ข่าวข่าวต่างประเทศ

เชฟสุดซวย หิ้วชาจากไทยไปญี่ปุ่น พบส่วนผสมกัญชา โดนขึ้นบัญชีดำ

คุณปุ๊ก สรปุก แชร์ประสบการณ์เชฟร้านอาหารเพื่อนของแม่ ถูกตำรวจจับกุมที่สนามบินประเทศญี่ปุ่น ตรวจพบส่วนผสมกัญชาในชาจากเมืองไทย ที่ตนซื้อกลับไปฝากครอบครัว พร้อมโทษจำคุกแถมซวยโดนแบล็คลิสต์ขึ้นบัญชีดำ

เมื่อวันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566 เฟสบุ๊ค Pook Sukonta Berthebaud หรือ คุณปุ๊ก สรปุก ได้โพสต์แชร์ประสบการณ์ เชฟร้านอาหารเพื่อนของแม่ หิ้วชาจากประเทศไทยกลับไปฝากครอบครัวที่ประเทศญี่ปุ่น ก่อนจะโดนรวบตัวจับกุมที่สนามบิน เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าชาที่ซื้อมามีส่วนผสมของกัญชา โดนจำคุกล่าสุด 3 อาทิตย์แล้ว พร้อมถูก ตม. ขึ้นบัญชีดำ ซวยซ้ำซวยซ้อน

เตือนอุทาหรณ์นักท่องเที่ยวเกี่ยวกับข้อกฎหมาย การซื้อของขณะเดินทางไปต่างประเทศ จะฝากอะไรเช็กให้ดี เพราะประเทศญี่ปุ่นยังไม่เปิดกัญชาเสรี ทั้งนี้ เนื้อหาภายในโพสต์ของคุณปุ๊ก สรปุก ได้เขียนอธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นจนจบเอาไว้ว่า

“อันนี้เป็นเหตุการณ์จริงที่เกิดขึ้นกับเชฟที่ร้านอาหารเพื่อนของแม่ที่ประเทศญี่ปุ่น แม่บอกข่วยเขียนให้ที ไม่อยากให้ใครโดนแบบเดียวกันโดยได้รับอนุญาตจากเจ้าของเรื่องแล้ว เรื่องเกิดจากเจ้าของร้านฝากน้องสาวซื้อชาจากไทยมาให้ โดยขอให้เชฟที่กำลังจะบินมาทำงานถือมาให้ เชฟก็เดินทางมาปกติ พอถึงสนามบินที่ญี่ปุ่น ก็ถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองกักตัว เพราะเจอวัตถุต้องสงสัย ซึ่งก็คือชาของเจ้าของร้าน

พอเจ้าหน้าที่นำชาไปตรวจสอบ ก็พบว่าชาถุงนี้มีกัญชาเป็นส่วนผสมหลัก ซึ่งในญี่ปุ่น กัญชายังไม่เสรี อย่าหาพกไปกันเด้อสาว สุดท้ายก็เลยถูกจับกุม ซึ่งเจ้าของร้านก็มารอตั้งแต่เข้าจนค่ำที่ประตูทางออกก็ไม่มีใครมา เลยติดต่อเจ้าหน้าที่ไปว่าเกิดอะไรขึ้น ก็โดนเรียกไปสอบปากคำกว่าจะเสร็จก็ตีสอง อยากให้เข้าใจตรงกันว่า ยาเสพติดสำหรับเมืองอันแสนสงบแบบญี่ปุ่นคือเรื่องใหญ่มาก แล้วคนไทยก็ขยันขนเข้าไปทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ

หลังจากเชฟถูกจับกุม ฝ่ายปราบปรามยาเสพติดก็เข้าตรวจร้านอาหารของเพื่อนแม่และมาค้นบ้านด้วย ว่าเป็นเครือข่ายยาเสพติดหรือเปล่า แต่ก็ไม่พบพิรุธใด ๆ เลยตรวจสอบมือถือ โดยให้เจ้าของร้านโทร. คุยกับน้องสาว ก็ไม่พบการสั่งกัญชาใด ๆ ข้อเท็จจริงเรื่องถูกร้านชาแกงใส่กัญชามาจึงรับฟังได้ แต่ก็ต้องเป็นไปตามกระบวนตามกฎหมาย

สรุปจนวันนี้ 3 อาทิตย์แล้ว เชฟก็ยังถูกจับกุมอยู่ ถูกแบล็กลิสต์และยังไม่รู้จะรอดจากข้อหาขนยาเสพติดเข้าประเทศหรือไม่ ซวยแท้ ๆ ส่วนในภาพคือเหตุการณ์จริงตอนน้าเจ้าของร้านอาหารถ่ายระหว่างรอรับเชฟที่สนามบิน วุ่นวายกันไปทุกฝ่าย”

เรียกว่าอยู่ดีไม่ว่าดี มาเที่ยวประเทศไทยครั้งเดียวได้ขึ้นบัญชีดำพร้อมติดคุกจนถึงตอนนี้ก็ 3 อาทิตย์แล้ว ดังนั้นใครที่เป็นสายเที่ยวสายหิ้ว ชอบซื้อของฝากครอบครัว ควรตรวจสอบให้ดีก่อนว่าของที่เราซื้อมานั้นถูกกฎหมายของประเทศนั้น ๆ ด้วยรึเปล่าไม่ว่าจะเป็นการเอาออกหรือนำเข้า เช็กก่อนให้ชัวร์ จะได้ไม่ต้องประสบพบเจอกับเหตุการณ์ดังกล่าวนะครับ.

ขอบคุณข้อมูลจาก : Pook Sukonta Berthebaud

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button