การเงินเศรษฐกิจ

เปิดกำหนดการกู้ยืมเงิน กยศ. 2566 เช็กคุณสมบัติ พร้อมเอกสารที่ต้องใช้

กู้ยืมเงิน กยศ. 2566 สร้างโอกาสในการศึกษาไทย เปิดโอกาสสำหรับผู้มีความจำเป็นจะต้องกู้ยืมค่าใช้จ่ายเพื่อการศึกษา ช่วยให้นักเรียน นักศึกษา มีโอกาสเรียนตามฝัน

หนึ่งในกองทุนที่คอยช่วยเหลือและสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษาไทยได้มีโอกาสเล่าเรียนในระบบการศึกษา คงหนีไม่พ้น กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา หรือ กยศ. สำหรับผู้ปกครองท่านใดที่อยากทำความรู้จักกับการกู้ยืมเงินของ กยศ. 2566 มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณสมบัติของผู้กู้ยืม เอกสารที่ต้องเตรียม ไปจนถึงกำหนดการขอกู้ประจำปีการศึกษานี้ Thaiger รวบรวมข้อมูลมาให้แล้ว สามารถติดตามรายละเอียดด้านล่างได้เลย

กู้ยืมเงิน กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566

กำหนดการกู้ยืม กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566 สำหรับสถานศึกษาทั่วไป

ภาคเรียนที่ 1

  • ตั้งแต่ 1 เม.ย. 2566 : สถานศึกษาบันทึกปฏิทินการศึกษา (เฉพาะสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา) ค่าใช้จ่ายตามหลักสูตร และรายงานสถานภาพการศึกษาของผู้กู้ยืมเงิน
  • 1 เม.ย. – 31 ส.ค. 2566 : ผู้กู้ยืมเงินลงทะเบียนขอรหัสเข้าใช้งาน กยศ. Connect/ระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) และ ผู้กู้ยืมเงินรายใหม่ยื่นแบบคำขอกู้ยืมเงิน สถานศึกษาตรวจสอบแบบคำขอกู้ยืมเงิน
  • 1 เม.ย. – 30 ก.ย. 2566 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน สำหรับผู้กู้ยืมเงินรายใหม่ จัดทำสัญญากู้ยืมเงิน นอกจากนี้ผู้กู้ยืมรายใหม่และรายเก่า จะต้องยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมและลงนามยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 ต.ค. 2566 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารสัญญากู้ยืมเงินและแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม

ภาคเรียนที่ 2

  • 1 ก.ย. 2566 – 31 ม.ค. 2567 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน และ ผู้กู้ยืมเงินยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม และลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 ก.พ. 2567 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริการและจัดการเงินให้กู้ยืม

ภาคเรียนที่ 3 (สำหรับสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบ 3 ภาคเรียน)

  • 1 ม.ค. – 31 มี.ค. 2567 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน และ ผู้กู้ยืมเงินจะต้องยื่นแบบยืนยันการเบิกกู้ยืม และลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 เม.ย. 2567 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
กำหนดการกู้ยืม กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566 สำหรับสถานศึกษาทั่วไป
ภาพจาก : กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

กำหนดการกู้ยืม กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566 สำหรับสถานศึกษาอาเซียน

ภาคเรียนที่ 1

  • ตั้งแต่ 1 มิ.ย. 2566 : สถานศึกษาบันทึกปฏิทินการศึกษา (เฉพาะสถานศึกษาระดับอุดมศึกษา) ค่าใช้จ่ายตามหลักสูตร และรายงานสถานภาพการศึกษาของผู้กู้ยืมเงิน
  • 1 เม.ย. – 30 ก.ย. 2566 : ผู้กู้ยืมเงินลงทะเบียนขอรหัสเข้าใช้งาน กยศ. Connect/ระบบกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาแบบดิจิทัล (DSL) และ ผู้กู้ยืมเงินรายใหม่ยื่นแบบคำขอกู้ยืมเงิน สถานศึกษาตรวจสอบแบบคำขอกู้ยืมเงิน
  • 1 มิ.ย. – 31 ต.ค. 2566 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน สำหรับผู้กู้ยืมเงินรายใหม่ จัดทำสัญญากู้ยืมเงิน นอกจากนี้ผู้กู้ยืมรายใหม่และรายเก่า จะต้องยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมและลงนามยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 พ.ย. 2566 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารสัญญากู้ยืมเงินและแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม

ภาคเรียนที่ 2

  • 1 พ.ย. 2566 – 31 มี.ค. 2567 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน และ ผู้กู้ยืมเงินยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม และลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 เม.ย. 2567 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม

ภาคเรียนที่ 3 (สำหรับสถานศึกษาที่มีการจัดการเรียนการสอนแบบ 3 ภาคเรียน)

  • 1 เม.ย. – 30 มิ.ย. 2567 : สถานศึกษาบันทึกค่าใช้จ่ายตามจริงของผู้กู้ยืมเงิน และ ผู้กู้ยืมเงินยื่นแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืม และลงนามแบบยืนยันเบิกเงินกู้ยืม
  • ไม่เกิน 15 ก.ค. 2567 : สถานศึกษาจัดส่งเอกสารแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมให้ผู้บริหารและจัดการเงินให้กู้ยืม
กำหนดการกู้ยืม กยศ. ประจำปีการศึกษา 2566 สำหรับสถานศึกษาอาเซียน
ภาพจาก : กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

กยศ. คืออะไร

กยศ. หรือ กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา เป็นกองทุนที่มุ่งสร้างโอกาสในการศึกษาไทย โดยการสนับสนุนค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา รวมถึงค่าครองชีพให้แก่นักเรียนและนักศึกษาที่มีความจำเป็นต่อการได้รับการสนับสนุนทางการเงิน นอกจากนี้ การกู้เงินกับ กยศ. จะไม่มีการคิดดอกเบี้ยระหว่างการศึกษา แต่จะต้องชำระเงินคืนหลังจากสำเร็จการศึกษาไปแล้ว 2 ปี

คุณสมบัติ ผู้ขอกู้ กยศ.

คุณสมบัติทั่วไปและลักษณะต้องห้ามของนักเรียนหรือนักศึกษาที่จะขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาจะต้องมีคุณสมบัติทั่วไปและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้

คุณสมบัติทั่วไป

  1. มีสัญชาติไทย
  2. ศึกษาหรือได้รับการตอบรับให้เข้าศึกษาอยู่ในสถานศึกษาที่ร่วมดำเนินงานกับกองทุน
  3. เป็นผู้ขอกู้ยืมเงินเพื่อการศึกษาในการศึกษาที่สถานศึกษาเพียงแห่งเดียวในคราวภาคการศึกษาเดียวกัน
  4. มีผลการเรียนดีหรือผ่านเกณฑ์การวัดและประเมินผลของสถานศึกษา
  5. มีความประพฤติดี ไม่ฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับของสถานศึกษาขั้นร้ายแรงหรือไม่เป็นผู้ที่มีความประพฤติเสื่อมเสีย เช่น หมกมุ่นในการพนัน เสพยาเสพติดให้โทษ ดื่มสุราเป็นอาจิณหรือเที่ยวเตร่ในสถานบันเทิงเริงรมย์เป็นอาจิณ เป็นต้น

ลักษณะต้องห้าม

  1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีในสาขาใดสาขาหนึ่งมาก่อน เว้นแต่จะได้กำหนดเป็นอย่างอื่นในคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาลักษณะหนึ่งลักษณะใด
  2. เป็นผู้ปฏิบัติงานและรับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำในหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนในลักษณะเต็มเวลา เว้นแต่จะได้กำหนดเป็นอย่างอื่นในคุณสมบัติเฉพาะสำหรับการให้เงินกู้ยืมเพื่อการศึกษาลักษณะหนึ่งลักษณะใด
  3. เป็นบุคคลล้มละลาย
  4. เป็นหรือเคยเป็นผู้ได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
  5. เป็นหรือเคยเป็นผู้ที่ผิดนัดชำระหนี้กับกองทุน เว้นแต่ได้ชำระหนี้ดังกล่าวครบถ้วนแล้ว

เอกสารที่ต้องเตรียมสำหรับผู้ขอกู้ กยศ.

  1. สำเนาบัตรประชาชน หน้า-หลัง 3 ชุด
  2. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด
  3. สำเนาใบวุฒิ 3 ชุด
  4. หน้าสมุดบัญชีธนาคารกรุงไทย 3 ชุด
  5. รูปถ่ายหน้าตรง 3 รูป
  6. สำเนาบัตรประชาชน หน้า-หลัง 3 ชุด ของผู้ค้ำประกัน
  7. สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ชุด ของผู้ค้ำประกัน

การโอนเงิน กยศ. ในปีการศึกษา 2566

การโอนค่าเล่าเรียนและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษาให้กับสถานศึกษา

กองทุนฯ จะโอนเข้าบัญชีของสถานศึกษา ภายหลังจากธนาคารตรวจสอบสัญญากู้ยืมเงินและ/หรือแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมว่าถูกต้องครบถ้วน ตรงกับข้อมูลที่ธนาคารได้รับจากระบบ โดยจะโอนเงินให้ทุกวันที่ 5 15 และ 25 ของเดือน

การโอนค่าครองชีพให้กับผู้กู้ยืมเงิน

กองทุนจะโอนค่าครองชีพเดือนแรกให้กับผู้กู้ยืมเงินภายใน 30 วัน นับจากวันที่สถานศึกษายืนยันการลงนามแบบยืนยันการเบิกเงินกู้ยืมในระบบ และสถานศึกษาต้องจัดส่งเอกสารการกู้ยืมเงินที่ถูกต้อง และครบถ้วนให้ธนาคารโดยเร็ว หากธนาคารไม่ได้รับเอกสารการกู้ยืมดังกล่าว ภายใน 30 วัน กองทุนจะหยุดการโอนเงินค่าครองชีพของผู้กู้ยืมเงินในเดือนที่สอง

การโอนเงิน กยศ. 2566
ภาพจาก : กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

กยศ. 2566 จ่ายค่าเทอมและค่าครองชีพเท่าไหร่บ้าง

ผู้ที่กู้กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2566 จะได้รับทุนการศึกษาและค่าครองชีพในแต่ละภาคเรียนแตกต่างกันออกไปตามแต่ละคณะ แบ่งออกเป็นกลุ่มต่าง ๆ ดังนี้

  • มัธยมศึกษาตอนปลาย ค่าเทอมไม่เกิน 14,000 บาท/ปี
  • ปวช. ค่าเทอมไม่เกิน 21,100 บาท/ปี
  • ปวส. ค่าเทอม 25,000 – 30,000 ต่อปี
  • อนุปริญญา/ปริญญาตรี คณะกลุ่มสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์ 50,000 – 60,000 บาท/ปี
  • อนุปริญญา/ปริญญาตรี คณะในกลุ่มศิลปกรรมศาสตร์ สถาปัตยกรรมศาสตร์ เกษตรศาสตร์ 70,000 บาท/ปี
  • อนุปริญญา/ปริญญาตรี คณะในกลุ่มสาธารณสุขศาสตร์ พยาบาลศาสตร์ เภสัชศาสตร์ 90,000 บาท/ปี
  • อนุปริญญา/ปริญญาตรี คณะในแพทยศาสตร์ สัตวแพทยศาสตร์ ทันตแพทยศาสตร์ 200,000 บาท/ปี
  • ปริญญา 80,000 – 200,000 บาท/ปี

สำหรับค่าครองชีพ หากอยู่ในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จะได้รับค่าครองชีพ เดือนละ 1,800 บาทต่อเดือน ส่วนในระดับชั้น ปวช.-อนุปริญญา ปริญญาตรี ปริญญาโท จะได้ทุนกยศ. เดือนละ 3,000 บาทต่อเดือนในปี 2566

ขอบเขตการโอนเงิน กยศ 2566
ภาพจาก : กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา

หากท่านใดสนใจกู้ยืม กยศ. อย่าลืมติดตามรายละเอียดกองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาในสถาบันของท่าน ทั้งผู้กู้รายใหม่และผู้กู้ต่อเนื่อง ที่สำคัญอย่าลืมเตรียมเอกสารและจำกำหนดการกู้ยืม ประจำปีการศึกษา 2566 หากพลาดขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งไป อาจจะต้องรอยื่นเรื่องใหม่ในปีการศึกษาหน้า

ขอบคุณข้อมูลจาก : กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.)

Wilasinee

นักเขียนที่ Thaiger เชี่ยวชาญข่าวบันเทิงและบทความไลฟ์สไตล์ จบการศึกษาด้านประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา จึงรู้ลึกรู้จริงทั้งเรื่องวิชาการและเทรนด์กระแสโซเชียลที่สำคัญ มีประสบการณ์เขียนบทความออนไลน์กว่า 2 ปี งานอดิเรกชอบติดตามข่าวเศรษฐกิจ การลงทุน ติดต่อได้ที่ wilasinee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button