ข่าว

ไทม์ไลน์คดีปริศนา ก้อย เสียชีวิตที่ท่าน้ำ ลามไปสารไซยาไนด์ สรุปเป็นฆาตกรรมต่อเนื่องไหม ?

สรุป ไทม์ไลน์คดีปริศนา ก้อย สาวท้าวแชร์ เสียชีวิตคาท่าน้ำหลังปล่อยปลา ผลชันสูตรถูกวางยาไซยาไนด์ พาเปิดหลักฐาน ความคืบหน้าคดีทั้งหมดจนถึงตอนนี้ ที่ แอม สาวคนสนิทผู้ตาย ถูกจับ คุมตัวเค้นปากคำเดือด หลังคดีส่อเค้าบานปลายเป็นฆาตกรรมต่อเนื่อง เหตุพบเหยื่อดับมีพรุธลักษณะเดียวกันเกือบ 10 ราย ด้านผู้ต้องสงสัยให้การปฏิเสธ

จากกรณีการเสียชีวิตของ “คุณก้อย” น.ส.ศิริพร ขันวงษ์ อายุ 32 ปี เท้าแชร์คนจังหวัดกาญจนบุรี ที่เป็นลมล้มวูบหมดสติขณะปล่อยปลา ก่อนเสียชีวิตสลดในเวลาต่อมา โดยสาเหตุการเสียชีวิตคาดว่าเกิดจากการได้รับสารไซยาไนด์เข้าสู่ร่างกายและคดีนี้ได้มีการออกหมายจับพร้อมกับจับกุมตัว แอม สรารัตน์ รังสิวุฒาพรณ์ ผู้ต้องหาซึ่งเป็นภรรยานายตำรวจระดับรองผู้กำกับ (ผกก.) ในพื้นที่ จ.ราชบุรี เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม คดีหญิงสาววูบดับขณะไปทำบุญปล่อยปลาที่ อ.บ้านโป่ง กลับส่อเค้าบานปลาย หลายคนกำลังเฝ้าจับตาว่า คดีนี้สุดท้ายผลจะออกมาเป็นคดีฆาตกรรมต่อเนื่องสุดสยองหรือไม่ หลังจากนรายงานล่าสุดจาก บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ สุรเชษฐ์ หักพาล ระบุ ตอนนี้จากการสืบทราบข้อเท็จจริง พบผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ราย โดยคดีมีลักษณะคล้ายกัน 7 คดี

ขอบคุณคลิป : เรื่องเล่าเช้านี้

จากจุดเริ่ม ก้อย เสียชีวิต ท้าวแชร์วูบดับปริศนา สู่ข้อสงสัยเหยื่อตายคล้ายกันเกือบ 10 ราย

จากตอนแรกที่เป็นแค่ข้อสงสัยถึงสาเหตุการตายของ ก้อย หรือ น.ส.ศิริพร ซึ่งจากข้อมูลคดีนี้ผ่านมานานถึง 2 ปี ก่อนที่ แอม หญิงสาวผู้ต้องหาจะถูกจับตัวมาเข้าสู่กระบวนการทางกฏหมาย โดยหลักฐานสำคัญที่นำไปสู่การอนุมัติหมายจับคือการผ่าพิสูจน์ศพผู้่เสียชีวิตซึ่งก็คือคุณก้อย แล้วพบว่ามีสารไซยาไนในร่างกาย

นอกจากนี้ยังมีหลักฐานจากการตรวจที่เกิดเหตุพบขวดไซยาไนอยู่ที่หลังบ้านของ น.ส.แอม ผู้ต้องหา จึงทำให้คาดว่า คนก่อเหตุ คือ แอม เพื่อนสนิทของผู้ตาย ที่ต่อมามีหลักฐานจากกล้องวงจรปิดพร้อมกับคำสารภาพที่ทาง นายรพี ชายผู้เข้ามาช่วยสืบหาข้อเท็จจริงในคดีนี้ ได้เปิดเผยข้อมูลในรายการโหนกระแสวันนี้ ว่า แอม ได้เดินทางไปกับ ก้อย ในวันที่เกิดเหตุจริง

เพราะหลังจากได้มีการสืบหาข้อเท็จจริงจากรถยนต์ส่วนตัวของผู้ตาย ที่ทำให้ทราบว่า เจ้าตัวได้เปลี่ยนรถ โดยไปขึ้นรถของผู้ต้องสงสัย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังสถานที่ทำบุญปล่อยปลา

สามีเหยื่ออีกราย โผล่หอบหลักฐานพบ “สาว อ.” อดีตเมียรอง ผกก.ราชบุรี มีเอี่ยว

ล่าสุด มีผู้เสียหายนำหลักฐานมายืนเพิ่มเติม หลังภรรยาเสียชีวิตคล้ายกับน้องก้อยและวันเกิดเหตุได้อยู่กับ แอม สรารัตน์ เหมือนกัน

โดยสามีผู้เสียชีวิตหรือเหยื่ออีกราย เปิดเผยกับนักข่าววันนี้ โดยระบุว่า ภรรยาของตนรู้จักกับ นางสาวแอม ประมาณ 3 เดือน ผ่านโซเชียล ก่อนจะชวนกันไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งในจังหวัดราชบุรี ในวันที่ 11 กันยายน 2565 ซึ่งระหว่างทางได้แวะเข้าห้องน้ำที่ปั๊ม ปตท.โพธาราม และภรรยาของตนได้เสียชีวิต ด้วยอาการเป็นลมหมดสติที่นั่น ทั้งที่ภรรยาเป็นคนแข็งแรงดี ไม่มีโรคประจำตัว แต่ตนไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเป็นการเสียชีวิตปกติ

กระทั่งมีข่าวการเสียชีวิตของน้องก้อย ที่ได้เสียชีวิตหลังจากไปปล่อยปลาที่ท่าน้ำบ้านโป่ง ด้วยอาการเป็นลมหมดสติและวันเกิดเหตุก็อยู่กับหญิงที่ชื่อแอมเช่นเดียวกัน จึงเกิดข้อสงสัยว่าภรรยาตนอาจจะไม่ได้เสียชีวิตตามปกติ แต่เป็นการฆาตรกรรม

แอม สรารัตน์

บิ๊กโจ๊ก ตอบแล้วคดีนี้เป็น “ฆาตกรรมต่อเนื่อง” หรือไม่ ?

ภายหลังไทม์ไลน์ของคดีเริ่มขยายวงกว้าง และทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการร่วมประชุมกันระหว่างทาง ตำรวจสอบสวนกลาง ตำรวจภูธรภาค 7 และเรียกตำรวจ 3 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่เกิด คือ จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดนครปฐม และจังหวัดราชบุรี เนื่องจากคดีนี้มีระยะเวลา ผ่านไปถึง 2 ปี ในการมาช่วยกันไล่เลียงพยานหลักฐานความเชื่อมโยงมัดตัวผู้กระทำความผิดให้ได้

พล.ต.อ สุรเชษฐ์
แฟ้มภาพ Facebook @POLICETV สถานีโทรทัศน์สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทั้งนี้ จากการไล่เลียงเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่าคดีนี้ลักษณะคล้ายกัน 7 คดี มีผู้เสียชีวิตถึง 9 คน โดย คดีที่ทางตำรวจสอบสวนกลางขออนุมัติศาลออกหมายจับเป็นคดีที่เกิดขึ้นที่บ้านโป่ง จ.ราชบุรี จึงเหลืออีก 6 คดี

ขณะที่ในส่วนของเหตุจุงใจการก่อเหตุคดีการเสียชีวิตก้อยท้าวแชร์นั้น บ๊กโจ๊ก พล.ต.อ สุรเชษฐ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบคดีเชื่อว่าน่าจะเป็นเรื่องประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้ตาย

สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่ทางบิ๊กตำรวจกล่าว คือ เหยื่อที่เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นคนที่อยู่แวดล้อมกับผู้ก่อเหตุทั้งหมดที่อยู่ในแฟตตำรวจและก็เป็นตำรวจ ตัวผู้ก่อเหตุจึงรู้ว่าเป้าหมายทำอะไรอยู่และมีเงินหรือไม่มีเงิน

อย่างไรก็ตาม รองโจ๊ก ระบุชัดเจน เรื่องนี้จะต้องดำเนินการให้ถึงที่สุดว่า มีผู้ใดเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดครั้งนี้หรือไม่ เพราะถือว่าเรื่องนี้เป็นการฆาตกรรมต่อเนื่อง การจะเอาผิดคนร้ายได้ ต้องใช้พยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ จึงต้องขอรวบรวมพยานหลักฐานอย่างระเอียดเพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายให้ได้ทุกราย.

น้องก้อยเสียชีวิต

แอมปฏิเสธข้อหา ยันไม่ได้วางยาไซยาไนด์ ทนายออกโหนกระแส

ด้านฝั่งของผู้ต้องหา นางสรารัตน์ หรือ “แอม” เวลานี้เจ้าตัวยังคงยืนกรานให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลัง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ทำการสอบสวน โดยใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่จะคุมตัวผู้ต้องหาไปสอบสวนต่อที่กองบังคับการปราบปราม โดยระหว่างที่คุมตัวนางสรารัตน์ยังได้ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องคอยกันสื่อมวลชนให้ออกห่างจากตัวนางสรารัตน์ เพราะอยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์ด้วย

ขณะที่ ทนายความธันย์นิชา เอกสุวรรณวัฒน์ ซึ่งมีการให้สัมภาษณ์สดทางโทรศัพท์ผ่านรายการโหนกระแสของหนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย วันนี้ ระบุ ในแง่ของกระบวนการต่อสู้คดีความทางกฏหมาย โดยเฉพาะเรื่องที่หลายคนมองว่า ผู้ต้องสงสัยหรือลูกความของตนนั้น มีความผิดปกติเชื่อมโยงกันหลายเคส

หรือมีการไปกล่าวหาใครว่าวางยา มอมยา ประเด็นนี้ต้องเอาพยานหลักฐานมากล่าวอ้างกัน ซึ่งการจะไปวางยาใคร ต้องมีภาชนะ สิ่งเชื่อมโยงนำพา ต้องมีแพทย์ มีผู้เชี่ยวชาญ มาพิสูจน์กันในเชิงนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งการตรวจพิสูจน์ ผ่าชันสูตรแยกธาตุออกมา ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้อีกว่าเป็นฝีมือของใคร ลูกความของตนอาจจะโชคร้ายที่เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน.

กรรชัย โฟนอิน ทนายความของแอม
ภาพ รายการโหนกระแส

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button