ฟาบินโญ่ กองกลางบราซิเลียน โพสอำลาแฟนๆ ลิเวอร์พูล แบบสุดซึ้ง หลังย้ายไปร่วมทีม อัล-อิตติฮัด สโมสรในศึกซาอุดิ โปร ลีก ประเทศซาอุดิอาระเบีย อย่างเป็นทางการ เมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา
ดาวเตะวัย 29 ปี ตกเป็นข่าวย้ายทีมมาตลอดเดือนที่ผ่านมา และไม่มีชื่อร่วมทีมทัวร์อุ่นเครื่องปรีซีซั่น ก่อนจะจรดปากกาเซ็นสัญญากับ อัล-อิตติฮัด เป็นเวลา 3 ปี หรือจนถึงสิ้นเดือนมิถุนายน ปี 2026 ส่วนค่าตัวการย้ายทีมนั้น ตามรายงานระบุว่า 40 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1,760 ล้านบาท)
ล่าสุดกองกลางตัวแกร่งได้ออกมาโพสอำลาลิเวอร์พูลแล้ว โดยมีใจความว่า “ผมรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันกับสโมสรนี้ ช่วงระยะเวลา 5 ปีผมเติบโตขึ้นในฐานะนักเตะ และในฐานะคนๆ หนึ่ง ฝันเป็นจริงผมเป็นจริงกับการสวมเสื้อตัวนี้ ผมคว้าแชมป์ทุกรายการที่นักเตะสามารถฝันถึง”
“ขอบคุณ ลิเวอร์พูล ผมก้าวไปถึงระดับสูงสุดของผม และได้เล่นฟุตบอลโลก ขอบคุณลิเวอร์พูล ที่เติมเต็มฝันของผมในการเดินเข้าไปในสนามพร้อมกับลูกชาย ขอบคุณลิเวอร์พูล ผมได้เล่นในสนามที่ดีที่สุดในโลก พร้อมกับบรรยากาศที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งนั่นก็คือแอนฟิลด์”
“ขอบคุณลิเวอร์พูล ผมได้มีโอกาสเล่นในแมตช์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิตของผม การคัมแบ็กในเกมกับ บาร์เซโลน่า ซึ่งต้องขอบคุณแอนฟิลด์ที่ทำให้เรื่องนั้นเป็นไปได้ ช่วงเวลานั้นจะอยู่ในความทรงจำของผมตลอดไป ผมพูดสิ่งนี้ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุข ผมรักสโมสรนี้ ขอบคุณ เดอะ เร้ดส์ สำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่เรามีประสบการณ์ร่วมกัน คุณจะไม่มีวันเดินเดียวดาย”
“วันนี้ผมได้ลาบ้านของผม มันเป็นช่วงเวลา 5 ปีที่ได้สวมเสื้อตัวนี้ มันช่างเป็นเกียรติสูงสุด และมีความสุขที่สุด นับตั้งแต่วันแรกที่มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ผมได้รับการโอบกอดจากทุกๆ คน”
Today I leave my home. It's been five years wearing this jersey and always with the greatest honor and happiness possible. Since day one at Liverpool, I've been embraced by everyone. What I saw inside this club, the relationship between the people there, made me feel like family.… pic.twitter.com/r2c7dOwKqV
— Fabinho (@_fabinhotavares) July 31, 2023
ฟาบินโญ่ ซึ่งเตรียมผนึกกำลังกับสตาร์ดังที่ย้ายมาก่อนหน้านี้แล้วอย่าง คาริม เบนเซม่า, เอ็นโกโล่ ก็องเต้ และ โชต้า ลุยศึก ซาอุดิ โปร ลีก ในฤดูกาลหน้าที่กำลังจะเปิดฤดูกาลต่อไป
ข้อมูลและภาพประกอบจาก : Fabinho
อัปเดตข่าวกีฬากับ The Thaiger : คลิก