จะจบไหม ? ตัวแทนจดทะเบียนฯ “ปังชา” แจงชัด เจตนายื่นโนติสร้านอื่น-ทำทำไม

คุณแอน ตัวแทนทีมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า เล่าในกรรมกรข่าว คุยนอจอ กับ สรยุทธ ระบุ เจตนายื่นโนติส Notice หรือ หนังสือทวงถาม ทำแบบนี้ทำไม ร่ายยาวตั้งแต่ปียื่นจด ความคุ้มครองที่ต้องการ ยืนยันไม่ได้มุ่งหวังฟ้องร้อง ไม่ตั้งใจเรียกเงิน รับเสียใจคิดแต่จะรักษาสิทธิ์ตัวเอง จนลืมผลกระทบถึงคนอื่น
วันที่ 31 สิงหาคม จากกรณีดราม่าลากยาว เครื่องหมายการค้า “ปังชา” ที่ทำวุ่น ผู้ประกอบการร้านอาหารดัง เดินหา้เล่ยนงานยื่นหนังสือโนติส เจรจาร้านค้ารายย่อย ทวงสิทธิ์ชื่อเรียกเมนูเครื่องดื่มยอดนิมยม บางร้านเรียกค่าเสียหาย 7 แสน บางร้านเรียกค่าเสียหาย 102 ล้านบาท สุดท้ายแม้ฝั่งจดทะเบียนกับกรมทรัพย์สินทางปัญญาจะออกมาขอโทษสังคม แต่ปมคาใจไยังไม่ยอมสงบ ทำให้ล่าสุดในรายการกรรมกรข่าว คุยนอกจอ สด เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา
คุณแอน ตัวแทนทีมจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของ”ปังชา” โดยเริ่มมาก็ได้มีการอธิบายเรื่องเครื่องหมายการค้า ตามเอกสารที่ได้รับมาจากการจดทะเบียนตั้งแต่ปี 2561 รวมถึงฉบับล่าสุดที่มีการแก้ไขปรับปรุงที่ทางร้านได้ใช้เวลาอีก 4 ปีพิสูจน์ความแพร่หลายทางธุรกิจว่าเป็นคำที่แพร่หลายมาจากธุรกิจของแบรนด์เอง จึงยื่นอีกในปี 2565 และล่าสุดทางกรมฯ ยอมให้จดทะเบียนในปี 2566
อย่างไรก็ตาม คุณแอนตัวแทนทีมจดทะเบียนฯ กล่าวยอมรับคำว่า “ปังชา” นั้นเป็น “คำสามัญ” แต่เจ้าของร้านอยากสร้างแบรนด์ของตัวเอง ประกอบกับได้รับคำแนะนำจากนายทะเบียนว่า ต้องไปทำแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก ทำให้เจ้าของจึงแยกร้านออกจากร้านลูกไก่ทอง เป็น “ปังชาคาเฟ่”
ต่อมา ปี 65 จึงมีการยื่นขอพิสูจน์ความบ่งเฉพาะเพิ่มเติม มีเอกสารหลักฐานการนำสืบต่าง ๆ ให้ กรมทรัพย์สินทางปัญญา
จากนั้น กรมฯ ให้สละสิทธิ์อักษรโรมันคำว่า “THE BEST THAI TEA” ซึ่งมีความหมายว่าชาไทยดีที่สุดใช้คนเดียวไม่ได้ แต่ไม่มีการสละสิทธิ์คำว่า “PANG CHA” (ปังชา) จึงตีความไปทางไหนไม่ได้ นอกจากว่าทางร้านได้รับสิทธิ์คำนี้และตามกฎหมายเครื่องหมายการค้าย้อนไปได้ถึงวันจดทะเบียน 28 ก.ย. 65
ในการสัมภาษณ์ล่าสุด ยังมีการเปิดเผยเนื้อหาที่ร้านได้แจ้งกับหน่วยงานที่รับขึ้นทะเบียนเครื่องหมายการค้าของทางกรมฯ ว่าคำว่า “ปัง” ที่พยายามนำเสนอ คือคำว่าปัง หมายถึงชื่อเสียงปัง ๆ โด่งดังมาก ๆ เพราะต้องการปั้นแบรนด์ให้ปังด้านชา ร้านภูมิใจมาก จึงมั่นใจตามเอกสารกรมทรัพย์สินทางปัญญาว่าคำว่า “PANG CHA” ทางร้านใช้ได้คนเดียว

ส่วนเจตนาการยื่นเอกสาร Notice ให้กับร้านอื่น ที่เฟซบุ๊กแฟนเพจ หมายจับกับบรรจง นำมาเปิดโปงจนหลายคนเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า เรื่องนี้จะมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลหรือไม่ ซึ่งทางคุณแอนก็ชี้แจงประเด็นนี้ล่าสุดอย่างละเอียด เริ่มจากข้อแรก เจตนาที่ยื่นหนังสือทวงถามไปให้ร้านค้ารายื่น เพียวต้องการจะคุ้มคอรงสิทธิ์ของตัวเอง โดยประสงค์เพัียงทำยังไงให้ยุติอีกฝ่ายได้ โดยไม่ต้องให้ใครต้องเสียหาย ไม่ได้มุ่งหวังฟ้องร้องเพราะไม่กำหนดชื่อบุคคล
ข้อที่ 2 เรื่องของเนื้อหาในโนติสที่รายละเอียดมีเป็นจำนวนมาก เพราะมองว่าเป็นการเจรจา อย่างไรก็ตามยอรับว่าเอกสารมีเนื้อหารุนแรงไป อาจเป็นความผิดพลาดของคนออกเอกสาร แค่คิดจะทำไงก็ได้ให้หยุดเร็ว
เรื่องตัวเลขค่าเสียหาย 102 ล้าน คุณแอน ระบุชัดเจนทางร้านกำหนดมาให้ ทีมกฎหมายก็ใส่ไป แต่ยืนยันว่าไม่ตั้งใจจะเรียกเงิน
ตัวแทนหญิงคนดังกล่าวที่โฟนอินสดกับสรยุทธ ยังยืนกรานถึงฐานคิด คือ เพียงต้องการมีสิทธิทำได้ใช้คนเดียว แต่พอกลายมาเป็นเรื่องราวสร้างปัญหาและความขัดแย้งให้เกิดขึ้น ดังนั้นจากนี้ไปใครอยากจะใช้คำว่า ปังชา ก็ยยิยอมให้ใช้ได้ ไม่ติดใจใด ๆ ทั้งสิ้นอีก.
ขอบคุณคลิป : Live “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” 31/08/66 สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว (@sorrayuth9115).
- ทนายเกิดผล แนะเหยื่อโนติสร้านปังชา ฟ้องกลับ
- สรุปจบ ดราม่าลิขสิทธิ์ปังชา ทนายนิด้าร่ายยาว 2 อีพี
- ดราม่าลิขสิทธิ์ ปังชา ยังไม่จบ แฉกลิ่นตุ โผล่เคสส่งโนติส 102 ล้าน