เสรีพิศุทธ์ เปิดจุดยืน ทักษิณกลับมา ชี้เราคนไทยต้องกลับได้ ให้กฎหมายจัดการคดีความ ถามคนเสนอ ส.ว. หมดอายุอีก 10 เดือน เหมือนผลาญภาษีประชาชน ทนได้เหรอ
โหนกระแสวันนี้ ติดตามประเด็นร้อนระอุของการเมืองไทยขณะนี้ พิธีกร หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย เชิญ เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ถกประเด็น ทักษิณ ชินวัตร เตรียมเดินทางกลับไทย 10 สิงหาคมนี้ รวมถึงความเห็นต่อทางเลือกจัดตั้งรัฐบาล ท่าทีของแต่ละพรรค รวมถึงสูตรรอให้ ส.ว. หมดอายุค่อยเลือกนายกฯ ว่าทำได้จริงหรือไม่ หลังจากที่หลายสายตาจับจ้องท่าทีของพลตำรวจเอกเสรีพิสุทธ์ว่าจะแตกแถว 8 พรรคร่วมรัฐบาลหรือไม่
ส่วนประเด็นที่ก้าวไกลระบุว่า ไม่มีเพื่อนเป็นเผด็จการ เสรีพิสุทธ์มองว่า แล้วจะทำอย่างไร หากต้องการเป็นรัฐบาลและพรรคอื่นก็ไม่เอา ได้รับโอกาสจัดรัฐบาลแต่ทำไม่ได้ เสนอชื่อ พิธา ไม่ได้ เสนอชื่อคนใหม่ไม่ได้เพราะส่งแคนดิเดตคนเดียว รวมถึงคุณสมบัติของพิธาที่เป็นประเด็น เป็นประเด็นที่ก้าวไกลสร้างขึ้นเอง คิดไม่รอบคอบแล้วจะไปโทษใคร
หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า หาก 8 พรรคจับมือกันต่อไป จะสามารถหาทางออกอื่นได้หรือไม่ รวมถึงสูตร ส.ว. ระเหิด จับมือให้ถึง 10 เดือนทำได้จริงไหม เสรีพิสุทธ์ตอบว่า ทุกฝ่ายทั้ง ส.ส. และ ส.ว. กำลังหลงประเด็น เพราะขณะนี้เข้าสู่ช่วงของการเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่เลือกพรรคร่วม
ส่วนประเด็นที่ไม่ต้องให้ ส.ว. โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี แล้วรออีก 10 เดือนให้ ส.ว. หมดอายุ เสรีพิสุทธ์กล่าวว่า ผู้เสนออาจพูดเพื่อประโยชน์ของกลุ่มตนเองหรือดูกฎหมายไม่ครบ เพราะตามรัฐธรรมนูญมาตรา 269 วงเล็บ 6 เขียนว่า เมื่ออายุ ส.ว. สิ้นสุดลงก็ให้รักษาการณ์ต่อไปจนกว่าจะได้สมาชิกวุฒิสภาชุดใหม่ ซึ่งต้องเกิน 10 เดือนอยู่แล้ว
เสรีพิสุทธ์ชี้ว่า หากไปเปิดรัฐธรรมนูญดู ส.ส. เริ่มรับเงินเดือนกันตั้งแต่ 14 พฤษภาคม 2566 คนละแสน 500 คนก็ห้าร้อยล้าน รัฐต้องเสียเงินเดือน บินฟรี ประชุมฟรี ไม่ทำงานแต่รับเงินเดือน 2 ปี ทนไหวเหรอหากรับเงินเดือนฟรีในขณะที่ประชาชนทำงานได้วันละ 300 500 บาท
ต่อมา หนุ่ม กรรชัย ได้ถามความเห็น รศ.ดร. โอฬาร ถิ่นบางเตียว อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา มองว่า สูตรรอ ส.ว. หมดอายุ 10 เดือน ทางการเมืองทำได้ แต่มิติอื่นเช่น เศรษฐกิจ สังคม อาจเกิดผลกระทบ MOU เป็นชั้นเชิงทางการเมือง ที่จะทำให้เพื่อไทยขยับตัวลำบาก เพราะนักการเมืองคือศิลปินผู้ใช้อำนาจอย่างมีศิลปะ
ในขณะที่เสรีพิสุทธ์เห็นต่างว่า MOU ขณะนี้เพื่อไทยมีอำนาจชอบธรรมที่จะจัดตั้งรัฐบาล MOU ควรสลายไปโดยปริยาย เพื่อไทยไม่ต้องยึดติด ถือว่ามันจบแล้ว
ก่อนที่หนุ่ม กรรชัย จะยิงคำถามสำคัญว่า เสรีพิสุทธ์กำลังผลักก้าวไกลเสียสละเป็นฝ่ายค้าน และให้เพื่อไทยจับมือขั้วรัฐบาลเก่าตั้งรัฐบาลหรือไม่
เสรีพิสุทธ์ระบุว่า ตนเคยมีประสบการณ์มาก่อนตอนปี 34 รัฐบาลโดนยึดอำนาจ ต้องมีคนเสียสละ เหมือนเรือในทะเลเกิดเจอคลื่นลม หากมีคนแก่ คนเจ็บ เด็ก ผู้หญิง คนหนุ่ม ไอหนุ่มจะไปแย่งเหรอ แต่กลับไม่เข้าใจว่าในสภา ทำไมให้คนหนุ่มทำงาน คนแก่อย่างตนไปได้แล้ว
ตนไม่ได้บอกให้ก้าวไกลเสียสละไปเป็นฝ่ายค้าน เสียสละคือถอยให้เพื่อไทยจัด เพราะตอนก้าวไกลจัด เพื่อไทยก็ให้อิสระ แต่ตอนนี้เพื่อไทยติดบ่วงก้าวไกล ควรถอนนโยบาย 300 นโยบายออกไปก่อน แล้วมาทำนโยบายปากท้องประชาชนให้สำเร็จ
ส่วนเรื่องที่ว่าหากก้าวไกลถอยแล้วจะได้กลับมาร่วมรัฐบาลอีกหรือไม่ เสรีพิสุทธ์บอกว่า อย่าหลงประเด็น ใครถามก็ไม่ต้องตอบ ไม่ใช่หน้าที่ ให้เลือกนายกรัฐมนตรีให้เสร็จก่อน แล้วที่เหลือให้เดินไปตามรัฐธรรมนูญ
โดยสูตรจัดตั้งรัฐบาลตามรูปแบบของเสรีพิสุทธิ์คือ ก้าวไกลสนับสนุนเพื่อไทยทั้ง 151 เสียง ที่เหลือให้เพื่อไทยไปหามา หากหาไม่ได้ก็ให้ภูมิใจไทยจัด หากภูมิใจไทยจัดไม่ได้ก็ให้พลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติจัด หากจัดไม่ได้ก็นายกคนนอก
ด้านอาจารย์โอฬารประเมินว่า ก้าวไกลน่าจะรู้ดีว่าสถานการณ์ตอนนี้ค่อนข้างยากที่จะเป็นรัฐบาล แต่ไม่ปล่อยจนกว่าเพื่อไทยจะเลือดท่วมตัว รอให้เพื่อไทยฉีก MOU แต่มีราคาที่ต้องจ่ายสูงมาก เพื่อไทยจึงไม่ประกาศอาจส่งผลกระทบต่อการเลือกตั้งครั้งหน้า มี MOU เป็นบ่วงคล้องคอ
ส่วนประเด็นทักษิณจะกลับมา มีนัยทางการเมืองหรือไม่ เสรีพิสุทธ์กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะไม่ได้ติดต่อกันเลยตั้งแต่ออกจากประเทศ ส่วนตัวมองว่าเราคนไทยก็กลับได้ กลับมารับโทษตามกระบวนการ มันก็มีกฎหมายอยู่ ยอมรับว่าทักษิณเป็นคนมีความสามารถ ตั้งแต่เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจและนักธุรกิจ กลับมาก็ดีจะได้นำความรู้มาช่วยบริหารประเทศได้
ส่วนเหตุผลที่ยอมจับมือกับประวิตรได้ แต่ไม่เอาประยุทธ์เป็นเพราะตนต้านการปฏิวัติ ยึดอำนาจมาโดยตลอด ประยุทธ์คือคนปฏิวัติ แต่ประวิตรคือคนที่ถูกเชิญมาร่วมทำงานเท่านั้น ดังนั้นจึงรับคนอื่นได้ แต่ไม่รับประยุทธ์คนเดียว
