ช็อกโลกอีกครั้ง! กองทัพเมียนมา สังหารโหดประชาชน 29 ราย ในค่ายผู้ลี้ภัย พบเป็นผู้หญิงและเด็กจำนวนมาก โฆษก NUG เผยเป็นอาชญากรรมสงคราม
ช่วงเช้าวันนี้ (10 ต.ค. 66) ได้มีการรายงานว่า กองทัพของเมียนมา ได้ใช้ปืนใหญ่โจมตีค่ายผู้ลี้ภัยใกล้ชายแดนเมียนมา-จีน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย รวมทั้งผู้หญิงและเด็กอีก 13 คน ถือเป็นการโจมตีพลเรือนที่มีผู้เสียชีวิตมากที่สุดครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่การกลับมาปกครองของทหารเมียนมา
แหล่งข่าวกล่าวว่า การยิงดังกล่าวเกิดขึ้นใกล้เที่ยงคืนของวันจันทร์ที่ผ่านมา ในรัฐคะฉิ่น โดยทหารได้ใช้ปืนใหญ่ที่ห่างจากฐานทัพไลซา 5 กิโลเมตร ในการโจมตีค่ายผู้ลี้ภัย
สื่อคะฉิ่นระบุว่า การโจมตีส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย และกล่าวโทษการโจมตีด้วยปืนใหญ่ว่าเป็นฝีมือของทหาร เบื้องต้นสื่อนอกประเทศยังไม่สามารถตรวจสอบผู้เสียชีวิต หรือติดต่อกับโฆษกรัฐบาล รวมถึง KIA เพื่อขอความคิดเห็นถึงการโจมตีที่เกิดขึ้นได้
ทั้งนี้เมียนมาได้มีความขัดแย้งเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง มาตั้งแต่เมื่อปี 2564 เนื่องจากประชาชนและชนกลุ่มน้อยทางชาติพันธุ์จำนวนมาก ต่อต้านการปกครองของทหาร และวิธีการปราบปรามผู้เห็นต่างทางการเมือง
ด้านองค์การสหประชาชาติ ระบุมีชาวเมียนมาพลัดถิ่นแล้วมากกว่า 1 ล้านคน โดยโฆษกของ NUG ได้กล่าวว่า “การกระทำของสภาทหารนี้เป็นอาชญากรรมสงครามและอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ”
ทางด้านนักเคลื่อนไหว ในท้องถิ่นของกลุ่มประชาสังคมเครือข่ายสันติภาพคะฉิ่น กล่าวกับรอยเตอร์ว่า เธอได้ไปเยี่ยมโรงพยาบาลในท้องถิ่น และได้รับแจ้งว่ามีผู้เสียชีวิต 29 ราย และบาดเจ็บ 59 ราย ก่อนระบุว่า “ระเบิดรุนแรงเกินไป หมู่บ้านถูกทำลายและสูญหายไปโดยสิ้นเชิง”
