เปิดหน้า 5 พรรคร่วมรัฐบาล จับมือก้าวไกล ปิดสวิตซ์ ส.ว.
สิ่งที่ต้องจับตาดูไม่ให้พลาดคือความเคลื่อนไหวหลังจากเลือกตั้ง 2566 พรรคก้าวไกลต้องเจอความท้าทายในการจัดตั้งรัฐบาล และโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี เป้าหมายคือต้องได้เสียงโหวต 376 เสียงเพื่อเดินหน้าต่อ
5 พรรคร่วมรัฐบาล กำหนดอนาคตประเทศ หลังเลือกตั้ง 2566
ตอนนี้ อ้างอิงจากการสัมภาษณ์ของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ได้แถลงความร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลตอนนี้มี 5 พรรคร่วมรัฐบาล เบื่องต้นคือ
- พรคคก้าวไกล
- พรรคเพื่อไทย
- พรรคประชาชาติ
- พรรคไทยสร้างไทย
- พรรคเสรีรวมไทย
ตอนนี้มีเสียง ส.ส. ในมือ 308 เสียง และ รวมอีก 1 เสียงจากพรรคเป็นธรรม เป็น 309 เสียง ยังขาดอีก 67 เสียงถึงจะสามารถโหวตนายากรัฐมนตรีผ่าน ถือเป็นงานยากมาก ๆ ทางออกคือต้องร่วมกันกดดันให้สมาชิกวุฒิสภาทั้ง 250 คน เคารพฉันทามติของประชาชน รวมถึงเรียกร้องให้พรรคการเมืองพรรคอื่นร่วมโหวตให้พิธาเป็นนายก ปิดสวิตซ์ ส.ว. ให้ระบบการเมืองประชาธิปไตยเดินหน้าต่อไปได้
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตพรรคเพื่อไทย กล่าวสื่อสารถึงพรรคการเมืองอื่นที่ได้เสียง ส.ส. เข้ามาในสภา ว่า สปิริตทางการเมืองที่ผมหวังให้มีที่สุดในตอนนี้ คือการเห็นทุกพรรคการเมืองไทยยึดโยงและทำตามเสียงประชาชนอย่างแท้จริง ที่ในเร็ว ๆ นี้ จะมีการเสนอและโหวตนายกรัฐมนตรี และผมเองก็สนับสนุนให้คุณพิธา จากพรรคก้าวไกล ได้รับตำแหน่งอย่างสง่างามอย่างเต็มภาคภูมิ
พรรคก้าวไกลโตขึ้นมาจาก 81 คนในปี 62 มาเป็น 152 ในปี 66 (เลขล่าสุด) เลขจำนวน ส.ส. ที่พรรคก้าวไกลได้ เป็นสัญลักษณ์ที่ชัดเจนว่าอุดมการณ์ แนวทางของพวกเขา ได้รับฉันทามติของประชาชนชาวไทยอย่างแท้จริง เป็นปรากฏการณ์ที่ผมคิดว่าปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของสังคมไทย
กลับมาที่พรรคที่ได้ ส.ส. ในสมัยนี้ หลายพรรค (ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์) เคยแสดงจุดยืนว่าไม่สนับสนุน รธน. ปี 60 ที่ให้อำนาจ ส.ว. ในการโหวตเลือกนายก
ตอนนี้เป็นเวลาที่พวกท่านต้องทำตามจุดยืนของพวกท่าน โหวตสนับสนุนนายกที่พรรคก้าวไกลเสนอ ซึ่งก็คือคุณพิธา ให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ตามกติการะบอบประชาธิปไตยอยางแท้จริง ไม่ต้องรอให้ ส.ว. 250 คนต้องออกเสียง และทำให้ท่านได้ทำหน้าที่ของพรรคและนักการเมืองได้อย่างมีความสง่า มีความภาคภูมิ พูดได้เต็มปากว่า Represent ประชาธิปไตยได้อย่างเต็มตัว ทำให้ประเทศได้ผู้นำที่พร้อมจะนำพาประเทศพัฒนาไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็ว สร้างความสุขและการเปลี่ยนแปลงให้กับประชาชนทุกคน
ทุกสิ่งอย่างที่พรรคทำ จะมีผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในอนาคต การเพิกเฉยต่อหน้าที่เหล่านี้มีราคาแพงที่ต้องจ่ายในอนาคตครับ