แม่ร้องตำรวจ ถูกขโมยเงินก้อนสุดท้าย 3 พันบาท ขณะนอนเฝ้าลูกผ่าตัดสมอง
หญิงวัย 43 ปี เข้าร้องตำรวจหลัง ถูกขโมยเงินขณะนอนเฝ้าลูกผ่าตัดสมอง เป็นจำนวนเงิน 3,000 บาท วอนคนร้ายเอามาคืน เพราะเป็นเงินก้อนสุดท้าย
น.ส.เกวลิน อายุ 43 ปี บ้านอยู่ ต.บ้านจันทน์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี จูงมือหลานวัย 6 ขวบ เข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ชานนท์ โสนะโชติ รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี หลังจากที่ คนร้ายบุกเข้าไปขโมยเงินในกระเป๋าขณะนอนอยู่ที่เรือนพักญาติ รพ.ศูนย์อุดรธานี ฉวยโอกาสตอนที่ตนอาบน้ำ และขโมยเงิน 3 พันบาท ซึ่งเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่นำติดตัวมาขณะใช้เฝ้าลูกสาว
ตนเดินทางมาจาก อ.บ้านดุง เพื่อนอนเฝ้าลูกสาวที่ผ่าตัดสมอง โดยอยู่มานานถึง 2 เดือน โดยหลานสาวที่เอามาด้วยก็เป็นลูกของลูกสาววัย 6 ขวบเอามาเพื่อเป็นกำลังใจให้แม่ที่ป่วยอยู่เพราะตอนนี้อาการหลังผ่าตัดนั้นไม่ดีขึ้นมีเพียงกระพริบตาและขยับได้เพียงเล็กน้อย
ผู้เสียหายเล่าว่า ลูกสาวตนเองชื่อวิมลมณี อายุ 24 ปี แต่ก่อนทำงานขายอาหารตามสั่งที่จ.ภูเก็ต ต้องผ่าตัดสมองเป็นครั้งที่ 3 เพราะมีเลือดคั่งในสมอง หลังจากถูกสามีทำร้ายร่างกายจึงกลับมาอยู่บ้าน ผ่าตัดครั้งแรกเมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ผ่าครั้งแรกก็ไปพักฟื้นที่บ้าน แต่อาการไม่ดีขึ้นก็กลับมาใหม่ ผ่าตัดครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ตนเองจึงมาเฝ้า โดยนอนที่เรือนพักญาติกับหลานสาว ซึ่งเป็นลูกของลูกสาวเอง
แต่เมื่อวานนี้ เงินในกระเป๋าประมาณ 3,000 บาทเศษได้หายไปทั้งเอกสารสำคัญ บัตรประชาชน atm ของธนาคาร คาดว่าคนร้ายเข้ามาขโมยในช่วงที่ตนเองอาบน้ำ รู้ว่าเงินหายเมื่อเช้าวันนี้ก่อนมาโรงพัก จะควักเอาเงินให้หลานสาวไปซื้อขนมแต่เงินไม่เหลือแล้ว เสียใจมากเราไม่มีเงินเหลือแล้วจึงเดินทางมาโรงพักเพื่อแจ้งความให้คนร้ายเอาเงินมาคืนเพราะเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่ตนเองมีอยู่ ที่ต้องเอาหลานมาด้วยเพื่อให้กำลังใจแม่เขาด้วย
ผู้เสียหายฝากถึงคนร้ายทั้งน้ำตา ขออย่าไปทำกับคนอื่น คิดถึงใจเขาใจเรา ยามไม่มีเงินก็ไม่มีจริงๆ พี่น้องก็ช่วยไม่ได้ตลอด สงสารคนที่มาเฝ้ามาเฝ้าหลาน ทุกข์พอแรงแล้วที่ลูกป่วย อย่ามาซ้ำเติมความทุกข์ให้เขาอีก ตอนนี้ตนไม่มีเงินเลยไม่รู้ว่าลูกที่ป่วยจะนอนโรงพยาบาลนานขนาดไหนนี่ก็เฝ้ามา 2 เดือน จากบ้านมารพ.เกือบ 100 กม.ขี่มาด้วยกัน 2 ยายหลานที่โปรดเอามาคืนเราด้วย
ขณะที่ฝากถึงคนร้าย อย่าไปทำกับคนอื่น คิดถึงใจเขาใจเรา ยามไม่มีเงินก็ไม่มีจริงๆ พี่น้องก็ช่วยไม่ได้ตลอด สงสารคนที่มาเฝ้ามาเฝ้าหลาน ทุกข์พอแรงแล้วที่ลูกป่วย อย่ามาซ้ำเติมความทุกข์ให้เขาอีก ตอนนี้ตนไม่มีเงินเลยไม่รู้ว่าลูกที่ป่วยจะนอนโรงพยาบาลนานขนาดไหนนี่ก็เฝ้ามา 2 เดือน จากบ้านมารพ.เกือบ 100 กม.ขี่มาด้วยกัน 2 ยายหลานที่โปรดเอามาคืนเราด้วย