เรื่องชีสๆ ของชีสเลิฟเวอร์ กับประโยชน์ของชีส ที่หลายคนไม่เคยรู้
หลายคนคงเคยคิดว่า ชีสเป็นอาหารที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย โดยเฉพาะกลุ่มคนที่ควบคุมน้ำหนักหรือคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ที่คิดว่าชีสกินแล้วทำให้อ้วน เป็นโรคความดัน และยังมีแคลอรี่สูง เพราะชีสเต็มไปด้วยไขมันและโซเดียม แต่รู้หรือไม่จริง ๆ แล้ว “ประโยชน์ของชีส” นั้นมีมากกว่านั้น ทั้งโปรตีน วิตามิน และแคลเซียมที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ เพียงแต่การกินชีสนั้นต้องเลือกชนิดที่เหมาะสมกับร่างกายและเลือกกินคู่กับอาหารที่หลากหลาย อย่างเช่นอาหารประเภทที่มีไฟเบอร์สูง วันนี้เราจะชวนมาดูประโยชน์ของชีสที่หลายคนยังไม่รู้กัน
ประโยชน์ของชีส ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
1. ช่วยเสริมสร้างกระดูก
ส่วนประกอบของชีสมีแคลเซียมอยู่เป็นจำนวนมากพอที่จะไปช่วยเสริมสร้างให้กระดูกของเราแข็งแรงมากยิ่งขึ้น นอกจากนั้นชีสยังเต็มไปด้วยโปรตีนและวิตามินดีที่ส่งผลดีต่อมวลกระดูก ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคกระดูกพรุนได้
2. สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
โปรตีนที่อยู่ในชีสเป็นโปรตีนประเภทที่มีคุณภาพดี หรือที่เรียกว่าเคซีน (Casein) ซึ่งเป็นโปรตีนชนิดที่มีอยู่ในนม เคซีนจะช่วยเพิ่มกรดอะมิโนที่จำเป็นให้กับร่างกาย และมีคุณสมบัติในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรงอีกด้วย
3. ทำให้ฟันแข็งแรง ป้องกันฟันผุ
นอกจากโปรตีนและแคลเซียมแล้ว ในชีสยังมีโพรไบโอติกด้วย ซึ่งโพรไบโอติกเป็นแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่จะไปทำหน้าที่ลดจำนวนแบคทีเรียในช่องปาก ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดฟันผุและโรคต่างๆ ในช่องปาก
4. ลดความอ้วน
หลายคนอาจคิดว่ากินชีสแล้วได้รับแคลอรี่สูง แต่รู้หรือไม่ในชีสมีคุณสมบัติพิเศษอย่างหนึ่งที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ แม้ในขณะที่เราไม่ได้ออกกำลังกาย อย่างตอนนั่งทำงานหรือนั่งดูโทรทัศน์ ไขมันในชีสจะทำให้ร่างกายรู้สึกอิ่มนานขึ้น ไม่หิวบ่อย และทำให้กินน้อยลง ดังนั้นคนที่กำลังควบคุมน้ำหนักอยู่ก็สามารถกินชีสได้ด้วยเช่นกัน
5. ระบบย่อยอาหารและการไหลเวียนโลหิต
ในร่างกายของเราจะมีแบคทีเรียชนิดหนึ่งที่ช่วยในการย่อยอาหาร การกินชีสจะไปช่วยกระตุ้นให้ร่างกายของเราผลิตแบคทีเรียชนิดนี้มากขึ้น ซึ่งเป็นผลดีต่อระบบย่อยอาหารและยังส่งผลต่อการไหลเวียนของโลหิต
6. บำรุงหัวใจ
ในชีสจะมีกรดไขมันชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าบิวไทเรต ซึ่งมีส่วนช่วยบำรุงหัวใจให้แข็งแรงมีสุขภาพดี และยังมีสารเรสเวอราทรอล (Resveratrol) ที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระชนิดหนึ่งที่อยู่ในชีส ซึ่งสามารถช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหัวใจได้อีกด้วย
7. สร้างพลังงาน
ในชีสมีไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นพลังงานให้ร่างกายรู้สึกตื่นตัวได้ เมื่อกินชีสเข้าไป ไขมันอิ่มตัวจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายผลิตพลังงาน และร่างกายจะนำพลังงานในส่วนนี้ออกมาใช้งาน ทำให้ร่างกายมีแรงในการทำกิจกรรมมากขึ้น
8. ลดความเสี่ยงเป็นเบาหวาน
ประโยชน์ของชีส อีกอย่างมาจาก กรดไขมันทรานส์ปลามิโทเลอิก หรือ Trans-palmitoleic Acid ในชีส จะช่วยลดความเสี่ยงไม่ให้เป็นโรคเบาหวานได้ประมาณ 60% แถมยังมีส่วนช่วยควบคุมคอเลสเตอรอลและอินซูลินให้อยู่ในระดับมาตรฐาน รวมทั้งมี LDL-Cholesterol ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นยังป้องกันอาการอักเสบต่าง ๆ อีกด้วย
รู้จักกับชีสชนิดต่าง ๆ ทั่วโลก
ชีส เป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่ทำมาจากนมของวัว แกะ หรือแพะ เป็นโปรตีนน้ำนมที่มีน้ำตาลแล็กโทสน้อยและมีความเป็นเนื้อสัตว์มากกว่า แถมให้คุณค่าทางโภชนาการที่สูงมาก จะมีแคลเซียมที่มากกว่าในน้ำนมถึง 2 เท่า มีโปรตีน วิตามินดี ที่ช่วยให้กระดูกและกล้ามเนื้อแข็งแรง มีวิตามินบี 12 ที่มีส่วนช่วยบำรุงประสาท
รวมถึงแร่ธาตุสังกะสี ฟอสฟอรัส ไขมัน และแร่ธาตุอีกมากมาย ที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากการเป็นโรคต่างๆ เช่น กระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อม ลดคอเลสเตอรอล ลดความเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวาน ช่วยควบคุมน้ำหนักได้ดีอีกด้วย หลายคนที่ไม่ถนัดกินชีสเพียวๆ แนะนำให้ลองหาเมนูอาหารจากชีสทำง่ายๆ ก็จะช่วยให้การทานชีสอร่อยและสนุกมากยิ่งขึ้น โดยชีสแบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 ชนิด ดังนี้
1. ชีสนุ่ม Soft Cheese
ชีสชนิดนี้จะเป็นครีมสีขาว รสชาติคล้ายครีม มีความเข้มข้น นุ่มลิ้น เวลากินจะรู้สึกเหมือนละลายในปาก และใช้เวลาในการบ่มน้อย เช่น บรีชีส Brie Cheese กามองแบร์ชีส Camembert Cheese และ Neufchatel Cheese ซึ่งชีสประเภทนี้ทั่วไปแล้วจะนิยมกินคู่กับไวน์ขาว
2. ชีสกึ่งแข็งกึ่งนุ่ม Semi Cheese
เป็นชีสที่ใช้เวลาบ่มนานกว่า Soft Cheese แต่น้อยกว่า Hard Cheese มีด้วยกัน 2 ชนิดหลัก คือ
Semi-Soft Cheese
ชีสชนิดนี้จะไม่เข้มข้นมาก มีรสชาติอ่อนๆ และมีความชื้นสูง เช่น Havarti, Munster, Milleens, Port Salut, Provolone เป็นต้น
Semi-Hard Cheese
เนื้อของชีสชนิดนี้จะไม่นิ่มและไม่แข็งมาก และยังมีความชื้นน้อย เช่น Cheddar Cheese, Gouda Cheese
3. ชีสแข็ง Hard Cheese
เป็นชีสที่คนส่วนใหญ่จะคุ้นเคยมากที่สุด มีลักษณะเหมือนเนยแข็งสีเหลือง ใช้เวลาบ่มนานกว่าชีสชนิดอื่นๆ เนื้อค่อนข้างแข็ง หนา ไม่ค่อยชื้นมากนัก ชนิดของชีสประเภทนี้ได้แก่ ชีสพาร์เมซาน Parmesan Cheese ชีสเพโคริโน Pecorino Romano Cheese เป็นต้น
Tips 3 ข้อของการกินชีส ที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้
1. กินชีสไม่อ้วน
ใครที่คิดว่ากินชีสแล้วอ้วนขอให้ลืมไปได้เลย เพราะชีสเป็นโปรตีนและไขมันที่สกัดมาจากน้ำนมสด แต่ที่อ้วนนั้นเกิดจากนมสดที่มีการปรุงแต่งเป็นรสต่างๆ รวมถึงชีสที่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติ แต่ถ้าเรากินชีสแท้ๆ ที่ปราศจากการปรุงแต่ง รับรองเลยว่าไม่ทำให้อ้วนอย่างแน่นอน
2. กินชีสแท้ดีกว่า
ในขั้นตอนการทำชีส เมื่อเปรียบเทียบแล้ว ในน้ำนมจำนวน 1 ลิตร จะสกัดออกมาเป็นชีสได้ 100 กรัม ดังนั้นหากเรากินมอซเซอเรลลาชีส (Mozzarella) น้ำหนักเพียง 10 กรัม จะเท่ากับได้ดื่มนมสด 100 กรัม หรือประมาณ 1 แก้วเลยทีเดียว ซึ่งนั่นเท่ากับว่าการกินชีสแท้มีประโยชน์ต่อร่างกายมาก
3. กินชีสคู่กับโปรตีนและอาหารไฟเบอร์สูงยิ่งดีต่อสุขภาพ
การกินชีสคู่กับอาหารชนิดต่างๆ เช่น ไก่ แอปเปิล มะเขือเทศ บรอกโคลี รวมถึงเลือกชีสแบบนิ่ม ทำสดใหม่ มีจำนวนปริมาณเกลือไม่มาก จะได้โปรตีนสูง หรือจะกินเป็นอาหารว่าง กินแทนขนม ก็ดีต่อสุขภาพเช่นกัน
ประโยชน์ของชีส มีมากมายกว่าที่หลายคนเข้าใจ โดยเฉพาะในปัจจุบันนั้น เมนูอาหารหรือขนมที่ทำจากชีส หรือมีส่วนประกอบจากชีสนั้น กำลังเป็นเทรนด์ยอดนิยมเป็นอย่างมาก เพราะชีสไม่เพียงแต่มีรสชาติอร่อย แต่ยังเต็มไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ และจำเป็นต่อร่างกายมากมาย ส่วนใครที่กำลังมองหาวัตถุดิบชีส
ไม่ว่าจะเป็นของสดหรือของแห้ง อย่าลืมแวะมาที่ ศูนย์การค้า เดอะ สตรีท รัชดา – The Street Ratchada ศูนย์การค้าของคนนอนดึก แหล่งรวมไลฟ์สไตล์มอลล์และฟู้ดแลนด์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ใจกลางย่านรัชดา ที่รวบรวมวัตถุดิบคุณภาพเยี่ยม แถมยังเป็น Food Destination รวบรวมร้านอาหารคลีนและไลฟ์สไตล์เพื่อสุขภาพมากมายไว้ในที่เดียว รอให้คุณมาอิ่มอร่อยได้ตลอด 24 ชม.
ที่มา : บทความสปอนเซอร์