‘เศรษฐา’ อัดคลิปโต้ เผย ‘ชูวิทย์’ พูดข้อมูลเท็จ แถมส่งคนมาข่มขู่
เศรษฐา ทวีสิน อัดคลิปโต้กลับ ชูวิทย์ เผย ชูวิทย์ ไม่พอใจหนักถึงขนาดส่งคนมาขู่ อัดเลิกกล่าวอ้างด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จได้แล้ว
นาย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ได้โพสต์คลิปลงเฟซบุ๊กตอบโต้นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองที่ออกมาแฉเรื่องนอมินีแสนสิริและฟอกเงิน และได้มีการยื่นหลักฐานให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ตรวจสอบตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยในคลิปวิดีโอที่มีความยาวราวๆ 7 นาที นายเศรษฐา ได้ตอบโต้นายชูวิทย์โดยระบุว่า “สวัสดีครับ
ผมเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย และอดีตผู้บริหารบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในการทำธุรกิจของผม เป็นที่รับทราบและยอมรับของสังคมมาโดยตลอด วันนี้ผมออกมาพูดในฐานะที่เคยเป็นผู้บริหารบริษัทแสนสิริ และในฐานะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
บริษัทแสนสิริ ผ่านพ้นวิกฤติมาหลากหลายรูปแบบ ทีมงานทุกคนบริหารงานอย่างโปร่งใส ในรูปแบบของคณะกรรมการ ตามข้อบังคับของบริษัทและตลาดหลักทรัพย์ เราทำงานตามหลักธรรมาภิบาล แสนสิริ เติบโตในวงการอสังหาริมทรัพย์ อย่างมั่นคง เข้มแข็ง ไม่เคยถูกตั้งข้อกล่าวหา หรืแม้กระทั่งตั้งคำถามถึงความโปร่งใส ในการทำงานและการประกอบการของบริษัทแต่อย่างใด
ผมออกมาวันนี้เพื่อให้ข้อเท็จจริง และตอบคำถามของสังคมในกรณีการจัดซื้อที่ดินของแสนสิริและเรื่องนอมินี ในขณะที่ผมเป็นผู้บริหาร ผมยืนยันว่า ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน การซื้อขายที่ดินเพื่อประกอบการบริษัท เราดำเนินการด้วยความถูกต้องตามกฎหมายในทุกขั้นตอน ไม่เคยมีวิธีการนอกระบบกฎหมาย เพื่อเบียดบังผลประโยชน์ของรัฐ หรือ แสวงหาประโยชน์เป็นการส่วนตัว และขอปฏิเสธข้อกล่าวหาในทุกกรณีที่คุณชูวิทย์ นำมากล่าวอ้าง ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนให้เกิดความเสียหาย
ในทุก Episode ที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นำมาสร้างกระแสนั้น ไม่ว่าจะเป็นที่ดินแปลงสารสิน หรือที่ดินซอยทองหล่อ เป็นเรื่องเเบบเดียวกัน คุณต้องยอมรับว่า แสนสิริในฐานะผู้ซื้อ ทำธุรกรรมกับผู้ขายรายต่างๆ โดยชำระค่าที่ดินตามราคาตลาดที่สมเหตุสมผล สัญญาซื้อขายเป็นสัญญาต่างตอบแทน ผู้ซื้อและผู้ขายมีหน้าที่ต้องชำระหนี้ซึ่งกันและกัน รวมทั้งหน้าที่อื่นตามที่กฎหมายกำหนด บริษัทแสนสิริ คือ ผู้ซื้อ ซึ่งไม่สามารถที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ กระบวนการบริหารภายในของฝ่ายผู้ขายได้ในทุกขั้นตอน ฝั่งผู้ซื้อ ไม่มีนอมินี ไม่มีการปล่อยกู้ให้ผู้ขาย ความจริงเป็นการจดจำนองเพื่อเป็นประกันการปฏิบัติตามสัญญาและห้ามผิดสัญญาของบริษัทผู้ขาย และประกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นเป็นจำนวนเงิน 1,000 ล้านบาท มีหลักฐานชัดเจน ผมยืนยันไม่มีการทำสัญญากู้ครับ อีกทั้ง ไม่มีการสมคบคิดใดๆ และไม่เคยมีเงินทอนใดๆ กลับมาที่ผม หรือพนักงานแสนสิริคนไหนทั้งสิ้น แปลงโครงการคุณ บาย ยู มูลค่าที่ดินราคา 1,100,000 บาทต่อตารางวา เป็นราคาที่ถือว่าดีมาก ราคานี้ไม่มีเงินทอนให้ใครหรอกครับ ขอย้ำอีกครั้งว่า คุณชูวิทย์ต้องแยก ผู้ขาย กับ ผู้ซื้อให้ได้ อย่าบิดเบือน และแสนสิริไม่มีนอมินีแน่นอน หลังจากนี้คุณจะพูดเรื่องที่ดินอีกกี่แปลงก็ได้ คุณต้องแยกผู้ขาย กับผู้ซื้อให้ชัดเจน
คุณชูวิทย์ต้องใช้ความจริงที่ไม่บิดเบือน คุณโกรธเคืองที่บริษัทไม่ซื้อที่ดินคุณที่ซอย สุขุมวิท 24 เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว เราตกลงกันจากราคา 2,000 ล้าน เหลือ 1,800 ล้าน แต่ที่ดินคุณมีเงื่อนไขติดพันกับบริษัทไรมอนแลนด์ แสนสิริไม่สามารถซื้อที่ดินที่มีนิติกรรมซ้อนได้ คุณไม่พอใจ แต่เพราะเงื่อนไขของที่ดินคุณเอง แสนสิริเป็นบริษัทมหาชน ผมทำทุกอย่างถูกต้องตามกฎหมายทั้งหมด 100% และไม่มีอะไรที่ผิดกฎหมาย และรวมถึงไม่ผิดจริยธรรมใดๆ
ผ่านมา 10 เดือน ตั้งแต่กันยายนปีที่แล้ว จนมาถึงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ในวันที่พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล หลังจากที่ข่าวออกเรื่องมติพรรคเสนอชื่อผมในสภาเพื่อเป็น นายกรัฐมนตรี ผมโดนข่มขู่ คุณฝากข้อความผ่านคนใกล้ชิดของคุณมาสั่งให้ผมมัดจำเงิน เพื่อซื้อที่ดินของคุณ และทำ MOU แบบไม่มีเงื่อนไขในการซื้อขายที่ดินกับคุณ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด คุณไม่มีสิทธิ์มาข่มขู่ผม
คุณติดต่อผู้ใหญ่มากมายให้มาบอกผมว่า คุณจะแฉผม และทำทุกอย่างเพื่อให้ผมไม่เหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ถ้าจะให้ไม่แฉ ให้ผมตกลงซื้อที่ดินราคา 2,000 ล้านทันที แบบไม่มีเงื่อนไข ไม่งั้นคุณชูวิทย์จะเดินหน้า Discredit และด้อยค่าผมต่อไป
คุณชูวิทย์บิดเบือนไปถึงเรื่อง Digital Wallet ทำให้ประชาชนเข้าใจว่า นโยบายนี้จะเป็นการฟอกเงินผ่านทาง coin อะไรเลอะเทอะไปหมด ผมขอให้คุณชูวิทย์ อย่าได้เอาเรื่องนโยบาย Digital Wallet ของพรรคเพื่อไทยมาโจมตีอย่างไม่มีหลักการ โครงการนี้เป็นโครงการที่ดี มีผลประโยชน์ต่อประเทศอย่างมาก สามารถช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้เป็นจำนวนมากกว่า 50 ล้านคน และเป็นนโยบายสำคัญที่สุดอันหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทันที ทำให้ประเทศนั้นสามารถพลิกฟื้นกลับมาอีกครั้ง และงบประมาณทั้งหมดจะถูกส่งตรงไปยังประชาชนทุกคนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป
การที่ผมพูดความจริงในครั้งนี้ ผมรู้ว่าคุณชูวิทย์ต้องไม่พอใจและอาจจะไปฟ้องศาล ผมก็พร้อมที่จะนำพยานหลักฐานไปสู้คดีกับคุณชูวิทย์ในศาลต่อไป
ผม เศรษฐา ทวีสิน ชีวิตผมตรวจสอบได้หมดทุกอย่าง ลูกผมมีงานที่ดีทำทุกคนผมไม่มีอะไรต้องห่วง
ทุกคนเตือนผมว่า อย่าลงการเมือง มันเปลืองตัว ผมขอบคุณในความหวังดีของทุกคน
แต่ผม เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ผมตัดสินใจเอง ผมเข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติ และเศรษฐกิจให้ดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ผมตัดสินใจจะทำ จนถึงวันนี้ ผมมั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม
ผมย้ำอีกครั้ง…. ศัตรูของผม….คือความยากจน และความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของผม คือ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคน”
พร้อมกันนี้ยังได้เขียนข้อความกำกับว่า “ผม เศรษฐา ทวีสิน วันนี้ผมตัดสินใจเอง ผมเข้ามาตรงนี้เพราะอยากทำให้ประเทศชาติ และเศรษฐกิจดีขึ้น เพิ่มรายได้ให้ประเทศ ให้ประชาชนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น จากวันแรกที่ผมตัดสินใจจะทำ จนถึงวันนี้ ผมมั่นใจที่จะทำเพื่อประเทศชาติเหมือนเดิม
ผมย้ำอีกครั้ง ศัตรูของผม คือความยากจน และความไม่เสมอภาคของประชาชน เป้าหมายของผม คือ ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของคนไทยทุกคนครับ”
‘ชูวิทย์’ ยื่นหลักฐานให้ ‘บิ๊กโจ๊ก’ สอบ ‘แสนสิริ’ ปมฟอกเงิน-นอมินี