‘หนิง ปณิตา’ เปิดใจกลางรายการ เล่าวินาทีเผชิญหน้าคู่กรณี ณ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ปมฟ้องเรียกค่าเสียหายเหตุทำให้สร้างความเสียหายแก่ชีวิตคู่ สุดท้ายตกลงกันด้วยดี ยอมลดค่าเสียหายและอนุญาตให้ผ่อนจ่าย
ผ่านพ้นไปแล้วกับการไกล่เกลี่ยระหว่าง ‘หนิง ปณิตา พัฒนาหิรัญ’ นักแสดงมากความสามารถ กับคู่กรณี ที่เป็นต้นเหตุของความสัมพันธ์ของเธอกับอดีตสามี ‘จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ’ ซึ่ง ‘หนิง ปณิตา’ ได้ยื่นฟ้องคู่กรณีในคดีละเมิดเรียกค่าเสียหายจากการทำลายชีวิตคู่ โดยได้ข้อสรุปว่า คู่กรณียินยอมที่จะโพสต์คลิปขอโทษผ่านทางไอจี และต้องชดเชยค่าเสียหายมูลค่า 3 ล้านบาท สามารถผ่อนจ่ายได้ 4 ปี
ล่าสุด (วันที่ 5 ตุลาคม 2566) นักแสดงสาวควบตำแหน่งคุณแม่สุดแกร่ง ‘หนิง ปณิตา’ ได้เปิดใจกลางรายการ คุยแซ่บShow ที่มี ‘ชมพู่ ก่อนบ่าย’ และ ‘ตั๊กแตน ชลดา’ เป็นพิธีกรดำเนินรายการ โดยสาวหนิงได้เล่าถึงวินาทีการเผชิญหน้ากัน ณ ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ระหว่างหนิง ผู้เป็นโจทก์ และคู่กรณี มือที่สามของเธอกับอดีตสามี
‘หนิง ปณิตา’ ได้เผยถึงการเจอกันครั้งแรกว่า “ณ วินาทีแรก เป็นไปไม่ได้หรอกที่จะไม่รู้สึกอะไร ความรู้สึกมีอยู่แล้วแหละ โกรธมันมี แต่เรารู้สึกที่ว่าจะโกรธก็ต้องมีสติตลอด ต้องสั่งตัวเองให้ใจเย็นและมีเหตุผล ตอนเจอเขาก็มือสั่นนะ แต่พอหายใจเข้าออก มีสติ ใจเย็น ทุกอย่างกำลังจะดีแล้ว ก็อยู่ในสภาวะที่เราควบคุมได้”
เมื่อถูกถามถึง สถานการณ์ปะทะคารมระหว่างกัน ทางสาวหนิงก็ได้เอ่ยปฏิเสธ พร้อมบอกว่า
“ไม่เรียกว่าปะทะคารม พอศาลท่านเมตตาให้เราไกล่เกลี่ยกัน ก็เป็นจังหวะที่เรากับเขาได้เผชิญหน้ากันพูดคุยกันครั้งแรก แน่นอนว่าการพูดคุยกันครั้งแรก เรามีระยะเวลาพูดสั้นมาก เราพูดชัด ๆ ตรง ๆ หนิงเป็นคนแบบนั้น หนิงขอแค่อย่างเดียวการเคลียร์กันให้สำเร็จและแยกย้ายจากกันไปด้วยดี มันต้องมาจากพื้นฐานที่ว่าคุณรู้สึกว่าคุณผิดก่อน
ถ้าคุณรู้สึกว่าผิดได้มันก็จะไปในทิศทางที่ควรจะไปได้ ซึ่งยอมรับว่าน้องทำได้ดีพอสมควร แล้วพอเขาทำได้ดีพอสมควร มันทำให้เราเปิดใจที่จะฟังอะไรอีกหลาย ๆ คำที่เขาพูด ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งถอย ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยอมที่จะเป็นคนฟัง”
ทางพิธีกรสาว ‘ชมพู่ ก่อนบ่าย’ ก็ได้ถามต่อว่า ในฐานะที่รู้จักกับสาวหนิงมานาน และได้เห็นท่าทีของแม่หนิงที่หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าโหด แต่แท้จริงแล้วเป็นคนใจอ่อนและใจเย็นมาก ที่เมื่อเห็นคู่กรณีขอโทษ ก็ยอมใจอ่อนให้อภัย เหตุผลของการเห็นใจคืออะไร
“เป็นคนเห็นน้ำตาคนไม่ได้ นี่คือจุดอ่อนของเรา แต่บนความที่ไม่ได้เรียกว่าให้อภัยหรอก เรียกว่ายอมเปิดใจยอมฟังคนอื่นบ้าง เพราะปัญหาทุกปัญหาเวลาเกิดต้องฟังว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร เขาทำอย่างนี้ไปเพื่ออะไร พอเขาพูดมาเราก็บอกว่ามันไม่ใช่ สิ่งนี้คุณก็ต้องการแบบนี้ อย่างเขาบอกว่าเขาโดนผู้ชายหลอก เราก็บอกว่าไม่ หนิงไม่ได้เข้าข้างจิน อย่าคิดว่าการที่บอกว่าไม่ คือหนิงเข้าข้างจิน
แต่มีคนเตือนคุณนี่ ถ้ามีคนเตือนคุณ คุณต้องรับฟังแล้ว คุณจะบอกว่าโดนหลอกไม่ได้ เพราะมีคนเตือนคุณ คุณต้องยอมรับตรงนี้ก่อนว่าคุณไม่ฟังใคร ถ้าไม่ฟังใครแล้วรู้ว่าเขายังไม่ได้เลิกกับครอบครับครัวเขา แสดงว่าคุณผิด แต่ถ้าคุณฟัง คุณออกไปเลยนะ แต่นี่คุณไม่ฟัง แต่ถามว่าเขาโดนหลอกจริงมั้ย เขาก็อาจโดนการพูดเหมือนที่เขาให้สัมภาษณ์ไป เราก็ต้องเปิดใจฟังตรงนี้ ตรงนี้เลยเป็นจุดที่ทำให้เราเห็นใจเขา”
ทราบมาว่าคู่กรณีร้องไห้ คำไหนที่ทำให้เขาร้องไห้ออกมา
“ประโยคที่บอกว่าก่อนอื่นต้องยอมรับให้ได้ก่อน หนิงยอมรับฟังแล้วว่าโดนหลอก แต่โดนหลอกแล้วยอมให้เขาหลอกด้วยมั้ย มันเป็นจุดที่ทำให้ตัวเองรู้สึกต้องยอมให้เขาหลอกมั้ย หนิงขอไม่เอาคำพูดที่เราคุยกันอย่าไปลงดีเทล เพราะน้องเขาทำในส่วนที่ต้องทำ ณ ตรงนั้น ต้องยอมรับว่าถ้าเขายอมรับแล้วก็โอเค คนเราถ้าไม่ยอมรับจะเดินต่อไม่ได้
แต่วันนี้เขายอมรับ เราต้องให้โอกาสเขามั้ย คนเรามีใครไม่เคยทำผิด วันนี้หนิงมานั่งตรงนี้ได้เพราะหนิงเคยทำผิด และทุกคนยังเคยให้อภัย สังคมยังให้อภัยในสิ่งที่หนิงทำผิด หนิงถึงนั่งตรงนี้ได้ สังคมก็ต้องให้อภัยถ้าเขาทำผิด เพราะเขายอมรับ เราก็ควรให้โอกาสและดูว่าข้างหน้าเขาจะทำยังไง ถ้าเขาแก้ไขได้ ทำให้เราสร้างคนดี ๆ ได้คนนึงเลยนะ แต่ถ้าแก้ไขไม่ได้ อันนั้นก็คือตัวเขา สำหรับเรากับเขา จบเรียบร้อย”
อะไรทำให้นิ่งขึ้น เปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อนอารมณ์นำ เครียดเข้ารพ. ปัจจุบันมีสติ นิ่งขึ้นเยอะเพราะอะไร
“น้องณิริน คำเดียวเลย หนิงโกรธเท่าไหร่สำหรับเรื่องนี้ น้องณิรินโกรธหนักกว่าหนิง อย่าลืมว่าสามีภรรยาแยกกันก็เป็นคนอื่น แต่น้องณิรินไม่สามารถแยกความเป็นลูกความเป็นพ่อกับคุณจินได้ สายเลือดมันผูกพันกัน หนิงโกรธเท่าไหร่ ลูกหนิงโกรธมากขึ้นเท่านั้น ถ้าหนิงไม่ดับไฟในตัวหนิงลง ลูกหนิงก็เหมือนไฟสุมอยู่ในตัว ถ้าหนิงจะสอนเขา ณิรินไม่เอาลูก อย่าไปว่าเขาแบบนี้ อย่าก้าวร้าวแบบนี้ แต่ตัวแม่ยังจบเรื่องตรงนี้ไม่ได้ หนิงจะเอาหน้าที่ไหนไปสอนลูก
สิ่งเดียวเลยที่หนิงยอมจบ บางคนบอกว่าหนิงใจดีเกินไป หนิงเป็นแม่พระ หนิงไม่ได้ดีขนาดนั้น หนิงก็ทำเพื่อตัวหนิงเอง เพราะต้องการให้ลูกหนิงจบ ต้องต่อสู้กับทุกอย่างในใจหนิงพอสมควร หนิงมีทิฐิ หนิงมีความโกรธ หนิงถูกกระทำแบบนี้หนิงอยากต่อสู้อยากเอาชนะ แต่มันไม่ได้ ไฟมันจะขึ้น ๆ แต่ถ้าไฟดับเมื่อไหร่ ก็จะเอาตรงนี้เป็นตัวอย่างว่าณิรินเห็นมั้ย แม่ทำให้หนูดู นี่แม่หนูนะ หนูบอกว่าแม่เป็นไอดอลใช่มั้ย ถ้าแม่หนูทำได้ หนูก็ทำได้ เราจะใช้วิธีแบบนี้คุยกับเขา”
ทั้งนี้ เรื่องราวการไกล่เกลี่ยระหว่างนักแสดง ‘หนิง ปณิตา’ และคู่กรณีก็ได้จบลงไปแล้ว ด้วยการลดค่าเสียหายและการยินยอมปฏิบัติตามข้อตกลง และในช่วงท้ายของรายการสาวหนิงก็ได้ฝากข้อคิดไว้ด้วยว่า “ต้องนึกเลยว่าถ้าคุณจะก้าวไปยุ่งกับชีวิตใคร ถ้าตัวคุณเองโดนทำแบบนี้บ้างกับชีวิตคุณ คุณจะรู้สึกยังไง แต่ถ้ารู้สึกว่าไม่แคร์ก็เชิญ แล้วเชื่ออย่างหนึ่งกฎแห่งกรรมมีจริง”
- ต้นสังกัดไม่อยู่เฉย ‘หนิง ไอลีน’ ถูกสั่งพักงาน ปมแสดงความเห็นเหตุกราดยิงห้างดัง
- ‘จิ๊บ ปกฉัตร’ รับผิดคลิปหนีตาย หลังถูกติงเป็นวิธีเอาตัวรอดที่ไม่ถูกต้อง ไม่ควรทำตาม
- ‘อุ้ม ลักขณา’ กุมขมับ วอนหนุ่ม ๆ หยุดส่งของลับมาทาง DM “อ้วกจะแตกละค่า”