จับได้แล้ว คนโกงบัตรคอนเสิร์ต Blackpink 2023 เนียนขายตั๋วทิพย์
อัปเดตความคืบหน้า รวบตัวสาวแสบ “โกงบัตรคอนเสิร์ต BLACKPINK’s BORN PINK World Tour Bangkok 2023” บลิ๊งค์ชาวไทยสุดระทมจิต ซื้อตั๋วทิพย์แต่อดดูคอนเสิร์ตวันจริง
เมื่อวันพุธที่ 31 พฤษภาคม 2566 แจ้งข่าวดีรับสิ้นเดือนนี้ จับได้แล้วคนโกงบัตรคอนเสิร์ต Blackpink 2023 (BLACKPINK’s BORN PINK World Tour Bangkok 2023) หลังจากที่เหล่าด้อม BLINK สุดช้ำ อดเข้าคอนเสิร์ต “BLACKPINK” ทั้งที่เฝ้ารอการโคจรมาที่ประเทศไทยอย่างใจจดใจจ่อ
สืบสาวราวเรื่องจนพบมิจฉาชีพสาวแสบ นามว่า “ดิสโก้ เจ้าแม่ E-ticket” แฝงตัวตีเนียนเป็นผู้ขายตั๋วทิพย์เข้าคอนเสิร์ต หลังจบคอนเสิร์ตเหล่าสาวกผู้ประสบชะตากรรมรวมตัวจองกฐิน เข้าแจ้งความดำเนินคดี พร้อมล่าตัวเจ้าแม่รายนี้ ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) กำชับให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริตจำนวนมาก
โดยชุดลาดตระเวนออนไลน์ บก.สส.บช.น. ร่วมกับชุด PCT5 ได้ทราบถึงความเดือดร้อน ล่าสุด พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ทราบเบาะแส นำกำลังชุดสืบนครบาล และ PCT5 ไล่ล่าจับกุมตัว น.ส.ณัฐริกา หรือดิสโก้ เจ้าแม่ตั๋วทิพย์ได้ ตรวจสอบแล้ว มีผู้เสียหายจำนวนมาก เสียหายกว่า 7 แสนบาท ขยายผลถึงแผนประทุษกรรมเจ้าแม่รายนี้คือ “ขายตั๋วซ้ำๆ” ขายตั๋วหมดแล้วก็เอาตั๋วใบเดิมกลับมาวนขายให้คนอื่นอีก
เจ้าตัวอ้าง “คืนเงินแล้ว” ดราม่าเรียกน้ำตาจากชุดจับกุม โดยผู้การจ๋อทิ้งท้ายว่า “แม้ลุงคนนี้จะพาวง BLACKPICK กลับมาให้น้องๆชมตัวเป็นๆไม่ได้ แต่ก็ขอจับกุมคนร้ายที่ทำร้ายจิตใจน้องๆให้ได้รับโทษตามกฏหมาย”
พฤติการณ์ดังกล่าว คือ สืบเนื่องจากมหกรรมคอนเสิร์ตวง Blackpink ที่ผ่านมาไม่นาน ชุดลาดตระเวนออนไลน์ของสืบนครบาล ได้พบเบาะแส ว่ามีการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ต เป็นจำนวนมาก ซึ่งมีผู้เสียหายหลายรายซึ่งเป็นเหล่าแฟนคลับต่างได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนออนไลน์ชุด pct5 และสืบนครบาล ได้สืบสวนแกะรอยจนทราบว่าคือ น.ส.ณัฐริกา หรือดิส อายุ 26 ปี
ซึ่งเป็นบุคคลตามหมายจับ และมีคดีเกี่ยวกับการฉ้อโกงบัตรคอนเสิร์ตกว่า 9 คดี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ติดตามจับกุมตัว จนทราบว่าผู้ต้องหาหลบหนีไปอยู่ในละแวก ซ.ไมยราบ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบก็ได้เบาะแสผู้ต้องหาจากชาวบ้านในพื้นที่
เพราะพฤติกรรมหวาดระแวงและหลบๆซ่อนๆของผู้ต้องหา จนกระทั่งสามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาได้ที่ อพาร์ทเมนท์ ซ.เนียมกล่ำสามัคคี 2 แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กรุงเทพฯ
ไทม์ไลน์คดีโกงบัตรคอนเสิร์ต แบล็คพิงค์ 2023
ในกระบวนการชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนหาเงินได้จากคอนเสิร์ตต่าง ๆ ที่จัดขึ้นในประเทศไทย โดยเฉพาะคอนเสิร์ต Black Pink ที่มีคนไทยให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ตนเห็นช่องทางหารายได้ จึงรับกดบัตรทางออนใลน์ โดยให้กลุ่มเพื่อนและน้องสาวช่วยกันกดซื้อบัตรเพื่อนำมาขายต่อให้กับสาวก Black Pink ในประเทศไทย โดยได้จองบัตรคอนเสิร์ต Black Pink ในราคา 9,600 บาท
ซึ่งเป็นบัตรนั่งราคาแพงที่สุดได้มาประมาณ 200 ใบ จากนั้นตนจึงนำมาขายต่อในราคาใบละ 15,000-30,000 บาท มีผู้ต้องการซื้อจำนวนมากนับหมื่นคน จนขายหมดทั้ง 200 ใบ ได้กำไรหลายแสนบาท แต่ยังมีลูกค้ามาขอซื้อต่อจากตนเรื่อยๆ ตนจึงเกิดความโลภ และเห็นว่าตั๋วทั้งหมดเป็นตั๋วแบบอิเล็กทรอนิกส์ (E-ticket) จึงมีการนำบัตรที่มีการขายไปแล้ว วนขายซ้ำให้ผู้ที่มาขอซื้อ
จนวันจัดคอนเสิร์ต Black Pink เกิดปัญหาตั๋วที่นั่งเดียวมีคนไปแสดงตัวเป็นเจ้าของหลายคน ทำไมให้ตนผู้มีชื่อเป็นเจ้าของบัตรดังกล่าวจึงโดนติดตามตัว และโดนแจ้งความดำเนินคดี แต่ตนก็ได้ทยอยคืนเงินให้ผู้เสียหายบางคนแล้ว แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้เงินคืนเพราะตนไม่มีเงินแล้ว
จึงหนีจากที่อยู่เดิมไปกบดานอยู่ที่แถวลาดพร้าวจนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว ตนยอมรับผิดและจะพยายามหาเงินมาคืนให้ผู้เสียหายทุกคน น.ส.ณัฐริกาฯ กล่าว” หลังจากจับกุมตัว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้นำตัว น.ส.ณัฐริกาฯ ผู้ต้องหา ส่งที่สภ.หนองแค จ.สระบุรีเพื่อดำเนินคดีตามกฎหายต่อไป
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “เราไม่ปักใจเชื่อในคำให้การหรือคำแก้ตัวของคนร้ายรายนี้แม้จะมีการเรียกน้ำตาความน่าสงสาร เพราะพยานหลักฐานจากฝ่ายผู้เสียหายนั้นมัดแน่น คนร้ายเป็นสาวโปรไฟล์ดี หาเงินจากการขายบัตรคอนเสิร์ตให้สาวกซุปเปอร์สตาร์ได้จำนวนมาก แต่จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมติดพนันออนไลน์ เมื่อเสียเงินจากพนันออนไลน์จนหมดตัว
ทำให้เกิดความโลภ คิดคดโกงหาเงินแบบรวดเร็วเพื่อเอามาเล่นพนันออนไลน์อีก จนผู้เสียหายรวมกลุ่มติดตามคนร้ายจำนวนมากเพื่อเอาเงินคืน คนร้ายไม่มีเงินคืนจึงหลบหนี มันไม่เพียงแต่เป็นการฉ้อโกงเท่านั้น แต่การที่เหล่าแฟนคลับศิลปินต่างประเทศจะได้พบตัวเป็นๆของเหล่าดาราที่ตนเองชื่นชอบนั้น มีโอกาสเพียงน้อยครั้ง และยังมาถูกตัดโอกาสเช่นนี้ มันไม่เพียงแค่เรื่องเงิน แต่มันเป็นเรื่องทางจิตใจด้วย
หากมีผู้เสียหายคนใดยังไม่เข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็สามารถเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่เกิดเหตุเพื่อเอาผิดกับคนร้ายเพิ่มเติมได้ และหากมีคดีที่ก่อให้เกิดความเดือนร้อนของประชาชนสามารถแจ้งมาทางช่องทางเฟสบุ๊คเพจ สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่พร้อมให้คำแนะนำตลอด 24 ชั่วโมง
แม้ไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์แต่หากเป็นเรื่องความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.”
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังได้ตรวจสอบพบประวัติการถูกดำเนินคดีกว่า 9 คดี ประกอบด้วย
1. วันที่ 21 เม.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกงทรัพย์ทางออนไลน์” พื้นที่ สภ.หนองแค จ.สระบุรี
2. วันที่ 18 ต.ค. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
3. วันที่ 15 พ.ย. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
4. วันที่ 9 ธ.ค. 65 ก่อเหตุ “ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ” พื้นที่ สภ.ปากเกล็ด จ.นนทบุรี
5. วันที่ 21 ธ.ค. 65 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
6. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
7. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
8. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
9. วันที่ 8 ม.ค. 66 ก่อเหตุ “ฉ้อโกง , นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ” พื้นที่ สน.ปทุมวัน
อย่างไรก็ตาม ผลการปฏิบัติโดย พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ,พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. ,พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. / หน.PCT ชุดที่ 5 ,พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. / รอง หน. PCT ชุดที่ 5 ,พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น.
สั่งการให้ พ.ต.ท.มาโนชย์ ทองแก้ว ,พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร , ร.ต.อ.พลวัต นาคถมยา , ร.ต.ท.ณัฐวุฒิ อันชูฤทธิ์ รอง สว.(สอบสวน) สน.ดินแดง , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 และ ชุดสืบนครบาล (บก.สส.บช.น.) นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัว
อ้างอิง : 1