กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ปฏิเสธต่อข้ออ้างไทยนำนักปั่น 150 คนเข้าพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม โดยไม่แจ้งล่วงหน้า พร้อมยืนยันปราสาทเป็นดินแดนกัมพูชา และเรียกร้องไทยเคารพข้อตกลงชายแดน ชี้เป็นการละเมิดข้อตกลงและไร้ความรับผิดชอบของกองทัพไทย
(วันที่ 23 มิถุนายน 2568) กระทรวงกลาโหมของกัมพูชา โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก โดยโฆษกของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ปฏิเสธการชี้แจงจากกองทัพไทยกรณีที่ทหารไทยนำนักปั่นจักรยานชาวไทย 150 คนขึ้นมายังปราสาทตาเมือนธมโดยไม่มีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า ยืนยันว่าปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในดินแดนของกัมพูชา พร้อมเรียกร้องไทยเคารพข้อตกลงของทั้งสองประเทศ และหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
“กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอปฏิเสธและเด็ดขาดต่อการกล่าวอ้างที่ขัดต่อความเป็นจริง และไร้ความรับผิดชอบของโฆษกกองทัพบกไทย เกี่ยวกับเหตุการณ์ ณ ปราสาทตาเมือนธม ซึ่งตั้งอยู่ที่หมู่บ้านตาเมือนแสนชัย ต.กกมอน อ.บันเตียอำปึล จ.อุดรมีชัย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา เพื่อสร้างความชัดเจนและความจริงต่อเหตุการณ์นี้ กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอชี้แจงเป็น 4 ประเด็นดังต่อไปนี้
ประการแรก การกล่าวอ้างของโฆษกกองทัพบกไทยที่ว่า ได้แจ้งต่อกองทัพกัมพูชาเกี่ยวกับการมาเยือนปราสาทตาเมือนธมของกลุ่มนักปั่นจักรยานชาวไทยจำนวน 150 คนนั้น ไม่เป็นความจริง กองทัพกัมพูชาไม่เคยได้รับการแจ้งใด ๆ จากฝ่ายไทย ไม่ว่าจะด้วยวาจาหรือผ่านช่องทางการสื่อสารที่เป็นทางการ เกี่ยวกับการมาเยือนปราสาทของกลุ่มนักปั่นชาวไทยเหล่านี้ หากกองทัพไทยมีความบริสุทธิ์ใจและไม่มีเจตนาร้ายจริง ควรจะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใสและสอดคล้องกับข้อตกลงของทั้งสองประเทศ ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับเวลาและเงื่อนไขในการเข้า-ออกปราสาท
ประการที่สอง เมื่อสังเกตเห็นการมาเยือนโดยไม่ได้รับอนุญาตของกลุ่มนักปั่นชาวไทยดังกล่าว กองทัพกัมพูชาได้ตอบสนองอย่างเหมาะสม สุภาพ และเปี่ยมด้วยความเป็นมืออาชีพอย่างสูง กองทัพกัมพูชาได้ย้ำเตือนกองทัพไทยว่า การมาเยือนโดยไม่มีข้อตกลงร่วมกันล่วงหน้านี้ถือเป็นการละเมิดข้อตกลง และได้กระตุ้นให้ฝ่ายไทยเคารพเงื่อนไขเหล่านี้อย่างเคร่งครัดและจริงจัง แม้จะมีการละเมิดดังที่กล่าวมาข้างต้น กองทัพกัมพูชายังได้อนุญาตให้พวกเขาถ่ายรูป และเดินทางออกจากพื้นที่ดังกล่าวโดยสันติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอดทน ความรับผิดชอบ และความปรารถนาอันจริงใจของกองทัพกัมพูชาในการหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่ไม่จำเป็น
ประการที่สาม การกล่าวอ้างของโฆษกกองทัพบกไทยที่ว่าปัญหาข้างต้นอาจเกิดจากความเข้าใจผิดในการสื่อสารภายในระหว่างกองทัพกัมพูชากับรัฐบาลของตนเองนั้น การหยิบยกเรื่องเช่นนี้ขึ้นมาถือเป็นการกระทำที่ไร้ความรับผิดชอบอย่างที่สุดและขัดต่อจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนในฐานะโฆษก ซึ่งมีหน้าที่ต้องให้ข้อมูลที่เป็นจริงและอิงตามหลักฐาน การกล่าวหาเช่นนี้คือเจตนาที่จะปกปิดความผิดพลาดของกองทัพไทยที่ได้ละเมิดข้อตกลง และไม่กล้ายอมรับผิด กลับมากล่าวหากองทัพกัมพูชาด้วยเจตนาบิดเบือนความจริงต่อประชาชนของตน ในแง่นี้ รัฐบาล กองทัพ และประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอยืนยันเป็นหนึ่งเดียวกันในความมุ่งมั่นที่จะปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใดก็ตาม
ประการที่สี่ กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่า ตามแผนที่มาตราส่วน 1:200,000 และตามเจตนารมณ์แห่งอนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1904 และสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ปี ค.ศ. 1907 ปราสาทตาเมือนธมเป็นดินแดนใต้อธิปไตยของกัมพูชา ซึ่งเป็นความจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้ กัมพูชาเรียกร้องให้ฝ่ายไทยเคารพข้อตกลงที่มีอยู่เดิมอย่างเต็มที่ และเคร่งครัดด้วยความจริงใจ พร้อมทั้งหลีกเลี่ยงทุกการกระทำที่บิดเบือนความจริง อันเป็นการทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน กองทัพแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา มุ่งมั่นที่จะธำรงรักษาและส่งเสริมสันติภาพ เสถียรภาพ และความสัมพันธ์ฉันมิตรเพื่อนบ้านที่ดี แต่ก็จะไม่ยินยอมให้ประเทศใดมารุกรานได้เป็นอันขาด”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รมว.กัมพูชา เย้ยทหารไทย หยิ่งยโส ซัดรัฐบาล ‘จนตรอก-อัปยศ’ ลั่น ไม่ต้องพึ่งไทยแล้ว
- เพจดัง แฉ ปราสาทตาเมือนธม ขึ้นทะเบียนของไทย ก่อนเขมรได้เอกราช รู้ดีมาตลอด
- กองกำลังสุรนารี แจงคลิปทหารเมียนมาร้องเพลงหน้าปราสาทตาเมือนธม
ติดตาม The Thaiger บน Google News:
ข่าวล่าสุด
