ไลฟ์สไตล์

5 เรื่องน่ารู้ ‘ซิงค์’ แร่ธาตุยอดฮิตในอาหารเสริม ช่วยลดสิวจริงไหม

รวมเรื่องน่ารู้ ซิงค์ (Zinc) แร่ธาตุสังกะสี หนึ่งในแร่ธาตุสำคัญที่เป็นส่วนประกอบหลักในสกินแคร์และอาหารเสริม ช่วยลดสิวได้จริงหรือไม่ มีประโยชน์สำหรับคนหน้ามัน เป็นสิวง่าย ช่วยลดสิวอุดตันเหมือนคำเคลมหรือเปล่า

ซิงค์ หรือ สังกะสี เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่จำเป็นเนื่องจากช่วยให้ร่างกายทำงานได้อย่างสมบูรณ์ และคอยซ่อมบำรุงระบบเอนไซม์ ซึ่งร่างกายไม่สามารถผลิตเองได้ จึงจำเป็นจะต้องรับประทานเข้าไปเท่านั้น พบได้มากในอาหารทะเล เนื้อหมู ไข่ ถั่ว เมล็ดแตงโม เมล็ดทานตะวัน และช็อกโกแลต เป็นต้น นอกจากนี้ซิงค์ยังมีคุณสมบัติการสะท้อนรังสี UV ทั้ง UV-A และ UV-B ทำให้แร่ธาตุสังกะสีชนิดนี้มักจะเป็นหนึ่งในส่วนผสมของเครื่องสำอางประเภทครีมและโลชั่นกันแดดอีกด้วย

แต่หลายคนอาจจะยังสงสัยว่า ซิงค์สามารถลดสิวได้จริงหรือไม่? เพราะพลิกฉลากอาหารเสริมลดสิวทีไร ซิงค์มักจะเป็นส่วนประกอบสำคัญอยู่เสมอ ใครที่กำลังมองหาตัวเลือกในการรักษาสิวอักเสบ สิวอุดตันควรทราบถึงประโยชน์ในการรับประทานซิงค์ รวมถึงปริมาณที่ควรทานต่อวัน รู้ไว้จะได้รักษาผิวหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

5 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับซิงค์ แร่ธาตุสำคัญในการลดสิว

แน่นอนว่าซิงค์ ไม่ได้มีคุณสมบัติในการรักษาสิวโดยตรง แต่มีความสามารถในการรักษาสมดุลของต่อมไขมันและปรับปริมาณของไขมันที่ผลิตออกมา รวมถึงยับยั้งแบคทีเรียที่เป็นต้นตอของการเกิดสิว ซิงค์จึงเป็นตัวการหลักที่จะช่วยลดการอุดตันที่ทำให้เกิดสิว ช่วยลดรอยสิวได้ดี สามารถแบ่งรายละเอียดได้ดังนี้

1. ซิงค์ช่วยลดความมันบนใบหน้าได้

ซิงค์ มีคุณสมบัติในการต้านฤทธิ์ของฮอร์โมนเอนโดรเจน ฮอร์โมนสำคัญที่จะไปประตุ้นต่อมไขมันให้มีการทำงานมากกว่าปกติ ทำให้ใบหน้าของเรามีการหลั่งน้ำมันออกมา พร้อมกับการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ เชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดสิวผด สิวอักเสบ เมื่อต่อมไขมันมีการหลั่งน้ำมันออกมาเยอะมากขึ้น รวมกับการผลัดเซลล์ผิวของเรา ทำให้เกิดการอุดตันของรูขุมขน น้ำมันที่ผลิตออกมาไม่สามารถระบายออกไปได้ทัน จึงเป็นสาเหตุสำคัญของการเกิดสิวอุดตันนั่นเอง

2. แร่ธาตุซิงค์ สามารถลดต้นตอของสิวได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากซิงค์มีคุณสมบัติในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย P-acne ได้โดยตรง และมีฤทธิ์ลดกระบวนการอักเสบ รวมถึงยับยั้งการทำงานของต่อมไขมัน จึงสามารถลดสิวอักเสบได้เป็นอย่างดี ทำให้ซิงค์เป็นหนึ่งในแร่ธาตุที่ถูกนำมาผสมในยาปฏิชีวนะ เพื่อทาผิวรักษาสิว โดยเฉพาะสิวอักเสบ

3. ซิงค์ช่วยลดวงจรสิวและป้องกันการเกิดสิวใหม่ได้

ปัจจัยหลักที่เป็นสาเหตุของสิว คือ ต่อมไขมัน P-acne และซิงค์ทำหน้าที่เป็นตัวช่วยในการทำงานของเอนไซม์หลายชนิด ช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกัน และมีวิธีสร้างกระบวนการอักเสบ การรับประทานซิงค์ในปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยยับยั้งและลดการเกิดสิว ชะลอความมันบนใบหน้า รวมถึงลดรอยสิวได้เป็นอย่างดี

4. ซิงค์ช่วยลดสิวฮอร์โมน

ปกติแล้วหากผู้หญิงเป็นสิวฮอร์โมน มักจะทานยาคุมปรับฮอร์โมน แต่ผู้ชายไม่สามารถทานยาคุมได้ ดังนั้น ซิงค์ จึงเป็นตัวเลือกที่ดีอีกตัวหนึ่ง สำหรับสิวฮอร์โมนในผู้ชายหรือผู้หญิงที่ไม่อยากทานยาคุม นอกจากนี้ซิงค์ยังมีความสำคัญกับการสร้างฮอร์โมนเพศชาย ปรับสมดุลฮอร์โมนเพศชายได้ดีอีกด้วย

5. ซิงค์ช่วยเสริมประสิทธิภาพในยาทารักษาสิว

หากมีการใช้ยาทารักษาสิวอยู่ สามารถทานซิงค์ควบคู่กับการใช้ยาทารักษาสิวได้ เพื่อให้การรักษาสิวมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น ควรทานซิงค์ก่อนนอนหรือขณะท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีตอนท้องว่าง แต่ถ้ามีอาการระคายเคืองกระเพาะอาหารก็สามารถทานหลังอาหารได้

ทั้งนี้ หากไม่ได้เป็นสิวรุนแรง การรับประทานแร่ธาตุสังกะสี จะมีส่วนช่วยลดการเกิดสิวได้ แต่หากเป็นสิวรุนแรง การเลือกทานอาหารเสริมที่มีซิงค์ในปริมาณที่พอเหมาะต่อวัน ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี แต่หากรับประทานเกิน 3 เดือนแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาคำแนะนำเพิ่มเติม

ซิงค์ช่วยรักษาสิว

การทานซิงค์ให้ได้ผล เพื่อรักษาสิวในระยะยาว

ซิงค์มีหลายรูปแบบ แต่ละแบบจะให้ปริมาณต่างกันขึ้นอยู่กับชนิดของผลิตภัณฑ์ ควรทานในขณะที่ท้องว่าง เพื่อให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารได้ดีที่สุด หากทานเพื่อรักษาสิวควรทานในปริมาณ 30 ถึง 40 มิลลิกรัมต่อวัน นอกจากนี้ควรทานคู่กับวิตามินเอ แคลเซียม และฟอสฟอรัส เพื่อให้ระบบในร่างกายทำงานได้ดียิ่งขึ้น หรืออาจทานซิงค์ควบคู่กับวิตามินซีก็สามารถช่วยในการดูดซึมสารอาหารได้ดีเช่นกัน

ทานซิงค์อย่างไรให้เห็นผล

ปริมาณซิงค์ที่แนะนำต่อวัน

แม้ว่าการทานซิงค์จะส่งผลดีต่อร่างกายโดยเฉพาะการรักษาสิวมากเพียงใด แต่ถ้าหากรับประทานเยอะเกินไปก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพ ดังนั้น เราควรรู้ก่อนว่าจะต้องรับประทานในปริมาณเท่าไหร่จึงจะส่งผลดีต่อร่างกาย มากกว่าผลเสีย ปริมาณซิงค์ที่ควรรับประทานต่อวัน มีดังนี้

ปริมาณซิงค์ที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้หญิง

  • อายุ 9 ถึง 13 ปี : 8 มิลลิกรัม
  • อายุ 14 ถึง 18 ปี : 9 มิลลิกรัม
  • อายุ 14 ถึง 18 ปีและตั้งครรภ์ : 12 มิลลิกรัม
  • อายุ 18 ปีขึ้นไป : 8 มิลลิกรัม
  • อายุ 18 ปีขึ้นไปและตั้งครรภ์ : 11 มิลลิกรัม
  • อายุ 18 ปีขึ้นไปและให้นมบุตร : 12 มิลลิกรัม

ปริมาณซิงค์ที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ชาย

  • อายุ 9 ถึง 13 ปี : 8 มิลลิกรัม
  • อายุ 14 ถึง 18 ปี : 11 มิลลิกรัม
  • อายุ 18 ปีขึ้นไป : 11 มิลลิกรัม

ปริมาณซิงค์ที่แนะนำต่อวัน

แม้ว่าซิงค์จะเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญในการลดสิว แต่หากรับประทานมากเกินไปก็อาจเกิดโทษต่อร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดหัว อาเจียน คลื่นไส้ ท้องเสีย ปวดท้อง และเบื่ออาหาร ดังนั้น ก่อนเลือกรับประทานอาหารเสริมควรศึกษาให้ละเอียด และเช็กให้ดีด้วยว่าในแต่ละวันนั้น อาหารที่คุณทานต่อวันมีปริมาณซิงค์แค่ไหน เพื่อให้ร่างกายดูดซับซิงค์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ขอบคุณข้อมูลจาก : 1 2

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button