นักศึกษาจากนิวยอร์ก วัย 21 ปี เกือบต้องติดคุกในประเทศดูไบ เพราะเผลอแตะตัวเจ้าหน้าที่ หลังต้องการขอความช่วยเหลือ ระหว่างรอต่อเครื่อง
เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2023 สำนักข่าว nypost ได้ออกมารายงานว่า เอลิซาเบธ โปลันโก เดอ ลอส ซานโตส นักศึกษาวิทยาลัยในนครนิวยอร์ก ถูกตัดสินจำคุก 1 ปี ฐานสัมผัสแขนของเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่สนามบินดูไบ พร้อมข้อกล่าวหา หมิ่นประมาท
จากการตรวจสอบพบว่า เอลิซาเบธ ต้องลงไปต่อเครื่องที่ดูไบ ระหว่างที่เดินทางกลับจากทริปเที่ยวตุรกี โดยมีปลายทางคือนิยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งการแวะต่อเครื่องครั้งนี้ใช้เวลารวมทั้งสิ้น 10 ชั่วโมง
สำหรับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น เริ่มต้นเมื่อเจ้าหน้ารักษาความปลอดภัยของสนามบินดูไบ ตรวจค้นร่างกายของเธอ พร้อมขอสแกนโลหะและขอให้เธอถอดชุดรัดเอวออก ทั้งที่เธอจำเป็นต้องใส่ตามคำแนะนำของแพทย์เนื่องจากปัญหาสุขภาพหลังการผ่าตัด
เอลิซาเบธถูกนำตัวไปในห้องแยก โดยมีเจ้าหน้าที่ผู้หญิงนอกเครื่องแบบเข้ามาถอดชุดอุปกรณ์รัดเอวของเธอ โดยเอลิซาเบธกล่าวว่า พวกเขากระทำการหยาบคาย และทำให้แผลผ่าตัดของเธอบวมขึ้นขณะถอดอุปกรณ์ออก “ฉันรู้สึกไม่สบายใจและกลัว ฉันรู้สึกถูกละเมิดจริง ๆ”
หลังจากถูกถอดอุปกรณ์ออกไป เอลิซาเบธกล่าวว่าเธอถูกเจ้าหน้าที่หัวเราะเยาะใส่ เพราะต้องการความช่วยเหลือในการใส่เสื้อผ้า และเมื่อเธอต้องการติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง เธอได้เผลอแตะแขนของอีกฝ่ายเบา ๆ นำไปสู่สถานการณ์วุ่นวายที่เปลี่ยนชีวิตเธอ
“ฉันแตะแขนเธอเบา ๆ เพื่อขอให้เธอออกไปให้พ้นทาง จากนั้นฉันก็เริ่มร้องไห้ และขอความช่วยเหลือจากเพื่อนของฉัน”
แต่ไม่มีใครคาดคิดว่า เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมตัวของเอลิซาเบธไว้ พร้อมร้องเรียนว่าเธอกระทำการหมิ่นเขามากเกินไป และนำแบบฟอร์มภาษาอาหรับมาให้เธอเซ็นลงนาม
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เอลิซาเบธต้องติดอยู่ในดูไบ และเปลี่ยนโรงแรมนอนไปเรื่อย ๆ เพื่อรอฟังการพิจารณาคดี ซึ่งไม่นานหลังจากนั้น ศาลได้ออกคำสั่งให้เธอจ่ายค่าปรับ ประมาณ 2,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ (100,242.90 บาท) และรอฟังคำตัดสินต่อไป
กระทั่งเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา อัยการยื่นอุทธรณ์คำตัดสิน ปรากฏว่า เอลิซาเบธต้องจำคุก 1 ปี ทว่าได้มีการปรับเปลี่ยนโทษในวันต่อมา เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากสื่อสหรัฐและสำนักข่าวหลายแห่ง จนทำให้เธอเดินทางกลับบ้านได้โดยไม่ต้องคุก
ทั้งนี้แม้ว่าเอลิซาเบธจะไม่ต้องโทษจำคุก แต่การที่เธอต้องรอฟังการพิจารณาคดีนานกว่า 5 เดือนในดูไบ ทำให้เธอต้องเสียงินไปทั้งหมด 50,000 ดอลลาร์ (1.8 ล้านบาท) จากค่าที่พัก ค่าเดินทาง และการดำเนินการทางกฎหมาย โดยเธอไม่ได้รับการชดเชยใด ๆ จากทางการดูไบเลย.
