ทรมานกว่าที่คิด โรคร้ายที่เกิดจากการสูบบุหรี่ หายนะของคนสูดควันบุหรี่
ชวนรู้จัก วันงดสูบบุหรี่โลก (World No Tobacco Day) ซึ่งถูกกำหนดให้ตรงกับวันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจถึงผลเสียของควันบุหรี่ และสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับโรคร้ายที่เกี่ยวข้องกับการสูบบุหรี่ และการสูดดมควันบุหรี่ทางอ้อม วันนี้ไทยเกอร์จะพาทุกคนไปดูด้วยกันว่า การสูบและสูดดมควันบุหรี่ทำให้เกิดโรค ตลอดจนส่งผลเสียอะไรต่อสุขภาพร่างกายของเราบ้าง ใครพร้อมแล้วไปดูด้วยกันได้เลย
วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พ.ค. ผลเสียของการสูดดมควันบุหรี่
วันงดสูบบุหรี่โลก ได้ถูกกำหนดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1998 โดยองค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งใช้ชื่อภาษาอังกฤษว่า World No Tobacco Day เพื่อเน้นย้ำถึงอันตรายของการสูบบุหรี่และการสูดดมวันบุหรี่ กระตุ้นให้บุคคล ชุมชน และรัฐบาลดำเนินการส่งเสริมการใช้ชีวิตห่างไกลบุหรี่
ในวันงดสูบบุหรี่โลกนี้ ได้มีการริเริ่มกิจกรรมด้านต่าง ๆ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมรณรงค์ต่อต้านการสูบบุหรี่ และสนับสนุนมาตรการควบคุมบุหรี่ให้เข้มงวดขึ้น ตลอดจนปกป้องผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ให้มีชีวิตที่ปลอดภัย และป้องกันไม่ให้เยาวชนหันมาสูบบุหรี่มากขึ้นในอนาคต
ผลเสียจากการสูบบุหรี่
การสูบบุหรี่สามารถก่อให้เกิดผลเสียต่อร่างกายได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นสภาพร่างกาย จิตใจ และปัญหาในระบบทางเดินหายใจ ตลอดจนเกิดโรคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. เสพติดนิโคติน
ในบุหรี่มีสารที่ชื่อว่านิโคติน ซึ่งเป็นสารเสพติดที่นำไปสู่ปัญหาทางร่างกายและจิตใจ การติดนิโคตินเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่สามารถเลิกสูบบุหรี่ได้ ซึ่งใครที่อยากเลิกต้องใช้ความพยายามและการสนับสนุนอย่างมากจากคนรอบตัว
2. ความเสียหายต่อระบบทางเดินหายใจ
การสูบบุหรี่ทำลายระบบทางเดินหายใจ ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย โดยมันจะเข้าไปเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรัง ถุงลมโป่งพอง และการติดเชื้อทางเดินหายใจ อีกทั้งสารพิษในควันบุหรี่ยังทำอันตรายต่อเนื้อเยื่อปอด ทำให้ปอดทำงานได้น้อยลง
3. สาเหตุของโรคมะเร็ง หัวใจ และหลอดเลือด
การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของโรคร้าย ที่เพิ่มอัตราการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรของคนทั่วโลก ผลร้ายของการสูบบุหรี่นั้นมีหลายอย่างและส่งผลกระทบต่ออวัยวะและระบบต่าง ๆ ในร่างกาย ดังนี้
3.1 มะเร็งปอด
เป็นที่ทราบกันดีว่า บุหรี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้คนจำนวนมากเป็นโรคมะเร็งปอด โดยควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งที่ทำลายเซลล์เยื่อบุปอด นำไปสู่การพัฒนาของเนื้องอกมะเร็ง ซึ่งมะเร็งปอดเป็นโรคร้ายแรงที่มีอัตราการรอดชีวิตต่ำ ฉะนั้นการเลี่ยงมะเร็งปอดที่ดีที่สุด คือการลดละเลิกบุหรี่นั่นเอง
3.2 โรคหัวใจและหลอดเลือด
การสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคหลอดเลือดหัวใจอื่น ๆ เนื่องจากสารเคมีในควันบุหรี่เป็นอันตรายต่อหลอดเลือด ทั้งยังส่งเสริมการก่อตัวของคราบจุลินทรีย์ และมีส่วนทำให้หลอดเลือดตีบตัน เพิ่มโอกาสของโรคหัวใจและหลอดเลือดให้มีความเสียหายมากยิ่งขึ้น
3.3 โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD)
การสูบบุหรี่เป็นเวลานานเป็นสาเหตุหลักของโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง ซึ่งเป็นโรคปอดที่ลุกลามได้เร็ว อีกทั้งยังเกี่ยวพันกับโรคหลอดลมอักเสบเรื้อรังอีกด้วย โดยปอดอุดกั้นเรื้อรังทำให้ผู้ป่วยหายใจลำบาก การทำงานของปอดลดลง และใช้ชีวิตอย่างทรมาน
อันตรายจากการสูดดมควันบุหรี่
การสูดดมควันบุหรี่ หรือที่เรียกกันว่าบุหรี่มือสอง (Secondhand Smoke) เกิดขึ้นได้แม้เราจะไม่ได้สูบบุหรี่ด้วยตนเอง แต่สูดดมควันบุหรี่จากคนใกล้ตัว โดยมันจะส่งผลทำให้ผู้ที่สูดดมมีความเสี่ยงกับหลายโรค ดังนี้
1. ความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินหายใจ
การสูดดมควันบุหรี่สามารถนำไปสู่ปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืด หลอดลมอักเสบ และปอดอักเสบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็ก อีกทั้งได้มีการค้นพบว่า ผู้ที่ไม่สูบบุหรี่แต่สัมผัสกับควันบุหรี่มือสอง มีแนวโน้มที่จะเกิดภาวะทางเดินหายใจเหล่านี้ได้ง่ายกว่าคนทั่วไป
2. ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด
การสูดดมควันบุหรี่ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ โดยอาจทำให้ผู้ที่สูดดมควันบุหรี่เกิดอาการหัวใจวาย และมีโอกาสที่จะป่วยเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดสมองได้
จึงสรุปได้ว่า วันงดสูบบุหรี่โลก 31 พฤษภาคม ถือเป็นวันสำคัญที่จะคอยเป็นเครื่องเตือนใจ ถึงผลเสียของการสูบบุหรี่และอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการสูดดมควันบุหรี่ทางอ้อม ฉะนั้นการทำความเข้าใจโรคที่เกิดจากการสูบบุหรี่จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่เราทุกคนจะได้ป้องกันตนเองและคนรอบข้าง ให้ปลอดภัยจากโรคและอันตรายใกล้ตัว ตลอดจนส่งเสริมการใช้ชีวิตโดยปราศจากสารนิโคตินและควันพิษ ร่วมกันสร้างอนาคตที่มีสุขภาพดีขึ้นเพื่อคนที่เรารัก.