ข่าว

กระทรวงต่างประเทศแจง ยืนยันแรงงานไทยไม่ได้ไปเป็นทหารรับจ้าง ตามกระแสโซเชี่ยล

กระทรวงต่างประเทศแจง ยืนยันแรงงานไทยไม่ได้ไปเป็นทหารรับจ้าง ตามกระแสโซเชี่ยล ชี้ที่เห็นเป็นลูกครึ่ง ยืนยันไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้งของทั้งสองฝ่าย

นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์กรณีนายซัยยิด สุไลมาน ฮูซัยนี ผู้นำศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์แห่งประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า “ปัญหาแรงงานไทย ไปเป็นทหารรับจ้างที่อิสราเอล
ถ้ารัฐบาลไทยไม่รีบแก้ไขปัญหาและนำแรงงานทั้งหมดกลับมาให้เร็วที่สุด ก็จะเจอกับปัญหาหลายๆเรื่องที่แก้ไม่ได้ตลอดกาลเรื่องแรกที่เกิดขึ้นคือมุสลิมทั้งโลกก็จะมีความรู้สึกว่า รัฐไทยร่วมมือกับอิสราเอลแอบแทงข้างหลังโลกอิสลามมาอย่างยาวนานแล้ว ผลกระทบอื่นๆก็จะตามมา”

ในประเด็นนี้นายปานปรีย์ระบุว่า ขณะนี้สถานทูตไทย ที่กรุงเทลอาวีฟ ยังไม่ได้รายงานกลับมา แต่ตนสั่งการไปแล้ว ก่อนหน้านี้ก็ไม่เคยมีข่าวในลักษณะนี้ มีแต่ข่าวลือว่าแรงงานคนนั้นคนนี้ไปเป็นทหารรับจ้าง บางคนก็บอกว่าไปเป็น รปภ. แต่เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบในเวลานั้น

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ว่าแรงงานไทย ไปทำงานในกองทัพอิสราเอล แต่ไม่ได้เป็นทหารรับจ้าง นายปานปรีย์ กล่าวว่า บางคนบอกว่าเขาเป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล และเป็นทหารในกองทัพอิสราเอลอยู่แล้ว จึงอาจเป็นไปได้ว่าเป็นลูกครึ่งและเป็นชาวอิสราเอล แต่ข้อมูลตรงนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบ จึงขออนุญาตตรวจสอบก่อน ถ้ามีข้อมูลคืบหน้าอย่างไรจะแจ้งให้ทราบ

หากชายคนดังกล่าวเป็นลูกครึ่ง ถือว่าเป็นสิทธิ์ของเขา ไม่ได้เกี่ยวข้องกับแรงงานไทย และไม่อยากให้เหมาว่าเป็นแรงงานไทยทั้งหมด เพราะจะทำให้ผู้ที่ถูกจับเป็นตัวประกันเดือดร้อนไปด้วย ถ้าเป็นคนไทย ก็ไม่ควรที่จะเข้าไปยุ่งเรื่องของความมั่นคง เพราะเราไม่ได้อยู่ในฐานะที่เป็นคู่ขัดแย้งกับทั้งสองคู่ขัดแย้ง แต่ถ้าเข้าไปทำงานเป็นแรงงานก็สามารถทำได้

เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ได้ ที่อาจจะมีแรงงานไทยไปทำงานในกองทัพอิสราเอล นายปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ขอให้รอข้อมูลที่ชัดเจนก่อน

ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟว่า มีคนไทยที่เป็นลูกครึ่งไทย-อิสราเอล ไปเป็นทหารกองหนุนให้อิสราเอลจริง แต่ไม่ใช่แรงงานไทย ทั้งนี้ นอกเหนือจากแรงงานไทยในภาคเกษตรกรรมในอิสราเอลแล้ว ยังมีหญิงไทยจำนวนหนึ่ง (ประมาณ 400–500 คน) แต่งงานกับคนอิสราเอล และมีบุตร ถือ 2 สัญชาติ คือทั้งสัญชาติไทยและอิสราเอล

ตามกฎหมายอิสราเอล บุคคลสัญชาติอิสราเอลทุกคน (ทั้งหญิงและชาย) ต้องเข้ารับการเกณฑ์ทหารเมื่ออายุครบ 18 ปี โดยผู้ชายมีระยะเวลารับราชการทหาร 32 เดือน และผู้หญิง 24 เดือน และเมื่อเสร็จสิ้นระยะเวลาเกณฑ์ทหารแล้ว ทุกคนจะถูกบรรจุเข้าเป็นทหารกองหนุน ซึ่งต้องปฏิบัติหน้าที่ทหารหากถูกเรียกจากกองทัพอิสราเอล

ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2566 กองทัพอิสราเอลได้เรียกทหารกองหนุนจำนวนกว่า 350,000 คน หรือร้อยละ 4 ของประชากรอิสราเอลทั้งหมด เข้าปฏิบัติหน้าที่ ถือว่าเป็นการเรียกทหารกองหนุนครั้งใหญ่ที่สุดของอิสราเอล จึงย่อมมีลูกครึ่งไทย-อิสราเอลที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ทหารกองหนุนตามกฎหมายอิสราเอล มิใช่แรงงานไทยที่แฝงตัวไปเป็นทหารรับจ้างให้แก่อิสราเอลตามที่มีการกล่าวอ้าง

กระทรวงการต่างประเทศ จึงขอความร่วมมืออย่าเผยแพร่ข่าวปลอมหรือข่าวที่อาจทำให้สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชนทั้งไทยและต่างประเทศ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button