หญิงอยู่ในถ้ำคนเดียว 500 วัน ตัดขาดโลกภายนอก เหลือเชื่อยังรอดชีวิตออกมา
หญิงอยู่ในถ้ำคนเดียว ไม่ติดต่อโลกภายนอก 500 วัน เพื่อศึกษาผลกระทบของการอยู่คนเดียว ล่าสุดออกมาจากถ้ำแล้ว ลุ้นทุบสถิติโลก
เมื่อวันที่ 15 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานว่า เบียทริซ ฟลามินี นักปีนเขาและนักกีฬาเอ็กซ์ตรีมชาวสเปน ที่ปัจจุบันวัย 50 ปี ได้ออกมาจากถ้ำในประเทศรัสเซียแล้ว หลังจากที่เธออาศัยอยู่ในถ้ำดังกล่าวถึง 500 วัน เพื่อการทดลองวิทยาศาสตร์ ซึ่งมีนักวิจัยจับตาดูเธออย่างใกล้ชิด
นาง ฟลามินี เล่าว่าเธอเข้าไปในถ้ำตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2564 และเธอไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งตอนที่เธอเข้าไปในถ้ำนั้นเธอยังมีอายุ 48 ปี โดยในช่วงเวลาที่อยู่ในถ้ำนั้นเธอวาดรูป ออกกำลังกาย ถักไหมพรม อ่านหนังสือกว่า 60 เล่ม
แม้ว่าเธอจะถูกจับตามองโดยนักวิทยาศาสตร์ นักจิตวิทยา นักวิจัย อย่างใกล้ชิด แต่ไม่มีใครติดต่อกับเธอเลย โดยนาง ฟลามินี ระบุว่าเธอไม่ได้คุยกับใครเลยนอกจากตนเองเป็นระยะเวลาปีกว่าๆ ซึ่งเธอยอมรับว่าเธอเสียสมดุลกับการที่ไม่ได้พูดคุยกับใครนานขนาดนี้
นาง ฟลามินี ระบุว่าด้วยว่าเธอเริ่มไม่รู้ว่าเธออยู่ในถ้ำนานเท่าไหร่ หลังจากที่เธออยู่ในถ้ำได้ 2 เดือน ซึ่งเธอคิดว่าเธออยู่ในถ้ำราวๆ 160-170 วัน แต่ความเป็นจริงแล้วเธออยู่ในนั้นนานกว่า 500 วัน และถือเป็นสถิติของการที่คนอยู่ในถ้ำนานที่สุดในโลก ทั้งนี้เธอบรรยายว่าประสบการณ์ของเธอนั้นยอดเยี่ยม
สำหรับการวิจัยครั้งนี้ก็เพื่อศึกษาถึงผลกระทบของการแยกตัวจากสังคมรวมถึงการสูญเสียการรับรู้ถึงเวลา
อย่างไรก็ตามด้านกินเนสบุ๊คไม่ยืนยันว่าเคยมีใครทำสถิติอยู่ในถ้ำเพียงคนเดียวโดยความสมัครใจหรือไม่