ได้อัปเดตเป็น ‘แอนดรอยด์ 14’